บทที่ 1008 มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ เทพมารอนธการ
เมื่อเผชิญหน้ากับความบ้าคลั่งของราชันเทวาฟ้าไพศาล หานฮวง มู่หรงฉี่และอู๋เซียงเทียนเซี่ยก็เข้าปิดล้อมเขาทันที
อู๋เซียงเทียนเซี่ยมองพินิจราชันเทวาฟ้าไพศาล ร้องจุ๊ๆ อุทานขึ้นว่า “พลังในร่างของเจ้าคงเป็นพลังจากภายนอกกระมัง!”
เสียงเขาดังก้องยิ่ง จงใจให้ผู้ชมในเมืองทศพิธได้ยิน
ราชันเทวาฟ้าไพศาลเอ่ยด้วยความหยิ่งทะนง “พลังภายในภายนอกอันใดกัน นี่คือพลังที่ข้ารับสืบทอดมรดกมา อีกอย่างทั้งเจ้าและข้าที่มาถึงจุดนี้ได้ มีผู้ใดบ้างเล่าที่ไม่มีพลังเช่นนี้ เพียงแต่เจ้าสู้ข้าไม่ได้ก็เท่านั้น!”
หานฮวงแค่นเสียง “จะพูดพล่ามกับเขาไปไย ก่อนหน้านี้มัวแต่เป็นเต่าหดหัว ความกล้ามีเท่าเมล็ดงา ตอนนี้เห็นความหวังว่าจะได้ชัยชนะก็วางท่าขึ้นมาอีก เป็นบุตรแห่งสวรรค์สิบยอดฟ้าที่น่าอับอายโดยแท้!”
ราชันเทวาฟ้าไพศาลได้ฟังก็พิโรธนัก มองหานฮวงด้วยความโกรธ เอ่ยขึ้นว่า “มาเถิด! ให้ข้าได้เห็นหน่อยว่าตัวเจ้าหานฮวงจะร้ายกาจเท่าข้าหรือไม่!”
หานฮวงยิ้มหยัน เปลี่ยนร่างเป็นเทพมารอนธการอีกครั้ง เขาจ้องราชันเทวาฟ้าไพศาลเขม็งพลางกล่าวว่า “คนที่ซุกซ่อนไม้ตายไว้ไม่ได้มีแค่พวกเจ้าเท่านั้น ข้าเองก็เช่นกัน”
ครืน!
รัศมีที่สั่นคลอนนภาได้พลันระเบิดออกมา โลกมหามรรคอวิชชาสั่นสะเทือน แผ่นดินพังถล่ม อัสนีพลันผ่าลงมากลางอากาศ
ร่างจำลองสิบแปดร่างปรากฏขึ้นด้านหลังของหานฮวง มีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับร่างจำลองเทพมารอย่างยิ่ง
ร่างจำลองทั้งสิบแปดร่างมีลักษณะท่าทางแตกต่างกันไป หานฮวงรวบรวมพลังอันน่าหวาดหวั่นโจมตีเข้าใส่ราชันเทวาฟ้าไพศาล ร่างจำลองทั้งสิบแปดร่างก็สำแดงพลังวิเศษที่แตกต่างกันไปโจมตีใส่ราชันเทวาฟ้าไพศาลเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายยังไม่ทันเข้าปะทะกัน ราชันเทวาฟ้าไพศาลก็ชิงสำแดงพลังวิเศษมายาออกมา ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลายเป็นฉากแดนนรกเก้าขุม ภาพมายาที่น่าหวาดกลัวชวนตกตะลึงมากมายปรากฏเข้าสู่ครรลองสายตา
สองเนตรของราชันเทวาฟ้าไพศาลโชนแสงสีเขียว พลังเนตรข้างหนึ่งส่องทะลุผ่านพลังวิเศษมายา เพลิงร้อนระอุถาโถมออกมาจากร่างเขาจนดูราวกับหงส์เพลิงตัวหนึ่ง พุ่งเข้าหาหานฮวงที่รุกเข้ามาโจมตี
อู๋เซียงเทียนเซี่ยและมู่หรงฉี่ก็ไม่ได้นั่งชมการต่อสู้อยู่เฉยๆ เข้าร่วมการต่อสู้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ผู้ท้าชิงตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุคเหลืออยู่เพียงสี่คน!
สรรพสิ่งในเมืองทศพิธเห็นว่าวิกฤตคลี่คลายแล้ว ความสนใจกลับไปอยู่ที่ฉากบนนภาอีกครั้ง เริ่มถกกันว่าผู้ใดจะได้เป็นเลิศล้ำหมื่นยุค
หานเจวี๋ยและร่างแยกของเทพมหาทัณฑ์กลับมาที่ห้องโถงอีกครั้ง หานหลิงก็ติดตามอยู่ข้างกายหานเจวี๋ยด้วย
ภายในห้องโถง เหล่าผู้ทรงพลังยังคงพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ยอดมหามรรคเหล่านั้นต่างเล่าถึงความแข็งแกร่งของหานเจวี๋ยทั้งสิ้น ผู้ทรงพลังคนอื่นๆ ฟังแล้วเลือดลมเดือดพล่านนัก
ส่วนหานเจวี๋ยกำลังรอคอยเจ้านวฟ้าบุพกาลอยู่
เจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลและมหาเทวาพ้นนิวรณ์ไม่มีทางล่าถอยเพราะการลงมือของเขา ต้องเป็นเพราะถูกบางตัวตนควบคุมแน่นอน
หลายชั่วยามต่อมา
แจ้งเตือนแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
[เจ้านวฟ้าบุพกาลต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
ใช่จริงๆ!
มาแล้ว!
ในใจหานเจวี๋ยยังคงกังวลอยู่บ้าง ไม่ทราบว่าเจ้านวฟ้าบุพกาลจะเชื่อเขาหรือไม่ ถึงแม้จะคุกคามชีวิตเขาไม่ได้ แต่อาจทำให้คนรอบตัวเขาเดือดร้อนได้
เขาเลือกยอมรับคำขอ
จิตรับรู้ของเขาเข้าสู่ความฝัน แดนความฝันยังคงเป็นดินแดนเวิ้งว้าง เขายังคงมองเห็นเจ้านวฟ้าบุพกาลเป็นเงาดำร่างหนึ่ง พร่าเลือนอย่างยิ่งมองไม่เห็นใบหน้าของเขาเลย
เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้านวฟ้าบุพกาล หานเจวี๋ยนิ่งเงียบไม่ได้เอ่ยขึ้นมาก่อน ถึงอย่างไรก็ไม่ทราบความคิดของอีกฝ่าย
“เหตุใดถึงปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล” เจ้านวฟ้าบุพกาลถามขึ้นมา
หานเจวี๋ยแสร้งถามด้วยความแปลกใจ “ผู้ใดคือเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาล”
เจ้านวฟ้าบุพกาลกล่าวว่า “อยู่ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องแสร้งไขสือ ในใจข้าทราบแจ่มแจ้งดี เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าข้ากล่าวถึงผู้ใด ข้ายังรู้ด้วยว่าเจ้าไม่ได้ปฏิเสธเขาตั้งแต่แรกเริ่ม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...