ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1032

สรุปบท บทที่ 1032 โลกผลาญนภา: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอน บทที่ 1032 โลกผลาญนภา จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1032 โลกผลาญนภา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 1032 โลกผลาญนภา

“ไม่ว่าจริงหรือเท็จ การยกระดับตบะของตนสำคัญที่สุด วันพินาศของมรรคาสวรรค์ยังมาไม่ถึงหรอก”

หานเจวี๋ยเอ่ยเสียงเบา น้ำเสียงเรียบเฉย

พอหวงจุนเทียนได้ยินวาจานี้ก็ยิ่งคิดไปใหญ่

ห้าสิบล้านปีก่อน ตัวตนลึกลับจากโลกมหามรรคอวิชชาโจมตีฟ้าบุพกาล แต่ก็ถูกสะกดไว้อย่างรวดเร็ว

ที่แท้แล้วเหนือฟ้าบุพกาลซุกซ่อนตัวตนเหนือชั้นที่ยากจะจินตนาการไว้มากมายแค่ไหนกันแน่

หานเจวี๋ยและหวงจุนเทียนพูดคุยกันอีกสองสามประโยคก็สิ้นสุดแดนความฝัน

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น สอดส่องดูหานป้าเสินที่อยู่ในอารามเต๋าด้านข้าง พบว่าพิสูจน์อริยะมหามรรคแล้ว

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “หลิงเอ๋อร์ พ่อมอบสิทธิ์เข้าใช้แบบจำลองการทดสอบให้หานป้าเสินแล้ว เข้าไปชี้แนะเขาทีว่าใช้งานอย่างไร”

หานหลิงลืมตาขึ้นแล้วออกไปทันที

หานเจวี๋ยมองลงไปยังก้นบึ้งฟ้าบุพกาล มารร้ายที่ผันแปรมาจากจิตมารของเจ้านวฟ้าบุพกาลเริ่มกระจายตัวขึ้นมาแล้ว เพิ่มจำนวนมหาศาล ดวงจิตมหามรรคเข่นฆ่าไม่หมดไม่สิ้น หานทั่ว อี๋เทียนและเหล่าเทวทัณฑ์ก็มุ่งหน้าไปกำจัดมาร สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

เหลืออีกสองแสนปีก็จะถึงช่วงจัดงานชุมนุมฟ้าบุพกาลแล้ว คาดว่าในงานชุมนุมฟ้าบุพกาลครั้งนี้คงมีภารกิจกำจัดมารร้ายรวมอยู่ด้วย

หานเจวี๋ยสร้างร่างแยกร่างหนึ่งขึ้น พอถึงเวลาก็ให้พาคู่บำเพ็ญและเหล่าศิษย์มุ่งหน้าไปร่วมงานชุมนุมฟ้าบุพกาล ส่วนร่างจริงของเขาจะฝึกบำเพ็ญต่อไป มุ่งมั่นทะลวงขั้น

เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็เริ่มปิดด่านฝึกบำเพ็ญ

อีกด้านหนึ่ง หานป้าเสินเริ่มประลองกับหานหลิงในแบบจำลองการทดสอบแล้ว

หานหลิงตั้งใจให้หานป้าเสินมาประลองกับตนก่อน หานป้าเสินตื่นเต้นยิ่ง ฝึกบำเพ็ญมาเนิ่นนานขนาดนี้ ในที่สุดก็ได้ลงมือแล้ว

เขาก็อยากทดสอบพลังของท่านบรรพชนหานหลิงเช่นกัน!

จากนั้น…

รอจนหานป้าเสินได้สติกลับมา สายตาที่มองหานหลิงแฝงความหวาดหวั่นเล็กน้อย

เขาไม่คิดเลยว่าบรรพชนหานหลิงที่ดูอ่อนโยนยามต่อสู้ขึ้นมาจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ ราวกับเป็นคนละคน

หานหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เทียบกับข้าแล้วเจ้าห่างชั้นไกลโข แต่เจ้าสามารถไปประลองกับคนอื่นๆ ได้ แบบจำลองการทดสอบรวบรวมสรรพสิ่งไว้ เจ้าสามารถเลือกท้าประลองได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นระดับใดล้วนมีทั้งสิ้น”

หานป้าเสินสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง พยักหน้าจากนั้นก็เข้าสู่แบบจำลองการทดสอบ เริ่มเลือกท้าทายคู่ต่อสู้

เขาค้นหาอริยะมหามรรค เขาไม่คิดจะไปเล่นกับพวกอ่อนหัดในระดับที่ต่ำกว่าอริยะมหามรรคเลย

ในไม่ช้าเขาก็เสพติดลุ่มหลง

หลายวันต่อมา เขาสร้างความมั่นใจขึ้นมาเต็มที่แล้ว

บรรพชนหานหลิงเอาชนะเขาได้ จะต้องอยู่ในระดับที่เหนือกว่าเขาแน่นอน

แต่ในระดับเดียวกัน เขาก็นับว่าไร้พ่ายแล้ว!

เขาพลันบังเกิดความคิดอาจหาญอย่างหนึ่งขึ้น

ท่านปฐมบรรพชนหานเจวี๋ยจะมีพลังระดับใดกัน

เขาเลือกท้าทายหานเจวี๋ยทันที

….

ก้นบึ้งฟ้าบุพกาล ณ เมืองทศพิธ

เนื่องจากงานชุมนุมฟ้าบุพกาลครั้งที่สองมาถึงแล้ว เมืองทศพิธจึงกลับมาคึกคักอีกครั้ง อีกทั้งมีเสียงครึกโครมแว่วมาจากนอกเมืองไม่ขาด นั่นคือเสียงเหล่าผู้ทรงพลังกำลังต่อสู้กับมารร้ายอยู่

หลายล้านปีมานี้ ก้นบึ้งฟ้าบุพกาลเต็มไปด้วยมารร้ายลึกลับ มารร้ายเหล่านี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ชอบการทำลายล้างและฆ่าฟัน มีผู้ทรงพลังและบุตรแห่งสวรรค์ไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อใต้กรงเล็บของพวกมัน

ร่างแยกของหานเจวี๋ยพาญาติมิตรมุ่งหน้ามา เป็นเช่นเดียวกับในครั้งก่อน ศิษย์ของสำนักซ่อนเร้นและมรรคาสวรรค์จะจับกลุ่มอยู่ด้วยกัน พวกเต้าจื้อจุนทั้งห้าก็มาด้วย คนส่วนใหญ่ไม่ได้พบกันมาหลายสิบล้านปี ล้วนกำลังทักทายสอบถามความเป็นไปของกันและกัน

บรรยากาศครื้นเครง ถึงแม้ศิษย์สำนักซ่อนเร้นจะต่างคนต่างไปแต่เพราะมีหมื่นโลกาฉายชัดอยู่ สายสัมพันธ์จึงไม่ห่างหายไป แม้ว่าจะต่อสู้กันแต่ก็จบลงเพียงเท่านั้น ไม่ได้โกรธแค้นผูกอาฆาต

สองดวงจิตมหามรรคมองไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อมองตามสายตาของพวกเขาไป ในส่วนลึกของดินแดนเวิ้งว้างปรากฏเป็นจุดดำๆ จุดหนึ่ง กำลังขยายใหญ่ขึ้นช้าๆ

นั่นคือโลกมหามรรคแห่งหนึ่ง ใหญ่ไพศาลไม่ด้อยไปกว่าฟ้าบุพกาลเลย

เทวีตราวินัยเอ่ยขึ้นว่า “มองเห็นแล้วกระมัง นี่คือปฐมบทแห่งยุคสมัยไร้สิ้นสุด เมื่อโลกมหามรรคทั้งสองแห่งมาบรรจบกัน ผู้ยิ่งใหญ่และบุตรแห่งสวรรค์ของสองโลกจะเข้าต่อสู้ห้ำหั่น ผู้ที่มีใจทะเยอทะยานเหล่านั้นจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจผลประโยชน์ เปิดฉากมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ขึ้น”

หานฮวงแค่นเสียงเอ่ย “มาก็มาสิ ข้าจะเป็นตัวแทนของฟ้าบุพกาลสกัดขวางผู้มารุกรานไว้”

เทวีตราวินัยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “โลกมหามรรคแห่งนี้คือโลกผลาญนภา โลกผลาญนภาคงอยู่มาเนิ่นนาน เป็นโลกมหามรรคที่มีอายุมากที่สุดรองลงมาจากฟ้าบุพกาล”

“เช่นนั้นแปลว่าแข็งแกร่งที่สุดหรือ”

“มิใช่ ยังมีโลกมหามรรคอีกแห่งที่แข็งแกร่งกว่า กำลังอยู่ระหว่างเดินทางมา อีกหลายร้อยล้านปีให้หลังน่าจะปรากฏขึ้น”

“เทวี เหตุใดข้ารู้สึกว่าท่านรู้มากกว่าเทพมหาทัณฑ์อีกเล่า ท่านเป็นตัวตนเช่นใดกันแน่”

หานฮวงขมวดคิ้วเอ่ยถาม ถึงแม้เทวีตราวินัยจะไม่แข็งแกร่งเท่าเขา ทว่ามักจะให้ความรู้สึกลึกลับคาดเดายาก ทำให้เขามองไม่กระจ่างอยู่เสมอ

เทวีตราวินัยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าคือวินัย วินัยแห่งฟ้าบุพกาล หานฮวง ข้าเชื่อว่าเจ้าคือเทพมารอนธการ เทพมารอนธการจะต้องบุกเบิกอนธการขึ้นมา แต่เจ้าควรรอให้ยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาถึงจะเป็นการดีที่สุด มิเช่นนั้นพลังแห่งอนธการจะย้อนกัดกินฟ้าบุพกาล เสมือนครั้งอดีตที่ฟ้าบุพกาลเข้าแทนที่อนธการ เป็นอันตรายต่อสรรพสิ่งฟ้าบุพกาลและสรรพสิ่งมรรคาสวรรค์”

หานฮวงเงียบไป

ในเวลานี้เอง!

เขาเงยหน้ามองออกไปในทันใด เห็นเพียงว่ามีแสงสีดำสายหนึ่งพุ่งออกมาจากที่ไกลออกไปเกินจะเอื้อมถึง เขายื่นมืออกไปคว้าไว้ สิ่งที่อยู่ในมือคือแหวนวงหนึ่ง แหวนวงนี้ดูคล้ายจันทร์เสี้ยว แหว่งหายไปเสี้ยวหนึ่ง ทำให้มันไม่สามารถประกอบเป็นวงกลมที่สมบูรณ์ได้

หานฮวงขมวดคิ้วเอ่ยถาม “นี่คือสิ่งใด”

เทวีตราวินัยตอบว่า “แหวนของนักรบคนหนึ่งในโลกผลาญนภา แหวนวงนี้สามารถช่วยให้เจ้าก่อตั้งโลกมหามรรคได้ ช่วยเพิ่มพลังตระหนักรู้และพลังสรรค์สร้างให้เจ้า แต่หากเจ้าสิ้นชีพลงมันจะดูดซับพลังแห่งการสรรค์สร้างของเจ้าแล้วไปเติมเต็มให้นักรบคนนั้น

“เขากำลังประกาศศึกกับเจ้า หากเจ้าตาย เขาจะได้พลังสรรค์สร้างของเจ้า หากเขาตาย เจ้าจะได้พลังสรรค์สร้างของเขา”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ