เมื่อจงหลี่หางเห็นว่าผู้แข็งแกร่งทั้งสองผนึกกำลังเข้าด้วยกัน เขาก็เริ่มคิดถอย
“คงเกอ อย่าใจร้อนไป พวกเราถอนทัพ!”
จู่ๆ เขาก็พูดโพล่งขึ้นมา และทันทีหลังจากนั้นเขาก็วาดฝ่ามือหนึ่งข้าง หมอกหนาสีดำพวยพุ่งออกมาจากฝ่ามือ ปกคลุมไปทั่วพื้นที่
หมอกสีดำนี้ไม่เพียงแต่ขวางกั้นทัศนวิสัย ยังกีดขวางญาณหยั่งรู้ด้วย
ปฏิกิริยาตอบสนองของหลิงอิ่งไวมาก ชั่วขณะที่หมอกสีดำพวยพุ่งออกมา หนวดใต้ลำตัวยืดออกอย่างบ้าคลั่ง ระเบิดสายฟ้าผ่าสีขาวเจิดจ้าเปล่งประกาย ทำให้พื้นที่บริเวณรอบนอกในรัศมีหนึ งร้อยจั้งถูกปกคลุมไปด้วยของสายฟ้าผ่า ก่อตัวเป็นกรงสายฟ้าที่ครอบคลุมพื้นที่ไว้
“หึๆ คิดจะใช้หมอกสีดำประเภทนี้บดบังสายตาของข้าไว้อย่างนั้นหรือ” มุมปากของริมฝีปากที่งดงามของหลิวฉู่ฉู่เหยียดยกขึ้น นัยน์ตาสีเหลืองแห่งคุนเผิงตื่นขึ้นแล้ว แสงสีทองที่เฉียบ บคมยิ่งแวบผ่านในแววตา แฝงไว้ด้วยพลังในการมองทะลุทุกภาพลวงตา
ลูกศรพลังงานสีชมพูหนึ่งดอกก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอยู่บนสายธนู แกนกลางของลูกศรพลังงานสีชมพูปรากฏลูกศรขนาดเล็กสีแดงหนึ่งดอก ลูกศรทั้งสองดอกผสานเป็นหนึ่งเดียว ปลายลูกศรส่องแสงสี แดงเปล่งประกายระยิบระยับงดงาม
“วิชาเทวะ ศรสายเลือดเสาะแสวงทลายปีศาจ!”
สิ้นเสียงตะโกนอันอ่อนหวานของหลิวฉู่ฉู่ ลูกศรยาวพุ่งออกไปจากคันธนู!
ลูกศรยาวสีชมพูส่งแสงสีแดงเปล่งประกายระยิบระยับ พุ่งทะยานแหวกอากาศด้วยความเร็วสูงสุดลูกศรที่น่าสะพรึงกลัว มุ่งไปยังศีรษะของจงหลี่หาง
ลูกศรนี้มีพลังทลายมิติกับพลังสะกดรอยอัตโนมัติ ก่อนหน้านี้หลิวฉู่ฉู่ใช้ลูกศรนี้สังหารปีศาจม้าน้ำตายคาที่ในชั่วพริบตา
อันหลินเองก็ยื่นฝ่ามือออกไป โดยหันไปทางออก แล้วปล่อยหมัดสะเทือนขุนเขาอัสนีออกไป
เขามองไม่เห็นตำแหน่งของจอมมารทั้งสอง แต่ทางออกมีเพียงทางเดียวเท่านั้น ดังนั้นปล่อยพลังการโจมตีออกไปตำแหน่งทางออกจะต้องตรงเป้าแน่นอน
ทีน่าเองก็หันไปยังทิศทางเดียวกับที่อันหลินยื่นฝ่ามือออกไป ปล่อยพลังแสงศักดิ์สิทธิ์โจมตีสุดกำลัง
นางไม่รู้ตำแหน่งของจอมมารทั้งสอง นางรู้เพียงว่าทิศทางการโจมตีของของยักษ์อันหลินดีที่สุด ทำตามยักษ์อันหลินย่อมประสบผล!
ทว่าเมื่อหงโต้วเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็ถึงมึนงงจนทำอะไรไม่ถูก
เมื่อเขาเหม่อมองทุกคนที่กำลังปล่อยพลังอย่างต่อเนื่อง จู่ๆ เขาก็รู้สึกหดหู่เกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบได้
ทำไมคนอื่นๆ ถึงรู้ตำแหน่งของศัตรู ทำไมเขาสัมผัสไม่ได้เลย
ที่แท้…ห่างชั้นมากขนาดนี้เลยหรือ
เพราะพลังของตนอ่อนแอเกินไป ดังนั้นทัศนวิสัยกับญาณหยั่งรู้ด้วยพลังจิตของตนเลยโดนขวางกั้นหรือ?
เขาอดจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความสงสัยไม่ได้
ที่แท้…
เขาเป็นแค่ก้อนหินไร้ค่าก้อนหนึ่งมาโดยตลอด…
ในด้านของจงหลี่หางกับคงเกอที่กำลังหลบหนี ต่างก็สัมผัสได้ถึงภัยอันตรายที่จะนำความตายมาสู่ตน
จงหลี่หางหยิบหม้อสามขาโบราณสีดำขนาดพอดีฝ่ามือออกมาจากแหวนมิติอย่างไม่ลังเลใจสักนิด แล้วใช้พลังทั้งหมดกระตุ้น
ครืน!
ปรากฏวัตถุสีดำที่มีรูปทรงเหมือนลูกบอลปกคลุมห่อหุ้มกายของจงหลี่หางกับคงเกอไว้ในชั่วพริบตา
หม้อปีศาจกลืนกินพลังเวทย์! เมื่อมีหม้อใบนี้ก็สามารถกลืนกินพลังเวทย์ทุกประเภทที่จู่โจมเข้ามาได้ รวมทั้งเพิ่มพลังอาวุธเซียนชั้นสูงอย่างรวดเร็ว จงหลี่หางมีอาวุธพิเศษนี้ เข ขาจึงไม่เกรงกลัวที่จะแย่งชิงผลึกหินต้นกำเนิดกับพวกอันหลิน!
ลูกศรยาวสีชมพูพุ่งแหวกผ่านอากาศ แทงเข้าที่วัตถุสีดำที่มีรูปทรงเหมือนลูกบอลนั้นด้วยพลังอันน่าเกรงขามที่แฝงไว้ด้วยความน่าสะพรึงกลัว ทว่าทันทีหลังจากนั้น คาดไม่ถึงว่าจะแทงไม่ ทะลุลูกบอลสีดำนั่น ลูกศรสลายไปหมดสิ้นเมื่อพุ่งไปถึงพื้นผิวด้านหน้าของลูกบอลสีดำ
“เอ๊ะ แบบนนี้ก็ได้ด้วยหรือ” หลิวฉู่ฉู่ขมวดคิ้วมุ่น ทอดสายตามองไปยังวัตถุสีดำที่มีรูปทรงเหมือนลูกบอลนนั้นด้วยความสงสัย
หมัดสะเทือนขุนเขาอัสนีกับพลังแสงศักดิ์สิทธิ์ กระหน่ำยิงถล่มพื้นผิวด้านหน้าของลูกบอลสีดำนั่นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็หายสาบสูบไปอย่างไร้ร่องรอย โดนพื้นผิวด้านหน้าของลูกบอลสี ดำนั่นกลืนกินเข้าไปแล้ว
หนึ่งอึดใจต่อมา ลูกบอลสีดำที่ห่อหุ้มกายคงเกอกับจงหลี่หางเอาไว้ชนสายฟ้าผ่าของหลิงอิ่งครอบขังไว้จนทลาย แม้แต่หนวดของหลิงอิ่งเองก็โดนกลืนกินไปด้วย จากนั้นก็ผ่านม่ านแสงสีน้ำเงินออกไป หายวับไปจากดินแดนแห่งนี้
“โอ๊ย…เจ็บชะมัด!” หนวดของหลิงอิ่งขาดสะบั้นไปสองสามเส้น เขาส่งเสียงแผดร้องด้วยความตกใจ
“คว้าน้ำเหลว?” อันหลินเองก็มีสีหน้าฉงน
เขาปล่อยหมัดสะเทือนขุนเขาอัสนีออกไปหนึ่งหมัด คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีแม้แต่เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พูดได้ว่าไม่อาจสัมผัสถึงแรงปะทะของการโจมตีเลยสักนิด ทำให้เขาเองก็มีสีหน้ าไม่เข้าใจ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม