สรุปเนื้อหา บทที่ 1058 มหาเคราะห์ที่ใกล้เข้ามา หานเจวี๋ยทะลวงขั้น – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บท บทที่ 1058 มหาเคราะห์ที่ใกล้เข้ามา หานเจวี๋ยทะลวงขั้น ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 1058 มหาเคราะห์ที่ใกล้เข้ามา หานเจวี๋ยทะลวงขั้น
“หานฮวงใช่เทพมารอนธการหรือไม่ ข้าก็ไม่ทราบแน่ชัด ถึงอย่างไรข้าก็มิใช่เทพมารอนธการ แต่พิจารณาจากคุณสมบัติเขาแล้ว สอดคล้องกับเทพมารอนธการยิ่งนัก บางทีเทพมารอนธการอาจจะมิใช่คุณสมบัติโดยกำเนิด แต่ได้มาจากการพึ่งพาดวงชะตาอันยิ่งใหญ่”
หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างใช้ความคิด หวงจุนเทียนได้ฟังก็พยักหน้ารับ
ท้ายที่สุดแล้วเทพมารอนธการก็เป็นเพียงตำนาน หากว่าหานเจวี๋ยทราบเรื่องราวดี เช่นนั้นจะมิแปลว่าการดำรงอยู่ของหานเจวี๋ยลึกล้ำยิ่งกว่าทั่วฟ้าบุพกาลอีกหรือ
อันที่จริงหวงจุนเทียนคิดว่าสือหยวนหงเหมิงเข้ารีตมารไปแล้ว เพ้อฝันอยากจะกลายเป็นเทพมารอนธการ
“นายท่าน ระวังไว้หน่อยดีกว่าขอรับ หากว่าข้าควบคุมสื่อหยวนหงเหมิงไม่อยู่ เขาต้องคิดล้างแค้นฟ้าบุพกาลแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเป้าหมายแรกก็คือหานฮวง” หวงจุนเทียนเอ่ยเตือน
หานเจวี๋ยพยักหน้าเอ่ยไปว่า “เจ้าก็ต้องระวังไว้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรก็อย่าปล่อยให้ชีวิตหลุดลอยไป หากว่าคุมไม่อยู่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องคุม ฟ้าบุพกาลหาได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิดไม่”
หวงจุนเทียนตื้นตันอยู่ในใจ ประสานมือกล่าวไปว่า “ข้าจะเชื่อฟังคำชี้แนะของนายท่านแน่นอนขอรับ”
ทั้งสองพูดคุยกันต่ออีกสักพักแดนความฝันก็สิ้นสุดลง
หานเจวี๋ยสอบถามในใจ ‘หากสื่อหยวนหงเหมิงอยู่ในโลกอนธการดึกดำบรรพ์จะสามารถกลายเป็นเทพมารอนธการได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าร้อยล้านล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[ได้]
หัวใจหานเจวี๋ยพลันหนักอึ้ง เขาเริ่มทำนายหาพิกัดโลกอนธการดึกดำบรรพ์ ทว่าไม่อาจทำนายถึงได้
เขาจำเป็นต้องลองสอบถามกับความสามารถวิวัฒนาการดู
[ไม่สามารถวิวัฒนาการถึงพิกัดของโลกอนธการดึกดำบรรพ์ได้]
เมื่อหานเจวี๋ยเห็นเช่นนี้ก็เคลื่อนย้ายไปยังอารามเต๋าในอาณาเขตเต๋าหลัก หยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งสื่อหยวนหงเหมิง
ทว่าหนังสือแห่งความโชคร้ายก็ไม่สามารถส่งพลังไปถึงสื่อหยวนหงเหมิงได้
กล่าวอีกนัยคือ โลกอนธการดึกดำบรรพ์ไม่ได้อยู่ในฟ้าบุพกาลหรือดินแดนเวิ้งว้างเลย แต่เป็นมิติแห่งหนึ่งที่ยากจะจินตนาการถึงได้
ดูเหมือนคงต้องปล่อยสื่อหยวนหงเหมิงไปก่อน
หานเจวี๋ยลังเลว่าควรใช้วิชาอัญเชิญเทพดึงตัวหวงจุนเทียนกลับมาหรือไม่ ด้วยตบะของเขาในตอนนี้สามารถเรียกกลับมาเพียงคนเดียวได้แล้ว ไม่ใช่เรียกทุกคนที่ได้รับถ่ายทอดวิชาอัญเชิญเทพกลับมาทั้งหมดเฉกเช่นในอดีต
เขาทดลองเรียกตัวหวงจุนเทียนกลับมาทันที เพราะดีร้ายอย่างไรหวงจุนเทียนก็จงรักภักดีต่อเขา
ทันใดนั้นเขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
ไม่ว่าเขาจะใช้วิชาอย่างไรก็รับรู้ถึงกลิ่นอายของหวงจุนเทียนไม่ได้เลย
“แล้วไปเถอะ คงทำได้แค่รอเท่านั้น”
หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้ แต่ก็แปลกใจอยู่ดี สามารถเข้าฝันได้แต่ไม่สามารถเรียกตัวกลับมาได้ โลกอนธการดึกดำบรรพ์อยู่ที่ไหนกันแน่
ในเมื่อคิดไม่ออกหานเจวี๋ยก็ได้แต่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญต่อไป
ทะลวงสู่ระดับผู้สร้างมรรคาระยะปลายให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
หานเจวี๋ยหลับตาลงเริ่มฝึกบำเพ็ญ
….
ณ ดินแดนเวิ้งว้าง เจ้านวฟ้าบุพกาลและมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญมาพบกันที่นี่
เจ้านวฟ้าบุพกาลยังคงเป็นเงาดำอยู่เช่นเดิม ร่างกายไม่ได้ใหญ่มโหฬารเท่ามหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญ แต่มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญกลับคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญดูคล้ายเมฆครึ้มที่เกาะกลุ่มชุมนุม มองไม่เห็นใบหน้าเช่นเดียวกัน บุคลิกไม่คล้ายกับมนุษย์ แผ่พลังอำนาจมหาศาลแห่งทวยเทพออกมา
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” เจ้านวฟ้าบุพกาลเอ่ยถาม
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญตอบว่า “ยังหาไม่พบขอรับ แต่ชะตากรรมแห่งมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว พวกเราจำเป็นต้องเตรียมการต่อ ท่านจะเริ่มบุกเบิกยุคสมัยไร้สิ้นสุดยามใดขอรับ”
เจ้านวฟ้าบุพกาลกล่าวว่า “เดิมทีข้าคิดจะอาศัยมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่บุกเบิกยุคสมัยไร้สิ้นสุดขึ้น แต่การบุกเบิกยุคสมัยไร้สิ้นสุดจำเป็นต้องมีพลังเหนือระดับผู้สร้างมรรคา ข้ายังอยู่ห่างจากการฝ่าทะลวงอีกเล็กน้อย ตอนนี้มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่กำลังจะมาเยือน นี่คืองานใหญ่ไม่อาจขัดขวางได้”
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญเงียบไป
เจ้านวฟ้าบุพกาลเอ่ยว่า “เมื่อยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาถึง ข้าจะเกษียณตัวให้เจ้ารับช่วงต่ออำนาจของข้า แต่หากต้องการสืบทอดอำนาจนี้ เจ้าต้องมีพลังเหนือกว่าผู้สร้างมรรคาคนอื่นๆ ด้วย มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ในครั้งนี้ก็คือโอกาสดี หากสามารถยึดครองดวงชะตามหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ไว้ได้ทั้งหมด เจ้าก็จะทิ้งห่างจากผู้สร้างมรรคารายอื่น!”
พอมหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญได้ยินดังนั้นก็ตอบรับว่า “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ ข้าจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้”
เจ้านวฟ้าบุพกาลเลือนหายไป
มหาเทวาผลาญนภาไร้สิ้นสูญรออยู่ที่เดิมครู่หนึ่งถึงได้สลายตัวไปดั่งหมอกควัน
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น ปิดด่านครั้งนี้ทำให้เขาเข้าใกล้ระดับผู้สร้างมรรคาระยะปลายอย่างยิ่งแล้ว ในที่สุดเขาก็พอจะมองเห็นเค้าลางในการทะลวงขั้นแล้ว
นับจากการทะลวงขั้นครั้งก่อน เวลาผ่านพ้นไปเกือบเจ็ดสิบล้านปีเต็มแล้ว หากว่าเทียบกันดูแล้วจากระยะกลางทะลวงสู่ระยะปลายเท่ากับช่วงเวลาในการทะลวงจากมนุษย์ธรรมดาสู่ผู้สร้างมรรคาระยะกลาง เพียงพอจะทำให้มองออกแล้วว่าผู้สร้างมรรคาฝึกบำเพ็ญได้ยากลำบากนัก
หานเจวี๋ยประเมินดูเล็กน้อย อย่างมากอีกล้านปีก็คงทะลวงขั้นได้แล้ว
เขาเรียกกล่องจดหมายออกมาตรวจดู หลักๆ คือต้องการตรวจดูสถานการณ์ของหวงจุนเทียน
ไม่นานนักหัวคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการยึดร่างจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านหลงเหลืออยู่เพียงเสี้ยววิญญาณสายหนึ่ง ถูกผู้ทรงพลังลึกลับผนึกไว้ สูญเสียสติสัมปชัญญะ]
น่าเวทนาขนาดนี้เชียวหรือ
หานเจวี๋ยเรียกดูรูประจำตัวของหวงจุนเทียน พบว่าหน้าตาของหวงจุนเทียนเปลี่ยนไป ดูชั่วร้ายและโหดเหี้ยมมากขึ้น
เฮ้อ…
น่าสงสาร
หานเจวี๋ยทำนายถึงหวงจุนเทียน ยังคงทำนายไม่พบ คาดว่ายังอยู่ในโลกอนธการดึกดำบรรพ์
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงต้องรอให้ทะลวงขั้นก่อน
เมื่อถึงเวลาสื่อหยวนหงเหมิงต้องมาหาถึงที่แน่
หานเจวี๋ยเอ่ยขึ้นว่า “ซั่นเอ้อร์ เจ้าออกไปก่อน ข้าเตรียมจะฝึกฝนพลังวิเศษ กลัวจะเป็นอันตรายต่อเจ้า”
ซั่นเอ้อร์ที่ฝึกบำเพ็ญอยู่ลืมตาขึ้น พยักหน้ารับอย่างนอบน้อมจากนั้นจึงถอยออกไป
หานเจวี๋ยไม่มีห่วงกังวลแล้ว เตรียมตัวทะลวงขั้นอย่างเต็มที่
ตบะของเขาเป็นความลับไม่อาจบอกเล่าต่อผู้ใดได้ ต้องทำเช่นนี้ถึงจะสามารถก้าวข้ามเจ้านวฟ้าบุพกาลไปได้โดยไม่ถูกสังเกตเห็น!
………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...