บทที่ 1017 บ่วงกรรมนำเคราะห์
ชะตากรรมของผู้สืบทอดระบบมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏต่อสายตาหานเจวี๋ย เขามองแล้วจิตใจปั่นป่วน
หานเจวี๋ยนึกกลัวย้อนหลังอยู่ในใจ
ปัญหาที่ผู้สืบทอดเหล่านี้เคยประสบ เขาก็เคยพบพานเช่นกัน โชคดีที่เขายึดหลักปณิธานเดิมไว้
แต่หากว่ากันในอีกมุมหนึ่ง ผู้สืบทอดเหล่านั้นแค่เผชิญสิ่งเร้าจากภายนอกเท่านั้น แต่เขาต่างออกไป ทุกครั้งที่ระบบมอบทางเลือกให้จะใช้สิ่งเร้ากระตุ้นเขาเสมอ
ชั่วร้ายนัก!
เจตจำนงสรรค์สร้างตอบว่า “ผิดแล้ว เจ้าคือตัวแทนของความไม่รู้ ความไม่รู้เป็นตัวแทนของความหวังที่เฝ้ารอให้มีผู้ประสบความสำเร็จปรากฏขึ้นในกระบวนการ ข้าเผชิญผลสะท้อนกลับจากตัวตนทั้งหมด ไร้ตัวตนมานานแล้ว สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเจ้าคือเสี้ยวเจตจำนงของข้าที่เหลือทิ้งไว้ในระบบ ข้าไม่มีทางผูกมัดเจ้าได้ วันหน้าเจ้าจะจัดการเรื่องราวเช่นใด ข้าล้วนไม่อาจก้าวก่ายได้ ข้าตั้งตารอยิ่งนักว่าเจ้าจะกลายเป็นตัวตนเช่นไร”
สำหรับวาจานี้หานเจวี๋ยไม่ได้เชื่อเสียทั้งหมด
เขาเอ่ยถาม “เหตุใดถึงเลือกข้า”
“นั่นเป็นเพราะชะตาของเจ้า ผู้ถูกเลือกทุกคนล้วนเคยตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ ข้าไม่สามารถให้คำตอบได้ บอกได้เพียงว่านี่เป็นเพราะชะตาของพวกเจ้าเอง”
คำตอบของเจตจำนงสรรค์สร้างไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจสำหรับหานเจวี๋ย
เขาถามอีก “อาณาเขตเต๋าของข้าแข็งแกร่งกว่าตบะของข้า นี่เป็นเพราะเหตุใด แล้วเพราะอะไรผู้สืบทอดที่ผ่านมาถึงไม่มี”
“ระหว่างขั้นตอนมีผู้สืบทอดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปไม่ขาดสาย ระบบแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รอจนเจ้าดับสูญลง โชควาสนานี้ก็จะออกตามหาผู้สืบทอดคนต่อไปส่วนความช่วยเหลือที่เขาจะได้รับก็เป็นอานิสงส์ที่เจ้าสร้างไว้”
เจตจำนงสรรค์สร้างเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยต่อว่า “เหตุผลที่ข้าเลือกทดสอบเจ้าในช่วงมอบทางเลือกก็เป็นเพราะตัวเจ้าเอง เจ้ายอมสละอายุขัยถึงสองส่วนในชีวิตเพื่อความโชคดี สถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน”
หานเจวี๋ยเอ่ยตอบว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”
“หาใช่คำชมไม่”
หานเจวี๋ยผงะไป ไม่เข้าใจว่าเจตจำนงสรรค์สร้างหมายความว่าอย่างไร
เขาเปลี่ยนหัวข้อถามไปว่า “ท่านควบคุมระบบได้หรือไม่”
“ไม่ได้ ข้าเป็นเพียงเสี้ยวเจตจำนงที่หลงเหลืออยู่ ข้าไม่สามารถสร้างผลกระทบใดๆ ที่จะส่งผลต่อตัวตนในโลกความเป็นจริงได้”
“เช่นนั้นท่านยังมีอะไรอยากพูดกับข้าอีกหรือไม่”
หลังจากหานเจวี๋ยทราบความเป็นมาของระบบแล้ว มรรคจิตกลับไม่แปรเปลี่ยนไปเลย ถึงอย่างไรการรักษาทัศนคติเช่นเดียวกับที่ผ่านมาไว้ก็ไม่เสียหาย
เจตจำนงสรรค์สร้างเงีบไป ชายขอบของดวงอาทิตย์ใหญ่มหึมาที่ลอยอยู่ไกลออกไปในอนธการเริ่มเกิดคลื่นเดือดผันผวน ราวกับมีความร้อนเพิ่มสูงขึ้นในอากาศ
ผ่านไปนานพักใหญ่
เสียงของเจตจำนงสรรค์สร้างแว่วขึ้นอีกครั้ง “ก็เหมือนกับมรรคาสวรรค์ ถึงแม้มรรคาสวรรค์จะบังเกิดเจตจำนงแต่ตัวตนของมรรคาสวรรค์ยังคงอยู่ ท่ามกลางความมืดมิดมีพลังที่คอยจำกัดความก้าวหน้าของทุกสิ่งอยู่เสมอ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่านอกเหนือจากนี้ไปสมควรเป็นอย่างไร แล้วการถือกำเนิดขึ้นของข้ามีความหมายเช่นใดกันแน่
“บางทีเมื่อเจ้าบรรลุถึงเทพผู้สร้างอาจจะมองทะลุความหมายในการดำรงอยู่ได้”
พอสิ้นเสียง ภาพลวงตาวิวัฒนาการก็พังทลายลง
“จำไว้ สุดยอดผู้แข็งแกร่งมิใช่จุดที่ยั่งยืน แม้ว่าเจ้าจะบรรลุเป็นสุดยอดผู้แข็งแกร่งแล้ว แต่หากหยุดยั้งการฝึกบำเพ็ญ ไม่ช้าก็เร็วจะถูกแซงหน้าไป ในหมู่ผู้สืบทอดรุ่นก่อนๆ มีสุดยอดผู้แข็งแกร่งของยุคสมัยต่างๆ อยู่ด้วย แต่ส่วนใหญ่ล้วนหย่อนยานในการบำเพ็ญ ต่อมาจึงเผชิญกับการถูกแซงหน้าก้าวข้ามไป
“สิ่งที่ควรจำใส่ใจไว้ตลอดคือเจ้าเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร”
เสียงของเจตจำนงสรรค์สร้างเลือนรางไปเรื่อยๆ
จิตรับรู้ของหานเจวี๋ยกลับสู่ความเป็นจริง เขาเทพปู้โจวยังคงมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวยิ่ง สำนักทะยานฟ้าและตระกูลหานยังหาบทสรุปไม่ได้
หานเจวี๋ยพลันรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมา
ที่แท้ตัวเขาก็หาใช่เทพมารอนธการกลับชาติมาเกิด เขาเป็นเพียงหนึ่งในผู้สืบทอดนับไม่ถ้วนของระบบ
เป็นเขาที่คิดไกลไปเอง
ก่อนหน้านี้เขาหลงคิดไปว่าตนอาจเป็นเทพมารอนธการกลับชาติมาเกิด ก่อนตายได้ทิ้งตัวช่วยสุดเลิศล้ำอย่างหนึ่งไว้ให้ตัวเอง หรือไม่ระบบก็อาจจะมาจากตัวเขาในอนาคตอะไรแบบนั้น
ในนิยายออนไลน์เรื่องหนึ่งที่เขาเคยอ่านในชาติก่อนก็มีพล็อตแบบนี้อยู่เหมือนกัน
ส่วนตัวตนที่เรียกว่าเจตจำนงสรรค์สร้างก็ระวังเอาไว้หน่อยดีกว่า
การแนะนำประวัติส่วนตัวของตัวตนนี้ทำให้หานเจวี๋ยรู้สึกอยู่เสมอว่าค่อนข้างอันตราย หากไร้ความปรารถนาไร้อาวรณ์จริง เหตุใดต้องเหลือเสี้ยวเจตจำนงไว้ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...