อันหลิน ทีน่าและหลิวฉู่ฉู่เริ่มออกเดินทาง
ก่อนหน้านี้หลิวฉู่ฉู่พบตำแหน่งของหุบเหวกาฬเวท พิกัดที่ชัดเจนบนแผนที่
และเพราะหุบเหวแห่งนี้นี่เองที่กำหนดตำแหน่งของพวกเขาว่า ตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแดนโบราณบรรพกาล
ตอนนี้พวกเขาเริ่มเหาะไปทางเหนือ ที่นั่นมีเขามังกรคดที่ความเป็นไปได้ที่ผลึกหินจะปรากฏนั้นสูงมาก
หลิวฉู่ฉู่ยืนอยู่บนก้อนอิฐสีดำของอันหลิน นัยน์ตาเป็นประกายประหนึ่งสามารถมองทะลุมิติเห็นทัศนียภาพอันไกลโพ้นได้ “เขามังกรคดเป็นคำเรียกขานเขตหนึ่งของแดนโบราณบรรพกาล ที่นั่น นมีสิ่งมีชีวิตเผ่ามังกรโบราณ ภายในร่างกายของพวกมันจะมีผลึกต้นกำเนิดดินแดนรวมตัวอยู่ในปริมาณพอสมควร สถานที่พิเศษในเขตอื่นๆ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะมีผลึกต้นกำเนิดถือกำเนิด และเนื่องด้วยที่แห่งนั้นมีผลึกต้นกำเนิดมหาศาล ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในสมรภูมิรบที่การต่อสู้ของแต่ละอิทธิพลดุเดือดที่สุด เป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างยิ่งเลยละ”
“ไม่เสี่ยงก็ไม่ร่ำรวย” อันหลินกล่าว
“ไม่เข้าถ้ำเสือไม่ได้ลูกเสือ” ทีน่าพูดตาม สามารถพูดเป็นสำนวนได้แล้ว
“วางใจเถอะ ตอนนี้สภาพร่างกายของข้าสมบูรณ์พร้อม ไม่กลัวใครหน้าไหน” อันหลินพูดด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
“อย่ามองว่าข้าตัวเล็ก ความสามารถของข้าไม่เล็กนะ” ภาษาบรรพกาลของทีน่าเริ่มพูดได้แม้แต่ร้อยกรองด้อยศิลป์แล้ว
หลิวฉู่ฉู่ “…”
หลิวฉู่ฉู่ฟังอันหลินกับทีน่าพูดกันคนละประโยคแล้วเบะปากเล็กน้อย
นางได้ยินข่าวลือของอันหลินมาไม่น้อย รู้สึกว่าออกจะแตกต่างจากที่จินตนาการนิดหน่อย
เหาะได้ไม่นาน แผ่นดินสีดำที่มียอดเขาตั้งตระหง่านก็ปรากฏตรงหน้าของทั้งสาม
ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีพืชเจริญเติบโตบนผืนพสุธา เพียงแต่ว่าพืชพรรณเหล่านี้ล้วนเป็นสีแดง แลดูค่อนข้างประหลาดบนผืนดินสีดำ
“พวกเจ้าสองคนคุ้มกันข้า ข้าจะไปดูรอบๆ หน่อยว่ามีศัตรูหรือไม่” หลิวฉู่ฉู่เหาะขึ้นไปบนยอดเขาของเขาลูกหนึ่ง กระโปรงสีชมพูพลิ้วไหวตามแรงลม ประหนึ่งดอกโบตั๋นสีสดงดงามดอกหนึ่ง ที่เบ่งบานบนยอดสิงขร
นัยน์ตาของนางฉายประกายวาบ ดวงตาสีเหลืองกลายเป็นเฉียบแหลมอย่างยิ่ง กวาดมองสภาพแวดล้อมรอบข้าง
อันหลินยืนระแวดระวังการเคลื่อนไหวรอบกายข้างๆ นาง
ขอบเขตการมองเห็นของเนตรคุนเผิงของหลิวฉู่ฉู่จำกัดเพียงสามสิบลี้ เป็นระยะทางที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เพราะขอบเขตการรับรู้ของระดับแปลงจิตทั่วไปจะมีเพียงไม่กี่ลี้ แม้จะเป็นสุดยอดแป ปลงจิต ขอบเขตที่รับรู้ได้ก็ไม่เกินสิบลี้
สามารถพูดได้ว่าหากศัตรูมีเพียงหนึ่ง ถ้าหลิวฉู่ฉู่ตั้งใจโจมตีผู้ที่ไม่ทันตั้งตัวมันต้องแม่นยำอย่างแน่นอน
สิบห้านาทีต่อมา ร่างของหลิวฉู่ฉู่ก็ชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาที่เฉียบแหลมไม่แปรผันราวกับกำลังจดจ้องบริเวณหนึ่ง
อันหลินอดพูดไม่ได้ว่า “เป็นอย่างไรบ้าง พบอะไรหรือไม่”
หลิวฉู่ฉู่ไม่พูดอะไร แต่หยิบคันธนูออกมาแล้วค่อยๆ ง้างออกช้าๆ
ตอนนี้นางเป็นเหมือนเทพเจ้าผู้บงการชะตาของผู้อื่น สูงส่งเลือนรางและเปี่ยมด้วยจิตสังหาร
พลังปราณกระเพื่อม พลังงานรวมตัวเป็นศรสีชมพูดอกหนึ่ง คลื่นอันน่ากลัวกระจายตัวออกรอบทิศ
“วิชาเทวะ ศรปีศาจทลายมิติ!”
ฟิ้ว
ศรหลุดออกจากสายพร้อมกับพายุที่พัดกรรโชก
ศรดอกนั้นทะลุออกไปไกลโพ้นในพริบตา ทิ้งวงโคจรดุจหางสีชมพูกลางนภาไว้เป็นทางเท่านั้น สุดท้ายระเบิดแสงที่เจิดจ้าในที่แสนไกลซึ่งอันหลินเห็นไม่ชัดราวกับไข่มุกที่พร่างพราย
เมื่ออันหลินเห็นภาพนี้ก็อดใจระส่ำระสายไม่ได้
เขาเพิ่งเคยเห็นการล่าในระยะไกลอย่างยิ่งเช่นนี้เป็นครั้งแรก ภาพนี้เท่สุดๆ ไปเลย!
“ไป ไปเก็บสมบัติกัน!”
หลิวฉู่ฉู่กระโดดขึ้นก้อนอิฐของอันหลินแล้วชี้ไปยังทิศทางนั้นด้วยนิ้วมือเรียวขาวอย่างยิ้มแย้ม
อันหลินพยักหน้า ก่อนจะขี่ก้อนอิฐเหาะไปยังตำแหน่งที่ระเบิด

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม