สรุปเนื้อหา บทที่ 1033 จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บท บทที่ 1033 จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์ ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 1033 จอมเทวาวินาศลับเลือนพิสุทธิ์
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของหานฮวง เทวีตราวินัยยกยิ้มมุมปาก ไม่พูดมากอีก
สองดวงจิตเฝ้ามองต่อไป ผ่านไปนานพักใหญ่ถึงได้จากไป
หลังจากงานชุมนุมฟ้าบุพกาลสิ้นสุด ข่าวเรื่องการมาถึงของโลกผลาญนภาก็จะแพร่ออกไป
งานชุมนุมฟ้าบุพกาลครั้งที่สองมีสีสันอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้ครอบครองตำแหน่งเลิศล้ำหมื่นยุคคือจ้าวซวงเฉวียนแห่งมรรคาสวรรค์ สิบยอดฟ้าได้แก่จ้าวซวงเฉวียน หวงจุนเทียน เต้าจื้อจุน หานทั่ว อู๋เซียงเทียนเซี่ย จักรพรรดิเหมันต์จงอวี้ นี่เสินเต้า อี๋เทียน หานเย่ หานเหยา
มีหลายคนในตำแหน่งสิบยอดฟ้ารุ่นก่อนที่ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันอีก อย่างเช่นเจียงเจวี๋ยซื่อ มู่หรงฉี่และเทพมารขุนพลสวรรค์เป็นต้น
ส่วนในร้อยศักดา พันองอาจ หมื่นผู้กล้าก็มีหน้าใหม่ๆ ปรากฏตัวขึ้นมากมายเช่นกัน
เวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ร่างแยกของหานเจวี๋ยพาเหล่าศิษย์สืบทอดกลับไป ส่วนร่างจริงก็ยังคงฝึกบำเพ็ญอยู่
ผ่านไปหนึ่งล้านปีหลังสิ้นสุดงานชุมนุมฟ้าบุพกาล ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ทะลวงขั้นสำเร็จ
ผู้สร้างมรรคาระยะกลาง!
พลังเวทผู้สร้างเริ่มปะทุดุเดือด โลกปฐมยุคก็ขยายตัวออกไป ดวงดาวนับไม่ถ้วนถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง
ด้วยอัตราความเร็วในการขยายตัวระดับนี้ อีกไม่นานโลกปฐมยุคจะบรรลุถึงขอบเขตเดียวกับฟ้าบุพกาล
หานเจวี๋ยปรับตบะให้มั่นคงพลางเรียกดูหน้าต่างค่าสถานะ
[ชื่อ: หานเจวี๋ย]
[อายุขัย: 66,281,037/1,019,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999,999, 999,999,999,999]
[เผ่าพันธุ์: เทพมารปฐมยุค (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]
[ตบะ: ผู้สร้างมรรคาระยะกลาง (อริยะสมบูรณ์แบบ)]
[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ (ระดับมหามรรค), วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]
[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด, มหามรรคแห่งกรรม, มหามรรคต้นกำเนิด]
[คุณสมบัติกาย: กายเลิศมรรคาปฐมยุค]
….
สมกับเป็นผู้สร้างมรรคา ทะลวงขั้นครั้งนี้อายุขัยเพิ่มขึ้นมาอีกแปดหลัก
ยอดเยี่ยมมาก!
หานเจวี๋ยปรีดาอยู่ในใจ ปรับตบะให้มั่นคงต่อไป
ห้าแสนปีต่อมา ตบะของหานเจวี๋ยมั่นคงสมบูรณ์ แต่เขารับรู้ได้ถึงพลังแกร่งกล้าประการหนึ่งที่ต้องการลากดึงโลกปฐมยุคออกมาจากส่วนลึกของวิญญาณเขา
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
ยิ่งตบะเขาสูงขึ้นเท่าไรก็พบว่าพลังนี้แรงกล้าขึ้นเท่านั้น
มิน่าเล่าฟ้าบุพกาลถึงไม่สามารถขยายตัวต่อไปได้ หรือว่าพลังนี้มาจากดินแดนเวิ้งว้าง คอยจำกัดการพัฒนาของฟ้าบุพกาลไว้อย่างนั้นหรือ
หากเป็นเช่นนี้ หานเจวี๋ยคงทำได้เพียงชะลอการบำเพ็ญไว้ มิเช่นนั้นโลกปฐมยุคจะถูกลากออกไปสะกดข่มฟ้าบุพกาล เช่นนี้ต้องยั่วโทสะของเจ้านวฟ้าบุพกาลแน่
ยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นก็คือปล่อยโลกปฐมยุคออกสู่ดินแดนเวิ้งว้าง
แต่ทำเช่นนี้จะกลายเป็นการเปิดเผยโลกปฐมยุคออกไป
ช่วยไม่ได้แล้ว
หานเจวี๋ยไม่อาจหยุดบำเพ็ญได้ ทำได้เพียงมุ่งหน้าไปยังดินแดนเวิ้งว้าง
คิดไปคิดมาเขาก็สร้างร่างแยกขึ้นมาร่างหนึ่งให้มุ่งหน้าไปยังดินแดนเวิ้งว้าง เขาให้ร่างแยกนำกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติของโลกปฐมยุคที่แยกส่วนไว้ไปก่อน แบ่งแยกออกเป็นหลายๆ ส่วน เพิ่มทางรอดให้ตัวเองมากขึ้น
ขณะที่แบ่งแยกกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติอยู่นั้น หานเจวี๋ยก็ออกท่องดินแดนเวิ้งว้างไปด้วย
ระดับยอดมหามรรคยังไม่กล้าเข้าสู่ส่วนลึกของดินแดนเวิ้งว้าง เนื่องจากอาจจะหลงทางได้ แต่ผู้สร้างมรรคากลับต่างออกไป แม้จะไม่สามารถสอดส่องทั่วทั้งดินแดนเวิ้งว้างได้ แต่ค้นหาฟ้าบุพกาลได้ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ
ดินแดนเวิ้งว้างยังคงเงียบเหงาวังเวงเช่นเดียวกับที่ผ่านมา
อริยะมหามรรคล้วนไม่สามารถเข้าสู่เขตนี้ได้ ดินแดนเวิ้งว้างย่อมเงียบเหงาเป็นธรรมดา
จู่ๆ หานเจวี๋ยก็นึกสงสัยอยู่ในใจ
‘ข้าอยากรู้ว่าดินแดนเวิ้งว้างให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งแสนล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ค่าตัวระดับผู้สร้างมรรคา!
ดำเนินการต่อ!
….
ขณะที่ร่างแยกของหานเจวี๋ยกำลังท่องอยู่ในดินแดนเวิ้งว้าง หานเจวี๋ยร่างจริงก็ลืมตาขึ้น
เขาเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบเพื่อวัดพลังของตัวเอง
ท้าสู้มหาเทวาพ้นนิวรณ์หนึ่งพันคน!
หานเจวี๋ยทุ่มพลังทั้งหมดโจมตี เอาชนะได้สบายๆ
เขาเพิ่มจำนวนขึ้นอีก จนกระทั่งพุ่งไปถึงหนึ่งหมื่นคน!
ต่อสู้กับมหาเทวาพ้นนิวรณ์หนึ่งหมื่นคน!
หานเจวี๋ยต่อสู้ในแบบจำลองการทดสอบไปเรื่อยๆ สุดท้ายสู้กับมหาเทวาพ้นนิวรณ์ได้มากที่สุดสองหมื่นคน
แค่นี้ก็แข็งแกร่งมากแล้ว
หานเจวี๋ยมองไปที่หานหลิง
กองทหารจักรพรรดิของหานหลิงที่กำลังมุ่งสู่ระดับผู้สร้างมรรคาแข็งแกร่งมาก ไม่รู้ว่าหลังจากบรรลุผู้สร้างมรรคาแล้วจะยังทรงพลังขึ้นอีกหรือไม่
ต้องทราบก่อนว่าผู้สร้างมรรคาสามารถสร้างร่างแยกที่มีตบะเท่าร่างต้นจำนวนนับไม่ถ้วนได้ นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่สิ่งที่ยากคือพลังสรรค์สร้างของผู้สร้างมรรคา
ยกตัวอย่างเช่นหานเจวี๋ย เขาสร้างร่างแยกนับไม่ถ้วนได้ง่ายยิ่ง แต่หากจะให้ร่างแยกทั้งหมดสามารถสำแดงปฐมยุคสิ้นสูญออกมานั่นคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
มหาเทวาพ้นนิวรณ์สองหมื่นคนที่หานเจวี๋ยท้าทายล้วนสำแดงพลังวิเศษของตนออกมาได้ เท่าที่เขาทราบมา กองทหารจักรพรรดิของหานหลิงอย่างมากก็ทำได้เพียงตั้งค่ายกลเท่านั้น
แน่นอนว่าบางทีหลังจากสำเร็จเป็นผู้สร้างมรรคาแล้ว กองทหารจักรพรรดิของหานหลิงอาจจะเปลี่ยนแปลงไป
หลังจากสิ้นสุดการใช้งานแบบจำลองการทดสอบ หานเจวี๋ยเตรียมจะฝึกบำเพ็ญต่อ แต่จู่ๆ ก็มองเห็นศึกใหญ่ที่อุบัติขึ้น ณ ชายขอบฟ้าบุพกาล
หานฮวงก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย คู่ต่อสู้มิใช่สิ่งมีชีวิตฟ้าบุพกาล ดูจากกลิ่นอายแล้วน่าจะมาจากโลกผลาญนภา เป็นยอดมหามรรคเช่นเดียวกัน แรงกดดันจากการต่อสู้แกร่งกล้ายิ่ง หากมิใช่เพราะมีเหล่าดวงจิตมหามรรคคอยปกป้องห้วงมิติอยู่เกรงว่าคงกระทบไปทั่วฟ้าบุพกาลแล้ว
โลกผลาญนภากำลังจะชนเข้ากับฟ้าบุพกาล เมื่อถึงเวลานั้นสิ่งมีชีวิตจากโลกมหามรรคทั้งสองย่อมต้องปะทะกัน ผู้ทรงพลังของโลกผลาญนภาชิงเปิดฉากก่อน เดิมทีคิดจะสำแดงพลังวิเศษออกมา ผลคือถูกหานฮวงเข้าสกัดขวาง
หานเจวี๋ยมองอยู่สักพักก็รู้สึกเบื่อหน่าย
แค่การต่อสู้เล็กๆ เท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนี้ มีผู้ทรงพลังจากฟ้าบุพกาลมุ่งหน้าไปยังสนามรบแห่งนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หานฮวงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง เล่นงานศัตรูได้อยู่หมัดแต่ตั้งใจไม่ปลิดชีพ สร้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ให้ฟ้าบุพกาล เหล่าดวงจิตมหามรรคล้วนปรบมือร้องชมเชย
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...