ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1021

สรุปบท บทที่ 1021 มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 1021 มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1021 มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 1021 มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ

“เทพมารอนธการหรือ อยู่ที่ใดเล่า”

หานเจวี๋ยถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาเริ่มใคร่ครวญแล้วว่าดวงจิตนพชาติจะมีแผนการใด

ดวงจิตนพชาติตอบว่า “ข้าก็ไม่ทราบ แต่เจ้าสามารถสร้างขึ้นมาสักคนได้ ผลักดันให้เกิดมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้ยุคสมัยอันไร้สิ้นสุดมาถึงในเร็ววัน”

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วก่อนถาม “ยุคสมัยไร้สิ้นสุดคือสิ่งใด”

ดวงจิตนพชาติตอบว่า “เป็นยุคสมัยที่สามารถรองรับโลกมหามรรคต่างๆ ได้ ทำให้ฟ้าบุพกาลยกระดับกลายเป็นกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดอย่างแท้จริง เมื่อยุคสมัยนั้นมาถึง เจ้าก็สามารถยกระดับสู่ขั้นต่อไปได้ คิดว่าท่านพ่อก็คงเคยบอกเจ้าไปแล้ว ข้ามาหาเจ้าครั้งนี้ก็เพราะท่านพ่อเข้าสู่สภาวะปิดด่านไปแล้ว ข้าทำได้เพียงมาหาเจ้าแทน

“อดีตระหว่างเจ้าและข้าขอให้ลบเลือนไปเสียเถิด ข้าหวังเพียงว่ายุคสมัยไร้สิ้นสุดจะมาถึงในเร็ววัน เพื่อให้หลุดพ้นจากฐานะสิ่งมีชีวิตสามัญ”

หานเจวี๋ยหรี่ตาพลางเอ่ยถาม “เหตุใดถึงรีบร้อนขนาดนี้ นับตามอายุที่เจ้าคงอยู่มาก็ไม่น่าถึงขั้นนี้กระมัง”

ดวงจิตนพชาติกล่าวว่า “ข้าขอกล่าวตามตรง ถึงแม้ท่านพ่อจะสะกดตัวตนเหนือชั้นทั้งสองไว้ แต่นอกจากพวกเขาแล้วก็ยังมีอีกสองตัวตน หนึ่งในนั้นผู้โหดเหี้ยมกระหายเลือดใกล้จะฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว ทันทีที่ตื่นขึ้นมาเขาจะกวาดล้างสรรพสิ่งฟ้าบุพกาล ช่วยท่านพ่อควบคุมพัฒนาการของสรรพสิ่งฟ้าบุพกาล

“ถึงแม้ข้าจะเคยมีข้อพิพาทกับเจ้า แต่ดีร้ายอย่างไรข้าก็เฝ้ามองฟ้าบุพกาลวิวัฒนาการขึ้นมา ย่อมไม่อยากเห็นสรรพสิ่งฟ้าบุพกาลถูกล้างสังหาร หากเป็นในอดีตข้าคงอับจนหนทางจะทำสิ่งใดได้ แต่การปรากฏตัวของเจ้าทำให้ข้ามีความหวัง ท่านพ่อไว้หน้าเจ้าเป็นพิเศษ น่าจะวางใจให้เจ้ารับหน้าที่บุกเบิกยุคสมัยไร้สิ้นสุดได้ ขอเพียงยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาถึง สรรพสิ่งฟ้าบุพกาลจะไม่ถูกกักขังไว้ในฟ้าบุพกาลอีกต่อไป ตัวตนเหนือชั้นกระหายการฆ่าฟันผู้นั้นก็ไม่มีทางดำเนินการกวาดล้างได้อีก”

หานเจวี๋ยถามด้วยความแปลกใจ “เหตุใดถึงไม่อาจกวาดล้างได้อีก”

ดวงจิตนพชาติเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เมื่อยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาถึง โลกมหามรรคจะหลุดพ้น เขาก็ต้องยุ่งกับการดูแลโลกมหามรรคของตน ไหนเลยจะว่างมาใส่ใจฟ้าบุพกาลอีก”

“เช่นนั้นเหตุใดบิดาเจ้าถึงไม่สั่งห้ามเขากวาดล้างสรรพสิ่งฟ้าบุพกาลตรงๆ เล่า”

“เพราะเขากระทำการอย่างรู้หลักและไม่ล้ำเส้น สังหารเพียงตัวตนในระดับอริยะเท่านั้น ท่านพ่อไม่มีเวลามาสนใจเรื่องสะกดข่มผู้ทรงพลังฟ้าบุพกาล จึงยืมมือเขาได้พอดี”

วาจาของดวงจิตนพชาติเจือความเศร้าหมองไว้เล็กน้อย

หานเจวี๋ยขมวดคิ้วอีกครั้ง

หลังจากเจรจากับเจ้านวฟ้าบุพกาลไป เขาคิดว่าจะสามารถนั่งเป็นผู้ชมมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ได้ นั่งรอยุคสมัยไร้สิ้นสุดได้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้สร้างมรรคาอีกรายปรากฏตัวขึ้นมา

ดวงจิตนพชาติเอ่ยว่า “ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนนั้น ข้าพูดมากไม่ได้ มิเช่นนั้นจะถูกจับได้ เจ้าสามารถคัดเลือกสร้างเทพมารอนธการสักตนขึ้นมาโดยเร็ว ไม่จำเป็นต้องเป็นเทพมารอนธการตัวจริงก็ได้ ถึงอย่างไรเดิมทีเทพมารอนธการก็เป็นเพียงตำนานอยู่แล้ว ขอเพียงเจ้าขนานนามให้เขาเป็นเทพมารอนธการก็ใช้ได้แล้ว อีกอย่าง เด็กคนนี้จะต้องมีคุณสมบัติแข็งแกร่งถึงจะสามารถแบกรับดวงชะตาแห่งมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ได้

“ยุคสมัยไร้สิ้นสุด จำเป็นต้องมีเทพมารอนธการมารับช่วงสานต่อมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ ทำลายดินแดนเวิ้งว้าง เพราะความจริงแล้วดินแดนเวิ้งว้างก็คือกฎเกณฑ์ดั้งเดิมที่ผูกมัดฟ้าบุพกาลไว้”

พอเอ่ยจบดวงจิตนพชาติก็รีบสลายแดนความฝันลง

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ถามในใจ ‘เรื่องที่ดวงจิตนพชาติมาเข้าฝันบอกก่อนหน้านี้เป็นความจริงหรือไม่’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าหมื่นล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการต่อ!

[เป็นความจริง]

‘ผู้สร้างมรรคาที่ดวงจิตนพชาติกล่าวถึงคือผู้ใด’

[ตรวจสอบไม่พบบ่วงกรรมนี้ ไม่สามารถวิวัฒนาการได้]

‘ผู้สร้างมรรคาคนใดที่กระหายการฆ่าฟันและมักจะกวาดล้างสังหารตัวตนในระดับอริยะขึ้นไป’

[จำเป็นต้องหักอายุขัยสองแสนล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

จุ๊ๆ!

แข็งแกร่งกว่ามหาเทวาพ้นนิวรณ์และเจ้าอวิชชาฟ้าบุพกาลเสียอีก!

หานเจวี๋ยเลือกดำเนินการต่อ

ข้อความแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

[มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ: ผู้สร้างมรรคาระยะต้น ทวยเทพฟ้าบุพกาล ผู้สืบทอดฟ้าบุพกาลลำดับที่หนึ่ง ศิษย์สายตรงของเจ้านวฟ้าบุพกาล]

ยังคงเป็นผู้สร้างมรรคาระยะต้น ดูเหมือนเจ้านวฟ้าบุพกาลจะมีพลังสะกดข่มแรงกล้ายิ่ง ทำให้ผู้สร้างมรรคาทั้งสามไม่สามารถทะลวงขั้นต่อได้

ท้องนภาสีชาด ท้องสมุทรกว้างใหญ่มีระลอกคลื่นซัดสาด โครงกระดูกใหญ่มหึมาสารพัดลอยผลุบๆ โผล่ๆ อยู่บนผิวสมุทร

เจดีย์โบราณใหญ่มโหฬารองค์หนึ่งพลันลอยดิ่งลงมา เต้าจื้อจุน จ้าวเซวียนหยวน เจียงอี้ เหล่าตานและหานเย่ยืนอยู่บนเจดีย์

หานเย่สะพายธนูปฐมเทพทลายโลกาไว้บนหลัง กวาดตามองไปทั่วฟ้าดิน

เขาถามด้วยความสงสัย “ที่นี่คือที่ใด”

จ้าวเซวียนหยวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ที่นี่คือโลกมหามรรคพ้นนิวรณ์ที่ช่วงนี้กำลังมีชื่อเสียงเลื่องลือในฟ้าบุพกาล กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตเช่นเดียวกับฟ้าบุพกาล เพียงแต่ถูกฟ้าบุพกาลสะกดไว้ ทำให้ที่นี่เปลี่ยวร้างอย่างยิ่ง”

หานเย่ขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นมา “ในเมื่อเปลี่ยวร้างแล้วมาที่นี่ทำไม”

เจียงอี้เอ่ยด้วยความหงุดหงิด “เพียงขาดสิ่งมีชีวิตจึงเปลี่ยวร้าง แต่ในเมื่อเทียบได้กับฟ้าบุพกาล อีกทั้งมีมหามรรคสามพันวิถีรวมถึงกฎเกณฑ์สูงสุดเหมือนกัน พวกเราย่อมมาเพื่อช่วงชิงกฎเกณฑ์อย่างไรเล่า”

เหล่าตานลูบเคราพูด “ถูกต้อง ในอดีตฟ้าบุพกาลมีเพียงมหามรรคสามพันวิถีและเจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุด ก่อนที่อริยะสวรรค์เกรียงไกรจะผงาดขึ้นมา อริยะมหามรรคมีเพียงร้อยกว่าคนก็นับว่ามากพอดูแล้ว แต่เมื่อผ่านยุคสมัยของบุตรแห่งสวรรค์ไปหลายครั้งเข้า อริยะมหามรรคก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มหามรรคในฟ้าบุพกาลเริ่มไม่พอใช้แล้ว เทพมหาทัณฑ์ไม่อนุญาตให้ครอบครองมหามรรคทั้งหมดไว้เป็นการส่วนตัว ด้วยเหตุนี้เหล่าผู้ทรงพลังจึงหมายตาไปยังโลกมหามรรคอีกสองแห่งแทน”

หลังจากหานเย่ได้ฟังก็แค่นเสียงเอ่ยว่า “พลังของตัวเองต่างหากถึงจะเป็นของจริง อาศัยหยิบยืมพลังจากมหามรรคจะไขว้เขวพลาดท่าเอาได้ง่ายๆ”

เหล่าตานมองเขาพลางเอ่ยยิ้มๆ “เจ้าช่างมีวิสัยทัศน์ยาวไกลโดยแท้ ในอดีตเจ้าชะตาหวงจุนเทียนก็เคยพลาดท่าเพราะเหตุนี้ จึงพลาดตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุคไป”

สีหน้าเต้าจื้อจุนไม่น่ามองขึ้นมาแล้ว

จ้าวเซวียนหยวนมองทะลุจิตใจเขา จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสีย “รีบลงมือเถอะ ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ราชันฟ้าบุพกาลอุดรทิศมาถึงก่อนแล้ว โจมตีผู้ทรงพลังมากมายจนล่าถอยไป คาดว่าคนผู้นี้คงไม่ได้หมายปองมหามรรค แต่ต้องการอำนาจศักดิ์สิทธิ์ชะตามหามรรค!”

เจียงอี้พยักหน้ารับ ควบคุมเจดีย์โบราณให้ลอยมุ่งหน้าไป

จู่ๆ ธนูปฐมเทพทลายโลกาที่อยู่บนหลังของหานเย่ก็สั่นขึ้นมา ทำให้เขาขมวดคิ้ว

เหล่าตานมองธนูปฐมเทพทลายโลกา เอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนสมบัติวิเศษชิ้นนี้จะมีญาณหยั่งรู้ได้เช่นกัน ด้านหน้ามีศึกใหญ่อยู่”

เต้าจื้อจุนลุกขึ้นมา เสื้อคลุมไหวสะบัด เอ่ยด้วยท่าทางหยิ่งทะนง “ข้าไม่ได้เผชิญหน้ากับศัตรูมานานมากแล้ว”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ