ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1018

บทที่ 1018 แบ่งแยกลำดับศักดิ์

“ข้าไม่มีเวลาดูแลพวกเขาจริงๆ แต่ก็ไม่สะดวกจะตัดสินใจแทนพวกเขา หากว่าฝ่าบาทสามารถชักจูงพวกเขาได้ ข้าย่อมไม่คัดค้าน”

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม เรื่องบางอย่างเขาให้ความเห็นชอบได้ แต่เข้าไปจัดการให้ไม่ได้

ทัศนคติของเขาจะส่งผลกระทบต่อเหล่าลูกหลาน หากว่าเขาเป็นฝ่ายริเริ่ม ตระกูลหานจะคิดอย่างไรเล่า วันหน้ามิต้องตกอยู่ในการดูแลของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายกันหมดหรือ

ถึงแม้หานเจวี๋ยจะไว้วางใจในตัวจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย แต่ก็ไม่อยากให้การสนับสนุนจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายถึงเพียงนี้ เพราะหากจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเคยตัวไปจะรู้สึกขึ้นมาง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว ถึงขั้นที่อาจจะหลงลำพองจนจิตใจแปรเปลี่ยนไป

อีกอย่าง เบื้องหลังของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายมีมหาเทวาพ้นนิวรณ์หนุนหลังอยู่ ถึงแม้จะถูกเจ้านวฟ้าบุพกาลสะกดข่ม แต่ในอีกร้อยล้านปีให้หลังก็จะหวนกลับมา

จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นก็ดี ขอเพียงเจ้าเห็นด้วยก็พอแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็นบุตรแห่งสวรรค์แสนล้ำค่าของตระกูลเจ้า เราไม่มีทางเก็บเอาไปทั้งหมดได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าด้วย เจ้าวางใจเถอะ เราเพียงจะเลี้ยงดูบ่มเพาะพวกเขาไประยะหนึ่ง รอจนพวกเขาเติบใหญ่ขึ้นมาหากอยากจากไปก็สามารถไปได้ทุกเมื่อเช่นเดียวกับทั่วเอ๋อร์ ฮวงเอ๋อร์และเจียงเจวี๋ยซื่อ”

เรื่องที่หานฮวงและเจียงเจวี๋ยซื่อออกจากวังสวรรค์ หานเจวี๋ยไม่แปลกใจเลยและไม่ได้สอบถามมากเช่นกัน

ทั้งสองเริ่มต้นรำลึกถึงความหลัง ต่างฝ่ายต่างสะท้อนใจกันอย่างยิ่ง

วันเวลาผันผ่านไป คนคุ้นเคยในอดีตก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ คนคุ้นเคยเก่าที่มีสัมพันธ์อันดีต่อกันย่อมมีน้อยยิ่งกว่า

ทั้งสองคุยกันนานยิ่ง

หลังสิ้นสุดแดนความฝัน หานเจวี๋ยไม่ได้หยุดพักเลย ยังคงฝึกบำเพ็ญต่อไป

กำหนดเวลาปิดด่านของเขายกระดับขึ้นเป็นครั้งละห้าล้านปี ครั้งหน้าที่ลืมตาขึ้น หานเหยาและหานเย่คงสร้างชื่อกระฉ่อนเลื่องลือแล้ว

….

มรรคาสวรรค์ ณ ชั้นฟ้าที่สามสิบสาม

ภายในตำหนักเอกภพ เหล่าอริยะรุ่นเก่านั่งเรียงแถวกัน มีเงาร่างคนสองคนยืนอยู่ในห้องโถง เป็นหานเหยาและหานเย่

หานเหยาสวมชุดเกราะเงิน หล่อเหลาองอาจ ราวกับเซียนวิเศษที่ก้าวออกมาจากภาพวาด

หานเย่สวมชุดดำ เรือนผมยาวถูกเชือกฟางเส้นหนึ่งมัดรวบไว้ตรงท้ายทอย ปล่อยผมสองปอยระอยู่ตรงหน้าผาก หน้าตาหล่อเหลาคมคายเช่นกัน แต่แววตาเปี่ยมเจตนาสังหาร สีหน้ายิ้มหยันหัวรั้น

สองคนนี้คือบุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบล้านปีมานี้ของมรรคาสวรรค์ ซ้ำยังเป็นเชื้อสายรุ่นหลังของอริยะสวรรค์เกรียงไกรทั้งคู่ด้วย

เหล่าอริยะพินิจดูทั้งสอง ต่างพึงพอใจยิ่ง

หลงเฮ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รูปการณ์คล้ายศิษย์น้องทั่วและศิษย์น้องฮวงในอดีตเลย”

อริยะที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วย

หานเหยาเหลือบมองหานเย่แวบหนึ่ง แววตาลุ่มลึก

หานเย่เอ่ยขึ้นมา “ทุกท่านเรียกข้ามาด้วยเรื่องใด ข้าไม่อยากอยู่ร่วมสถานที่กับคนผู้นี้ พวกท่านอย่าคิดว่าจะสยบข้าได้เลย ตัวข้าหานเย่ถึงแม้จะกำเนิดมาเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ความหยิ่งทะนงในกระดูกเหนือล้ำกว่าอริยะ!”

หลี่ไท่กู่เอ่ยหยอกว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าดุดันนัก เจ้าสังหารล้างบางสำนักทะยานฟ้า เลิศล้ำโดยแท้ แต่เจ้าก็ล่วงเกินอริยะมากมายเพราะเหตุนี้เช่นกัน หากมิได้พวกเราออกหน้าปกป้องเจ้าไว้ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าตนจะรอดชีวิตมาได้”

หานเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากว่าไม่ทำไหนเลยจะสมานฉันท์กันได้อีก บุตรแห่งสวรรค์ในมรรคาสวรรค์มีมากมายปานใดเล่า ตอนนี้ก็ไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเช่นกัน สรุปคือพวกท่านยังคงกริ่งเกรงในพลังของข้าอยู่ดี กลัวว่าข้าจะทำให้มรรคาสวรรค์แหลกสลายไปด้วยกัน!”

“ไม่ขอกล่าวไร้สาระให้มากความอีก ข้าหานเย่เตรียมจะไปจากมรรคาสวรรค์ ครั้งนี้มาเพื่ออำลามรรคาสวรรค์ ข้าถือกำเนิดจากมรรคาสวรรค์ มรรคาสวรรค์ก็คือบ้านของข้า วันหน้าหากมรรคาสวรรค์มีภัย ข้าจะกลับมาช่วยแน่นอน!”

พูดจบหานเย่ก็หันหลัง โบกมือพลางเดินจากไป

หลี่ไท่กู่โมโหจนนึกอยากลงมือแต่ถูกเทพสูงสุดสุดอู๋ฝ่าห้ามไว้

รอจนหานเย่จากไปแล้ว เทพสูงสุดอู๋ฝ่าเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เด็กคนนี้ก้าวร้าวเกินไปจริงๆ จากไปก็ดีเหมือนกัน หากรั้งอยู่ในมรรคาสวรรค์มีแต่จะก่อปัญหายิ่งขึ้น รอจนเขาผ่านประสบการณ์ในฟ้าบุพกาลไปย่อมได้รับการขัดเกลาให้สุขุมขึ้น และคงเข้าใจในความหวังดีของพวกเรา”

จอมอริยะเสวียนตูพยักหน้ารับ เมื่อเป็นเช่นนี้อริยะที่เหลือก็ไม่พูดมากอีก

สายตาของเหล่าอริยะกลับไปที่อยู่ร่างหานเหยาอีกครั้ง

หานเหยาไม่สนใจการจากไปของหานเย่เลย เดิมทีเขาก็ไม่ชอบหานเย่อยู่แล้ว

ทั้งสองถูกขนานนามว่าคู่บุตรสวรรค์สุดเลิศล้ำแห่งตระกูลหาน แต่หานเหยาดูแคลนหานเย่มาโดยตลอด คิดว่าหานเย่กระหายเลือดเกินไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ