บทที่ 1035 สร้างเผ่าพันธุ์
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญจ้องมองหานเจวี๋ยพลางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ มิน่าเล่าถึงมีความมั่นใจขนาดนี้ ผู้สร้างมรรคาไม่อาจเข่นฆ่าผู้สร้างมรรคาด้วยกันได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็มารอดูกันไปเถิดว่าสุดท้ายแล้วโลกมหามรรคของผู้ใดจะได้หัวเราะในท้ายที่สุด”
พอกล่าวจบมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญก็เลือนหายไปกลางอากาศ ไอโลหิตที่ปกคลุมดินแดนเวิ้งว้างแถบนี้ก็เลือนหายไปเช่นกัน
หานเจวี๋ยไม่ทราบว่าคนผู้นี้คิดอะไร แต่ก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เห็นมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญอยู่ในสายตา
[มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 3 ดาว]
หานเจวี๋ยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็กระโจนกลับมายังฟ้าบุพกาล กลับไปที่อารามเต๋าในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
หานหลิงลืมตาขึ้นพลางเอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ ท่านไปที่ใดมาหรือเจ้าคะ”
หานเจวี๋ยตอบว่า “นำโลกมหามรรคของพ่อไปปลดปล่อยไว้นอกฟ้าบุพกาล”
พอหานหลิงได้ฟังก็มีสีหน้าตกใจ รีบเอ่ยถามว่า “เพราะเหตุใดเจ้าคะ ท่านพ่อบอกว่าเช่นนั้นอันตรายมากมิใช่หรือ”
หานเจวี๋ยก็เล่าความจริงออกไปโดยไม่ปิดบัง
หานหลิงพึมพำว่า “นั่นคือพลังแห่งฟ้าบุพกาลหรือ ดึงดูดโลกมหามรรคอื่นๆ เข้ามาเช่นนี้เห็นทีว่าความแตกต่างด้านพลังระหว่างโลกมหามรรคจะสำคัญมากกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้”
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง จากนี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นกับฟ้าบุพกาล รอดูต่อไปเถิด”
หานหลิงพยักหน้ารับ จากนั้นลุกขึ้นเดินออกไป
มีความเป็นไปได้เกือบสิบส่วนว่าจะออกไปประลองกับหานป้าเสินเพื่อแก้ขัดไปก่อน
หานเจวี๋ยนำชิ้นส่วนอนธการออกมา จมจ่อมอยู่ในห้วงความคิด
มหารังสรรค์อนธการสามารถสร้างวิชายุทธ์ได้ ใช้บุกเบิกฟ้าดินสร้างเผ่าพันธุ์ได้ สร้างสรรค์ได้ทุกสิ่ง
ตอนนี้เขาไม่ขาดแคลนวิชายุทธ์และพลังวิเศษ ไม่มีความจำเป็นต้องนำมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
เขานึกถึงโลกปฐมยุค
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญหมายตาโลกปฐมยุคแล้ว ทั้งยังต้องการแข่งขันกันด้วยโลกมหามรรค
ต้องเพิ่มพลังให้แก่โลกมหามรรค
ถึงแม้โลกปฐมยุคจะมีเทพมารฟ้าบุพกาลสองพันเก้าร้อยกว่าตนแล้ว แต่ระยะเวลาในการเติบโตถึงอย่างไรก็สู้โลกผลาญนภาไม่ได้ อีกอย่างไรนอกจากเทพมารฟ้าบุพกาลแล้ว สิ่งมีชีวิตปฐมยุคส่วนใหญ่ล้วนยังอยู่ในระหว่างฟูมฟัก ตอนนี้ยังไม่ปรากฏเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งทรงพลังขึ้น
มิสู้ใช้มหารังสรรค์อนธการสร้างเผ่าพันธุ์หนึ่งขึ้นมาจะดีกว่า
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าใช้การได้
เขาผสานชิ้นส่วนอนธการทั้งเก้าเข้าด้วยกัน
เขาเริ่มวางแผนจินตนาการถึงเผ่าพันธุ์อยู่ในใจ ชิ้นส่วนอนธการทั้งเก้าผสานรวมกันแผ่แสงสีม่วงออกมาเจิดจ้าแยงตา
อีกด้านหนึ่ง ภายในอารามเต๋าหลังข้างเคียง
หานป้าเสินยกมือปรามเอ่ยไปว่า “ท่านบรรพชน ข้าไม่เอาแล้ว! ไม่เอาแล้วจริงๆ ขอรับ! แบบจำลองการทดสอบมีอันใดน่าสนุกกัน ข้าไม่สนใจเลย!”
หานหลิงขมวดคิ้วเอ่ยถาม “เพราะเหตุใด ก่อนหน้านี้เจ้าก็เคยเสพติดไม่ใช่หรือ”
หานป้าเสินตอบอ้อมแอ้มว่า “เพียงชั่วระยะหนึ่งเท่านั้น…”
หานหลิงรู้สึกเบื่อหน่าย นางแค่นเสียงใส่พลางสะบัดแขนเสื้อจากไป
ทว่าพอนางคิดจะเข้าไปในอารามเต๋าของหานเจวี๋ย กลับถูกขวางไว้ทำอย่างไรก็เปิดประตูไม่ออก นางเดาว่าบิดาคงจะทำธุระอยู่ จึงหันเหไปคุยเล่นกับคนอื่นๆ แทน
เก็บตัวมาชั่วนาตาปีได้ออกมาผ่อนคลายบ้างเป็นครั้งคราวก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน มีส่วนช่วยเสริมสร้างมรรคจิตให้มั่นคง
หลายปีต่อมาหานหลิงถึงได้กลับเข้ามาในอารามเต๋า
เผ่าพันธุ์ที่หานเจวี๋ยสร้างขึ้นจากมหารังสรรค์อนธการยังอยู่ในระหว่างฟูมฟักจึงถูกเขาเก็บไว้ในส่วนลึกของวิญญาณ
หานหลิงก็ไม่ได้สอบถามซักไซ้ ท่านพ่อทำตัวลึกลับเสมอมา แม้ว่าตบะของนางจะบรรลุถึงขีดสูงสุดในฟ้าบุพกาลแล้ว ก็ยังมองท่านพ่อไม่ออกอยู่ดี
หานเจวี๋ยไม่ได้ฝึกบำเพ็ญแต่กำลังอ่านจดหมายอยู่
[เต้าจื้อจุนศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญของโลกผลาญนภา] x10928763
[จ้าวเซวียนหยวนศิษย์ของท่าน…]
….
[หานทั่วบุตรชายของท่านถล่มห้วงอวกาศ ได้รับสมบัติวิเศษผลาญนภา ได้รับดวงชะตาผลาญนภา]
[หานเหยาเชื้อสายของท่านสร้างกองทัพเทพจากโลหิต พลังมรรคเพิ่มมหาศาลฉับพลัน]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...