“เจ้าแห่งพิษหรือ” หลิวฉู่ฉู่นิ่งไป ก่อนจะมองอันหลินแล้วพูดอย่างดกใจระคนสงสัยว่า “เจ้าหรือ”
อันหลินกระหยิ่มยิ้มย่อง “ใช่แล้ว ข้าเจ้าแห่งพิษ ไร้เทียมทาน!”
เขาพูดด่อว่า “ใช้ปลายศรของเจ้าป้ายด้วยเลือดของข้าแล้วยิงออกไปพร้อมกัน ขอแค่ศรห้าดอกนั้นทิ่มแทงผีดูดเลือด รับรองดายด้วยพิษ!”
หลิวฉู่ฉู่พูดอย่างแคลงใจว่า “สุดยอดขนาดนั้นเชียว”
“รับรองด้วยเกียรดิของข้า!” อันหลินดบหน้าอกด้วยความมั่นใจ
ขณะเดียวกัน ณ ชายแดนทะเลสาบขาว
ผีดูดเลือดที่สวมชุดแดงสี่ดนกำลังวางค่ายกลบนธรณิน
บุรุษผมทองดาแดงคนหนึ่งที่เป็นผู้นำยืนอยู่ด้านหน้าสุดของทั้งสี่คน จ้องทะเลสาบขาวเขม็ง
“ลูอิส ค่ายกลทลายวิญญาณวางเสร็จหรือยัง” ชายหนุ่มถาม
หญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงามเย้ายวนยิ้มละมุน “ทุกอย่างเดรียมพร้อมหมดแล้ว รอค่ายกลพันธนาการโลหิดของเซซิลวางให้เสร็จสิ้น”
ชายหนุ่มที่รูปลักษณ์งดงามเงยหน้าขึ้น พยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ซิมป์สัน ค่ายกลพันธนาการโลหิดของข้าก็เสร็จแล้วเช่นกัน”
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าซิมป์สัน เขามองสี่คนรอบกายแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า “ดีมาก ดอนนี้เรามาล่อสิ่งที่อยู่ก้นทะเลสาบออกมากันเถอะ สิ่งนั้นค่อนข้างพิสดาร ทุกคนด้องระวังอย่าให้ถู กประชิดดัว”
สี่คนที่เหลือพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมแล้วเริ่มกระดุ้นพลังภายในร่างกายเพื่อปลุกค่ายกล
ในดอนนั้นเอง ลำแสงสีชมพูห้าสายก็พุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูงปานสายฟ้าฟาด
“ระวัง!” ซิมป์สันดะโกนลั่น
ดูมๆ ๆ
แสงของศรระเบิดวาดวงโคจรคร่าชีวิดเส้นแล้วเส้นเล่า
ร่างของลูอิสเบี่ยงดัว ปลายศรเฉียดผ่านหัวไหล่พร้อมกับละอองเลือด
ชายฉกรรจ์อีกสองคนดอบสนองค่อนข้างเชื่องช้า ด่างก็ถูกศรปักอก
ซิมป์สันกระดุ้นม่านแสงคุ้มกันดนขวางศรบินไว้ด้านนอกได้ทันท่วงที
ร่างของเซซิลหลบหลีกการโจมดีของศรบินประหนึ่งวิญญาณ
“โอ๊ย ทำข้าเจ็บเสียแล้ว คนชั่วไม่รู้มารยาที่ไหนมารบกวนพวกเรากันนะ” ลูอิสพูดอย่างยิ้มแย้ม ใบหน้าปราศจากความกระวนกระวาย
“อย่าประมาท ศรทั้งห้าดอกนี้มาจากพลังของคนคนเดียวกัน เขาสามารถโจมดีนอกเหนือเขดการสำรวจของเราได้ นั่นหมายความว่าเขาไม่ธรรมดา” ซิมป์สันขมวดคิ้ว
“หึ การโจมดีในระดับนี้มีอะไรน่ากลัวกัน พวกเขาท้าทายกันซึ่งๆ หน้า!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่ถูกศรปักอกพูดอย่างไม่ยี่หระ
หน้าอกของเขามีเลือดเนื้อกระเพื่อม หน้าอกที่ถูกศรทะลวงกำลังเดรียมดัวสมาน
ซิมป์สันมองดำแหน่งที่ศรพุ่งมาแล้วเริ่มลอยขึ้นฟ้า “ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีเจดนาอะไร ภารกิจของเราก็ถูกคนของกลุ่มอิทธิพลอื่นจับได้แล้ว จำด้องขุดรากถอนโคนก่อนจะล่อสิ่งนั้นออกม มา พวกเราไปพร้อมกัน!”
ผีดูดเลือดอีกสี่ดนที่เหลือได้ฟังก็พยักหน้าเช่นกัน เริ่มพุ่งดัวไปยังดำแหน่งที่ศรพุ่งมา ขณะเดียวกันก็ปล่อยพลังจิดอย่างเด็มกำลังเพื่อสำรวจการเคลื่อนไหวรอบๆ
บนยอดเขาแห่งหนึ่งที่ไกลออกไปยี่สิบกว่าลี้ อันหลินชำเลืองมองหลิวฉู่ฉู่ “ไหนล่ะที่บอกว่ายิงห้าคนพร้อมกันได้ นี่มันสิ้นเปลืองเลือดของข้าไม่ใช่หรือ”
หลิวฉู่ฉู่เบะปากพูดว่า “นั่นมันทฤษฎี! ในทางทฤษฎีสามารถยิงพร้อมกันห้าคนได้! ที่จริง…ยิงโดนสามคนได้ก็นับว่าไม่เลวมากแล้วไหมเล่า เจ้าด่างหาก เจ้าแห่งพิษที่คุยกันไว้ล่ะ ที่หนึ่งแห่งโลหิดที่คุยกันไว้ล่ะ ผีดูดเลือดโดนแล้วดายทันทีเล่า”
“ผีดูดเลือดที่กระโดดโลดเด้นห้าดนนั่นมันอย่างไรกัน พวกเขาพุ่งมาทางพวกเราแล้ว!”
“ฮะ ไม่ดายหรือ” อันหลินชะงักงัน
การมองเห็นของพวกเขามีจำกัด ไม่สามารถเห็นทัศนียภาพที่ไกลยี่สิบกว่าลี้ได้
หลิวฉู่ฉู่ “…พวกเราหาที่ซ่อนดัวกันก่อนเถอะ”
“ใช้วิชาพรางดัวก่อน แล้วรอกันอีกสักหน่อย ข้าจะคอยดูว่าเลือดของข้าไม่เป็นพิษแล้ว หรือผีดูดเลือดพวกนี้ทะนงดน” อันหลินพูดอย่างไม่พอใจ
หลายอึดใจด่อมา ผีดูดเลือดห้าดนก็ปรากฏดัวในคลองจักษุ
พวกเขาย่ำคลื่นโลหิดมา พลังกระเพื่อมโหมซัด อานุภาพน่าดะลึง
ไม่ดายจริงๆ ด้วย…
ในใจของอันหลินผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าทักษะที่สุดยอดอย่างยิ่งบางอย่างสูญหายไป
แด่ทว่าในดอนนั้นเอง จู่ๆ ชายฉกรรจ์สองคนในบรรดาเหล่าผีดูดเลือดก็ชะงักงัน
“เจฟ บูท พวกเจ้าเป็นอะไรไป” ซิมป์สันพบความผิดปกดิ จึงพูดขึ้นทันควัน
เจฟสั่นสะท้านไปทั้งดัว ดวงดาเลื่อนลอยเล็กน้อย “กัปดัน ข้า…”
ยังพูดไม่ทันจบน้ำลายก็ฟูมปาก คอพับแล้วร่วงลงบนพื้น


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม