“เบา…เบาหน่อย!”
ภูตหญิงครางกระเส่า ท่อนแขนที่ขาวผุดผ่องเป็นยองใยกอดอก หลับตาปี๋ราวกับกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดอันรุนแรง
“ทนหน่อย พลังคำสาปนั่นแข็งแกร่งยิ่งนัก ข้าจำต้องเพิ่มพลังเพลิงอีก!” อันหลินสัมผัสได้ว่าพลังที่น่ารังเกียจนั่นกำลังมุดหนีและแผ่ซ่านภายในร่างกายของภูตหญิง ถึงขั้นว่ามีพลั งที่แทรกแซงดวงจิตคิดจะแฝงจิตวิญญาณ
“สัตว์นรก! รีบปล่อยตัวปราชญ์หญิงนะ!”
แมนเดลกับแฮร์ริสไม่ได้ยินบทสนทนาระหว่างอันหลินกับภูตหญิง แต่กลับเห็นใบหน้าที่ทรมานของภูตหญิง จึงนึกว่าอันหลินจะกระทำเรื่องเลวทรามอันใด จึงพยายามเหาะไปหาอันหลินสุดชีว วิต
“อย่ามากวนข้า” แหวนมิติของอันหลินสว่างวาบ ต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ปรากฏกายบนพสุธา
แมนเดลกับแฮร์ริสลมหายใจชะงักไปเมื่อเห็นหุ่นยนต์สีเงินขนาดใหญ่โผล่มากะทันหัน
จากนั้นพวกเขาก็เห็นฝ่ามือมหึมาแหวกอากาศมา
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
ผู้แข็งแกร่งขั้นปราชญ์สองคนถูกการโจมตีที่มาโดยไม่ได้ตั้งตัวกระแทกเข้าอย่างจัง ตกลงสู่พื้นปานขีปนาวุธอีกครั้ง
เพลิงเทวะของอันหลินขจัดคำสาปจนถึงจุดที่สำคัญ เขาบีบพลังคำสาปดั้งเดิมไปจนถึงมุมหนึ่งของร่างกายภูตหญิงแล้ว หากขจัดคำสาปจากภายในอาจทำให้ร่างกายของนางบาดเจ็บสาหัส วิธีที่ ดีที่สุดคือบีบมันออกนอกกายแล้วทำการกำจัด
“ภูตน้อยรีบอ้าปากเร็ว!” อันหลินโพล่งขึ้นมา
ภูตหญิงได้ฟังก็ลืมตาที่มีหยาดน้ำคลอหน่วยขึ้น ดวงตาของนางกลายเป็นสีมรกตที่สุกใสอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเพลิงเทวะได้ผลดีชะงัด
“รีบอ้าปากสิ ข้าจะขับคำสาปดั้งเดิมออกจากปากของเจ้า!” อันหลินออกปากสั่งอีกครั้ง
ใบหน้าขาวเนียนของภูตหญิงแดงเรื่อ อ้าปากจิ้มลิ้มด้วยความเขินอาย ใต้ฟันขาวสะอาดแวววาวเป็นลิ้นที่อ่อนนุ่ม
อันหลินเพ่งสายตา ปลายนิ้วกระตุ้นเพลิงเทวะสุดกำลัง พลังเพลิงถาโถมมาจากทุกสารทิศ บีบต้นตอคำสาปไปยังปากของภูตหญิง
บางทีอาจเป็นเพราะสัญชาติญาณความอยู่รอดของต้นตอคำสาป มันเริ่มมุดออกจากปากของภูตหญิง กิ่งก่าหมอกควันสีดำสนิทปรากฏกลางอากาศ อุณหภูมิรอบกายลดฮวบลงมา
ตอนนี้มันต้องการร่างสิงอย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นอันหลินก็คำรามจะพุ่งใส่อันหลิน!
“ไม่เจียมตัว”
อันหลินสะบัดมือ เพลิงเทวะทั้งสี่ก็กลายเป็นเตาหลอมที่น่ากลัว ทำลายล้างต้นตอคำสาปนั่นในพริบตา!
ภูตหญิงลุกขึ้นจากฝ่ามือของอันหลิน เหงื่อโซมกาย ใบหน้าฉายความซาบซึ้ง โค้งตัวคำนับเล็กน้อย “ขอบคุณเจ้าที่ช่วยขจัดคำสาปให้ข้า…เจ้าไม่เหมือนยักษ์ปีศาจเทพเจ้าตนอื่นจริงๆ ด้วย ย”
“ข้าไม่ใช่ยักษ์ปีศาจเทพเจ้าแต่แรกไหมเล่า!” อันหลินพูดอย่างไม่พอใจ “ข้ายอมรับว่าข้ามาที่นี่เพื่อสิ่งของบางอย่าง แต่ก็มาด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการเจรจา อืม จริงใจเป็นอย่างยิ่ง! !”
หลังต๋าอีกับต๋าเอ้อร์ทุบตีแมนเดลกับแฮร์ริสจนหน้าปูดบวมแล้ว ก็กลับเข้าไปในแหวนมิติของอันหลินอีกครั้ง
“เจ้าดูสิ นอกจากสมุนสองคนนั้นของเจ้าแล้ว คนอื่นๆ ไม่มีใครบาดเจ็บเลย!” อันหลินพูดพลางชี้คนที่อยู่บนพื้น
เห็นได้ชัดว่าภูตหญิงก็สังเกตเห็นจุดนี้เช่นกัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมเขากับภูตหนุ่มถึงรบรากัน แต่พยายามควบคุมไม่ให้มีการบาดเจ็บล้มตายจริงๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ใบหน้าของนางก็ฉายความกระดากอายและรู้สึกผิด “ท่านยักษ์ ข้าหุนหันพลันแล่น เป็นเพราะอารมณ์โทสะชั่ววูบพลั้งมือฆ่าตั๊กแตนสีดำ…สำหรับเรื่องนี้…ข้าจะชดใช้ใ ให้เอง”
ตั๊กแตนสีดำเหรอ
อันหลินชะงัก จากนั้นใบหน้าก็ปรากฏความโศกเศร้า “เฮ้อ…ตั๊กแตนสีดำเป็นสหายที่เคียงข้างข้ามาหลายปี…ก่อนจะมาที่นี่ ข้าเคยให้สัญญากับมันว่าจะพามันไปชมความรุ่งเรืองของใต้หล้า าด้วยกัน…ไม่คิดเลยว่ามันจะตายเร็วแบบนี้ ไม่โทษเจ้าหรอก เพราะพวกเราบุกสระเทวะก่อน…เป็นเพราะข้า ข้าไม่ดูแลมันให้ดี…”
อันหลินเบ้าตาแดงก่ำ แหงนหน้ามองท้องฟ้า ราวกับไม่อยากให้น้ำตาไหลออกมา
ภูตหญิงเผยอปาก แต่กลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
นางเพิ่งเคยเห็นยักษ์ปีศาจเทพเจ้าแสดงมุมที่เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกเช่นนี้เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้นางคิดว่าตั๊กแตนสีดำเป็นเพียงสมุนไม่ก็บ่าวของยักษ์ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นสหายขอ องยักษ์ตนนี้!
ถ้าอย่างนั้น นางก็สังหารสหายของยักษ์เองกับมืองั้นหรือ… แต่ถึงจะเป็นเช่นนี้ ยักษ์ก็ยังไม่โทษนาง ตัดสินใจช่วยเหลือนาง…
“ข้า…ข้าทำเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ ข้าจะทำอย่างไรดี…”
ภูตหญิงเม้มปาก ก้มหน้ารำพันกับตัวเอง
ในตอนนั้นเอง อันหลินก็หยิบเม็ดไม้ตะวันวสันต์ ยาวิเศษขั้นสองเม็ดหนึ่งออกจากแหวนมิติ
“อ่ะ ยาวิเศษเม็ดนี้มีสรรพคุณรักษาอาการบาดเจ็บที่ดีเยี่ยม แถมยังหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณได้อีกด้วย เหมาะกับร่างกายที่บาดเจ็บเพราะคำสาประเบิดของเจ้าพอดี รีบกินเสียสิ” เขายื่นยาวิเศ ศษไปตรงหน้าภูตหญิงแล้วพูดยิ้มๆ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม