อันหลินกับหลิวต้าเป่าถูกส่งตัวไปที่ห้องกักตัวของสำนัก ซึ่งเป็นสถานที่มืดสลัวอึดอัดและอับชื้น รอบข้างไม่มีอะไรเลย ใช่แล้ว แม้แต่เตียงก็ไม่มี!
อันหลินสงสัยนิดหน่อยว่า ทำไมสภาพของห้องกักตัวถึงได้แย่ยิ่งกว่าห้องขัง
เมื่อคิดว่าตัวเองต้องนอนบนพื้นแข็งเป๊กถึงสามวัน เขาก็อดน้ำตาไหลพรากไม่ได้
สิ่งที่เห็นในห้องกักตัวมีเพียงผนังห้อง ด้านบนมีตัวอักษรสีดำตัวใหญ่เขียนไว้ว่า ‘สำนึกความผิด!’
อันหลินกับหลิวต้าเป่าถูกส่งเข้าห้องกักตัวห้องเดียวกัน
ข้างในนั้น พวกเขาพบผู้ชายคนหนึ่ง กับสุนัขสีขาวอีกตัว
ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนอันหลินกับหลิวต้าเป่า ใบหน้าบวมปูดเช่นเดียวกัน
อา แม้แต่สุนัขตัวนั้นก็เต็มไปด้วยบาดแผล ท่าทางเหมือนผ่านการถูกทุบตีอย่างรุนแรงมามากทีเดียว
“สหาย เจ้าทะเลาะกับสุนัขตัวนี้หรือ” อันหลินมองผู้ชายคนนั้น เอ่ยถามอย่างแปลกใจ
“ตลก ข้ากับต้าไป๋บาดเจ็บเพราะอุดมการณ์อันสูงส่งต่างหาก” ชายคนที่สภาพบาดแผลดูสาหัสกว่าอันหลินกับหลิวต้าเป่าไม่น้อยตอบด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
ชายหนุ่มมองอันหลินกับหลิวต้าเป่าแวบหนึ่ง ก็กระจ่างแก่ใจ “พวกเจ้าสองคนต่างหากที่เข้ามาเพราะทะเลาะกัน”
หลิวต้าเป่ากับอันหลินต่างก็พยักหน้า จากก็มองหน้ากันแวบหนึ่ง พอเห็นสภาพน่าสังเวชของอีกฝ่าย ทั้งสองต่างก็แสดงสีหน้าพึงพอใจออกมาอีกครั้ง
“ช่างไม่เอาไหนเสียเลย” ชายคนนั้นหัวเราะหึๆ
สุนัขสีขาวข้างๆ ก็เห่าดังโฮ่ง ราวกับว่ากำลังเห็นด้วย
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวต้าเป่าก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที พูดโต้แย้งว่า “เจ้าบอกว่าเจ้าบาดเจ็บเพราะอุดมการณ์อันสูงส่ง แล้วทำไมเจ้าถึงถูกส่งเข้ามาด้วยล่ะ”
“เรื่องนี้หากให้พูดมันจะยาว…” ชายคนนั้นแสดงอาการรำลึกความหลัง
อันหลินเขยิบเข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นด้วยความสงสัย พูดอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเรามีเวลา เจ้าค่อยๆ เล่า บาดเจ็บได้อย่างไรกัน พูดออกมาให้ทุกคนเบิกบานใจหน่อย”
ชายคนนั้นถลึงตาใส่อันหลินแล้วพูดต่อว่า “พวกเจ้ารู้จักสระจันทราของสำนักหรือเปล่า”
สระจันทราเหรอ อันหลินเพิ่งเข้าสำนักได้ไม่นาน ไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เสียเลย
“ข้ารู้ มันเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ของสำนักเรา พลังชีวิตของน้ำพุเข้มข้นเป็นพิเศษ ซ้ำยังมีสรรพคุณบำรุงความงามและหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ!
แต่ที่น่าเสียดายคือ เหมือนว่าสำนักจะกำหนดว่ามีแค่ผู้หญิงที่เข้าไปที่แห่งนั้นได้ เจ้าพูดถึงมันทำไม” หลิวต้าเป่าพูดอย่างสงสัย
นัยน์ตาของอันหลินเป็นประกายวาววาบ ยิ้มชั่วร้าย “หรือว่าเจ้า…” ชายคนนั้นพยักหน้ายิ้มๆ พร่ำพรรณนาว่า “สระน้ำเดือดพล่านระยิบระยับดุจดวงจันทรา ดั่งกระจกลอยฟ้า น้ำใสสะอาดไอน้ำขมุกขมัว ไอความร้อนโชยผมแห้งโดยไว”
คราวนี้หลิวต้าเป่าก็เข้าใจแล้วเช่นกัน พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “หยุดท่องกลอนได้แล้ว พูดภาษาคน! บอกรายละเอียด!”
“ย่อมได้ ย่อมได้ ข้าจะเล่าอย่างละเอียดยิบ” ชายคนนั้นไม่สะทกสะท้าน พูดอย่างเชื่องช้า
“ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายามอิสตรีอาบน้ำ เป็นภาพที่งดงามที่สุด ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งแช่น้ำ ภาพนั้นจะงดงามเหนือคำบรรยาย
เจ้าลองคิดดูสิ ในสระจันทราที่ห้อมล้อมด้วยไอสีขาว ผิวขาวสะอาดสะอ้านดุจเนื้อหยก เสียงหัวเราะอันไพเราะยามหยอกล้อกัน แถมยังมีสิ่งนั้นที่กระเพื่อมขึ้นลงตรงน้ำพุ…”
อันหลินกับหลิวต้าเป่าต่างก็กลืนน้ำลาย เริ่มมีความคิดผุดขึ้นไม่ขาดสาย บรรยากาศก็เริ่มชอบกลขึ้นมา
“แต่รอบๆ ของสระจันทรา ได้ยินว่ามีสมาชิกของหน่วยผู้บังคับใช้กฎหมายของสำนักคอยลาดตระเวน หากจะแอบมองทัศนียภาพอันงดงามมันยากดุจไต่สวรรค์” หลิวต้าเป่าพูดอย่างเสียดาย
ชายคนนั้นแสยะยิ้ม “แม้การลาดตระเวนของหน่วยบังคับใช้กฎหมายจะเข้มงวด แต่ไม่ยากเกินมือข้า”
“เอ๊ะ ใต้เท้ามีไม้เด็ดอันใดหรือ” อันหลินถามอย่างถ่อมตัว
ชายหนุ่มเหลือบมองสุนัขสีขาวข้างกายเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดยิ้มๆ ว่า “อันนี้ต้องพึ่งผู้ช่วยมือดีของข้าต้าไป๋แล้วล่ะ”
ต้าไป๋เห่าโฮ่ง กระดิกหาง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง
“มีอัญมณีชนิดหนึ่ง เรียกว่าหินกระจกวารีผิวน้ำแข็ง มันเป็นเหมือนกระจก สามารถเก็บภาพที่มันเห็นไว้ข้างในด้วยรูปแบบของภาพเคลื่อนไหว! ส่วนข้าจะทำอัญมณีชนิดนี้เป็นปลอกคอ แขวนไว้ที่คอของต้าไป๋ ให้มันเข้าไปในสระจันทรา!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม