ร่างของตั๊กแตนสีดำเริ่มสลายตัว สุดท้ายกลายเป็นแสงแล้วมลายหายไป
อันหลินเห็นภาพนี้ก็เกร็งไปทั้งตัว เพ่งมองตำแหน่งหนึ่งที่อยู่ไกลๆ
มีภูตหญิงสวมชุดกระโปรงสีขาว ผมทองตามรกตคนหนึ่งอยู่ไกลออกไปสามลี้ ปีกสีทองกึ่งโปร่งใสกางออกเต็มที่ บินมาทางอันหลินด้วยความเร็วที่น่ากลัวยิ่งยวด มือกำกระบี่สีทองเล่มหน นึ่ง
กลิ่นอายของภูตหญิงคนนี้ยิ่งใหญ่สุดแสน แม้ว่าระดับพลังยุทธ์จะคล้ายคลึงกับภูตหนุ่มผู้แข็งแกร่งชั้นปราชญ์ก่อนหน้านี้ แต่ในด้านปริมาณ กลับเหนือกว่าภูตหนุ่มสองคนนั้นอย่างมาก กโข
หากจะให้นิยามละก็ คงเป็นความแตกต่างของบ่อน้ำกับท้องทะเล!
เมื่อแมนเดลกับแฮร์ริสเห็นภูตหญิงที่บินมา ใบหน้าที่เซื่องซึมก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง “ท่านปราชญ์หญิง นางกลับมาแล้ว เรามีทางรอดแล้ว!”
ขณะเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งที่สูญเสียกำลังต่อสู้เพราะต้องวิชาอานุภาพก็ทอดสายตามองบนท้องฟ้า ใบหน้าฉายความตื้นตันและความเลื่อมใสอย่างปิดไม่มิด
“ท่านปราชญ์หญิง ท่านปราชญ์หญิงกลับมาจากการปราบมังกรปีศาจแล้ว!”
“ปราชญ์หญิงมีพลังล้นฟ้า ต่อให้ยักษ์ปีศาจเทพเจ้าจะเก่งกาจก็ยากจะหนีความตายพ้นแน่ๆ!”
…
อันหลินเห็นภูติหญิงที่บินมาอย่างทรงพลังก็อ้าปากพูดทันทีว่า “ช้าก่อน ข้าไม่ได้มาวิวาท เรามาเจรจากันหน่อย”
“ยักษ์ปีศาจเทพเจ้าที่พูดได้งั้นหรือ” ภูตหญิงชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมยิ่งขึ้น “หน้าตาเหมือนมนุษย์ปานนี้…เป็นยักษ์ปีศาจเทพเจ้ากลายพันธุ์หรือ สิ่งมีชีวิต แบบนี้จะเก็บไว้ในแผ่นดินไม่ได้เด็ดขาด!”
อันหลิน “…”
จิตสังหารของภูตหญิงพลุ่งพล่านกว่าเดิม ชูกระบี่สีทองขึ้นสูงขยายใหญ่ขึ้นยืดยาวไม่หยุด สุดท้ายยาวร่วมพันเมตร ดุจกระบี่คมเสียบทะลุนภาลัยทะลวงชั้นเฆม
“ปรากฏกายแล้ว! นี่เป็นกระบี่พิฆาตมังกรของท่านปราชญ์หญิง! กระบี่แฝงด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัว ตวัดหนึ่งครั้งสามารถทลายภูเขาหลายสิบลูกให้แหลกเป็นผุยผงพร้อมกันได้!” ผู้ แข็งแกร่งบนพื้นอุทาน
กระบี่สีทองแหวกอากาศด้วยพลังที่น่ากลัว ตวัดลงมาหมายฟันอันหลิน
อันหลินตะโกนเสียงกร้าว กระตุ้นหกกระบี่เทพสงครามสุดกำลัง ประจันหน้ากับกระบี่สีทองโดยตรงแล้วตวัดปล่อยลำแสงสีดำลึกล้ำออกไปหนึ่งเส้น
โครม
พลังที่น่ากลัวสองสายประสานงากัน ทำให้ฟ้าดินดังสะเทือนเลือนลั่น ปฐพีแตกระแหง
อันหลินถูกพลังที่น่ากลัวสะเทือนจนลอยออกไป ภูตหญิงก็ถูกพลังกระแทก ชั่วขณะที่ร่างกายถอยหลัง ใบหน้าก็ฉายความตกใจ
อึดใจต่อมา ทั้งสองก็ปะทะกันอีกครั้ง
ตูมๆ ๆ
พลังที่น่ากลัวก่อตัวเป็นริ้วคลื่นแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ บดขยี้ผิวดินในรัศมีหลายร้อยเมตร ผู้แข็งแกร่งในละแวกนี้ต่างก็กระอักเลือดเพราะต้านทานอานุภาพไม่ไหว
อันหลินกับภูตหญิงสู้กันตั้งแต่บนพสุธาไปถึงนภาลัย ทุกครั้งที่ปะทะกันล้วนเหมือนอัสนีสวรรค์คำรามอย่างพิโรธบนเวหา เสียงดังกึกก้อง
นานมากแล้วที่อันหลินไม่ได้ใช้เพลงกระบี่อย่างสะใจแบบนี้ ตอนนี้เกิดสงครามที่ไม่ได้พบมาเนิ่นนาน ราวกับทุกอณูรูขุมขนตื่นตัว ยิ่งสู้ก็ยิ่งฮึกเหิม
เขาไม่คิดเลยว่าภูตหญิงที่ตัวเล็กกระจ้อยแบบนี้จะระเบิดพลังที่เทียบเท่าระดับสุดยอดแปลงจิตได้
ความสามารถอย่างภูตหญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้เทียมทานในดินแดนคนแคระแห่งนี้ แต่นางไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูง กลับสงบเสงี่ยมอย่างยิ่ง สร้างเพียงเมืองใจกลางแห่งเดียว มันทำให้อันหลินย ยิ่งสงสัยไปกันใหญ่
“เงาพันแสง!” จู่ๆ กระบี่สีทองของภูตหญิงก็กลายเป็นกระบี่ยาวหนึ่งเมตรนับพันเล่มลอยอยู่บนฟากฟ้า จากนั้นก็เทกระหน่ำลงมาดุจห่าฝนด้วยอานุภาพอันมหาศาล
ด้านหลังอันหลินมีปีกวายุกางออก ใช้ท่าร่างหลบหลีกท่ามกลางกระบี่อันเนืองแน่นอย่างรวดเร็ว สุดท้ายกระบี่ก็ปกคลุมด้วยกระแสลมสีขาว กระบี่สายลมกระบวนท่าที่หนึ่งถูกใช้ พุ่งไปอยู่ตร รงหน้าภูตหญิงในพริบตาแล้ววาดวงโคจรมรณะสีขาวบริสุทธิ์
ความเร็วของภูตหญิงเกินกว่าที่เขาจิตนาการไว้ ชั่วขณะที่ปีกสีทองสว่างโชติช่วง ร่างกายก็มีพลังจำพวกมิติกะพริบช่วงสั้นๆ ข้ามมิติถอยหลังไปสิบเมตร หลบหลีกการโจมตีของอันหลิน น
“ฮ่าๆ ๆ…เอาอีก!” อันหลินยิ้มพลางพุ่งใส่ภูตหญิงอีกครั้ง
ใบหน้าคมคายของภูตหญิงซีดเผือด แต่ก็ยังกัดฟันพุ่งใส่อันหลิน
การต่อสู้ของทั้งสองเรียกได้ว่าสะเทือนฟ้าดิน คลื่นพลังงานถึงขั้นม้วนตัวไปไกลสิบลี้
ทั้งเมืองใจกลางถูกพายุพัด ผู้คนมองพลังงานที่ปะทะกันไม่หยุดหย่อนบนท้องฟ้าอย่างอกสั่นขวัญแขวน ตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้ซึ้งว่าพลังของปราชญ์หญิงยิ่งใหญ่ปานใด และยักษ์ปีศาจเทพเจ้าที สู้รบกับเขาน่ากลัวปานใด
“ยักษ์ปีศาจเทพเจ้าต่ำช้า ข้าจะจบชีวิตของเจ้าโดยหนึ่งกระบวนท่า!” ภูตหญิงกรีดข้อมือขาวสะอาด เลือดสีทองไหลหลั่งกลางเวหา
“สังเวยกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ด้วยเลือดของข้า!”
เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของนาง เลือดสีทองก็เริ่มแทรกซึมลงไปในกระบี่ศักดิ์สิทธิ์
“นี่! ข้าแค่มาเจรจาจริงๆ นะ ไม่ได้มาสู้ตาย!”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม