ได้ยินไก่คุกรัตติกาลพ่นวาจานี้ออกมา โจวฝานแทบระเบิดอารมณ์
เขารู้สึกถูกเหยียดหยามอย่างใหญ่หลวง!
เป็นแค่ไก่ตัวหนึ่งกลับกล้าที่จะเย้ยหยันเขา?
เมื่อครู่เขาเพียงกลัวว่าจะล่วงเกินหานเจวี๋ย เพราะอย่างนั้นจึงไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด หากเขาออกแรงชกอย่างสุดกำลังจริงๆ คงไม่ระเบิดไก่เหม็นตัวนี้เลยหรือ
โจวฝานพลันยกขาขึ้น พลังวิญญาณมหาศาลรวมเข้าที่หัวเข่า ปะทะไก่คุกรัตติกาลอย่างมิอาจต้านทานได้
ไก่คุกรัตติกาลถูกเขาแทงเข่าจนร่างลอยสู่ท้องฟ้า โจวฝานกระโจนร่าวตามขึ้นไป หนึ่งคนหนึ่งไก่พุ่งขึ้นไปบนเวหา ต่อสู้กันต่อ
โจวฝานไม่เหมือนผู้บำเพ็ญเซียน เขาเหมือนทหารในโลกมนุษย์มากกว่า ทว่าวิชามวยของเขาคล่องแคล่วแข็งแรง ทุกการเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนท้องฟ้าปรากฏความผันผวนในห้วงอากาศที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ไก่คุกรัตติกาลเอาแต่ป้องกันการกระทบกระทั่งมาโดยตลอด ไม่ต่างกับกระสอบทราย แต่คนที่มีสายตาเฉียบคมจะมองออกได้ชัดเจนว่าโจวฝานไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับมันแม้แต่น้อยเลยจริงๆ
หากใช้คำพูดของหานเจวี๋ยมากล่าว นี่คือการสะกิด
โม่ฟู่โฉวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ศิษย์พี่หาน ไก่ตัวนี้เป็นไก่ประเภทใดกัน”
หานเจวี๋ยหัวเราะกล่าว “ไก่ทั่วๆ ไป เป็นไก่ที่ข้าฉกฉวยมาจากชาวนาของสำนักหยกพิสุทธิ์ อบรมเลี้ยงดูมาหลายร้อยปีแล้ว”
โม่ฟู่โฉวรู้สึกตกตะลึง
เซวียนซือซือก็มองหานเจวี๋ยด้วยความแปลกใจ
ไก่ธรรมดาตัวหนึ่งสามารถอบรมเลี้ยงดูกลายเป็นระดับสุญตา?
เป็นไปได้อย่างไร!
ไก่ตัวนี้จะต้องมีสายเลือดที่เหนือธรรมดาและได้รับโอกาสวาสนาไม่น้อย เพียงแค่บังเอิญถูกหานเจวี๋ยเก็บมาได้
คุณสมบัติในการฝึกฝนมีความสำคัญเป็นอย่างมาก สามารถตัดสินขีดจำกัดบนล่างได้
สวินฉางอันส่ายหน้า ไก่เหม็นตัวนี้รอบคอบเกินไปแล้ว
เหตุผลที่ไก่คุกรัตติกาลป้องกันมาโดยตลอด มิใช่จงใจหยอกล้อโจวฝาน
แต่เพราะอยากจะสำรวจความสามารถของโจวฝานให้แน่ใจ
ก่อนหน้านี้หานเจวี๋ยเคยบอกกับเขาว่า บางคนมีศักยภาพที่แข็งแกร่งกว่าขอบเขตพลัง อีกทั้งบางคนยังชอบแสร้งเป็นหมู เพื่อหลอกกินเสือ[1]
ไก่คุกรัตติการดูเหมือนว่าจะเสียงดังโอ้อวด จิตใจกลับละเอียดอ่อนมาก
มันมองตบะของเซวียนซือซือไม่ออก แต่เซวียนซือซือสามารถติดตามโจวฝานได้ แสดงว่าโจวฝานย่อมมีจุดที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
ทว่าสู้กันมาสักพัก ไก่คุกรัตติกาลก็มองเห็นข้อเท็จจริงชัดเจน
เจ้าหนูนี่อ่อนแอจริงๆ!
ไก่คุกรัตติกาลหัวเราะลั่นก่อนเอ่ยว่า “ท่านปู่ไก่ไม่แสดงแล้ว เจ้าหนู เตรียมยอมรับความเจ็บปวดของการพ่ายแพ้หรือยัง”
โจวฝานตกตะลึง พลันถอยหลังออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว
ไก่คุกรัตติกาลกระพือปีก ปราณกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากขนไก่ทั่วร่าง ราวกับห่าฝนโหมกระหน่ำ
ความเร็วของปราณกระบี่ รวดเร็วจนตกตะลึง!
เดิมทีโจวฝานก็ไม่อาจตอบโต้ได้ทัน ใบหน้าของเขาซีดเซียว
เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายอีกครั้ง
คุ้นเคยเกินไปแล้ว!
ถึงอย่างไรเขาก็เคยตายมาก่อน!
ในช่วงฟางเส้นสุดท้ายนั้น พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งหอบหนึ่งแผ่ปกคลุมเขา ช่วยเขาต้านทานปราณกระบี่ของไก่คุกรัตติกาล
ตู้ม…
ปราณกระบี่ของไก่คุกรัตติกาลสลายหายไปในทันที โจวฝานเบิกตาโต พลังวิญญาณทั่วทั้งร่างทำให้เขารู้สึกล้นทะลักอย่างไร้ที่เปรียบ
กลิ่นอายพลังวิญญาณหอบนี้ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน
กลับไม่ใช่พลังวิญญาณของเซวียนซือซือ แต่เป็นหานเจวี๋ย!
“หยุดแค่นี้เถอะ!”
หานเจวี๋ยกล่าว เป็นการยุติการต่อสู้ครั้งนี้
โจวฝานมึนงงไปหมด
หลังจากที่โม่ฟู่โฉวประสานมือขอบคุณหานเจวี๋ย ก็รีบลากโจวฝานออกไปอย่างรวดเร็ว
เซวียนซือซือก็ไม่ได้พูดอะไรให้มากความ เดินตามสองคนนั้นออกไป
ไก่คุกรัตติกาลกลับมาตรงหน้าหานเจวี๋ย ก่อนเอ่ยอย่างภาคภูมิใจว่า “นายท่าน ความสามารถของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ทำให้ท่านขายหน้าใช่หรือไม่”
หานเจวี๋ยตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “สตรีเมื่อครู่นั้นมีตบะระดับรวมกายาขั้นเก้า นางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโจวฝาน หากเจ้าทำร้ายโจวฝาน เจ้าคิดว่าเจ้าจะสู้นางได้หรือไม่”
ได้ยินเช่นนั้น ไก่คุกรัตติกาลตกใจตัวสั่นเทิ้ม
เด็กดี!
มิน่าเล่าที่ท่านปู่ไก่มองตบะของนางไม่ออก ที่แท้เป็นผู้บำเพ็ญระดับรวมกายาขั้นเก้า!
ความภาคภูมิใจของไก่คุกรัตติกาลหายวับไปกับตา แทนที่ด้วยความรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หานเจวี๋ยส่ายหน้าน้อยๆ ไม่ชี้แนะให้ไก่คุกรัตติกาลฝึกบำเพ็ญอีก แต่กลับเข้าไปในถ้ำเทวาของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...