คิดไม่ถึงว่าปีศาจตนนี้จะกินพวกเขาทั้งหมด!
ภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยก็ได้ยินวาจาของพญาอสรพิษหยกเช่นกัน
เขาเลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้
‘อวดดีถึงเพียงนี้!’
‘ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากหนังสือแห่งความโชคร้ายเลย…’
หรือจะแข็งแกร่งมาก?
หานเจวี๋ยรีบใช้แบบจำลองการทดสอบค้นหาพญาอสรพิษหยกทันที
ทว่าในระยะร้อยลี้กลับไม่พบพญาอสรพิษหยก เจ้านี่ยังมาไม่ถึงก็เริ่มอวดดีเสียแล้ว
หานเจวี๋ยจนปัญญา เขารีบย้ายหยางเทียนตงขึ้นไปบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พญาอสรพิษหยกจับหยางเทียนตงมาข่มขู่เขา
แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง หานเจวี๋ยก็คงไม่มีใจเมตตาและออมมือแต่อย่างใด
อย่างไรเสียเขาก็ประทับตราประทับหกวิถีให้หยางเทียนตงแล้ว ตายไปก็ไม่เป็นไร ชาติหน้าค่อยมาสานวาสนาศิษย์อาจารย์กันใหม่!
หานเจวี๋ยค่อยๆ ลุกขึ้น สมบัติวิญญาณทั่วทั้งร่างเปล่งประกายแวววาว
หญ้าโลกาสวรรค์สั่นสะท้าน เอ่ยปากพูดขึ้น “นายท่าน ท่านจะไปที่ใด อย่าทิ้งข้าไว้สิ!”
หานเจวี๋ยกล่าวโดยไม่หันหน้ากลับไปมอง “ไม่นานก็กลับมาแล้ว”
เขาเดินออกจากถ้ำเทวาฟ้าประทาน ไก่คุกรัตติกาล สวินฉางอัน หยางเทียนตงและมู่หรงฉี่รอคอยอยู่ใต้ต้นฝูซังด้วยความร้อนใจ
ไอปีศาจอันน่าหวาดกลัวของพญาอสรพิษหยกปกคลุมทั่วสำนักหยกพิสุทธิ์แล้ว ไม่เพียงแค่ไอปีศาจของเขาเท่านั้น ยังมีไอปีศาจของปีศาจตนอื่นด้วย ไอปีศาจทั้งหลายรวมตัวเข้าด้วยกัน ดูราวกับคลื่นทะเลที่ถาโถมเข้ามาจากทั่วสารทิศ ราวกับจะทำให้สำนักหยกพิสุทธิ์จมดิ่งอยู่ในนั้น
เซียวเหยา กวนโยวกัง หลิ่วปู๋เมี่ย หลี่ชิงจื่อ เซียนซีเสวียนและคนอื่นๆ ต่างลอยอยู่กลางอากาศ จากมุมมองของพวกเขา ฟ้าดินรอบทิศล้วนเป็นเมฆดำทะมึนที่เกิดจากไอปีศาจ น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
หน้าผากของเหล่าผู้อาวุโสต่างก็มีเหงื่อผุดซึมขึ้นมา
“พญาอสรพิษหยกแข็งแกร่งเพียงใดกันแน่”
“เจ้าลูกทรพีที่เขาพูดถึงคือใครกัน”
“ต้านทานไม่ไหวแล้ว ผู้อาวุโสสังหารเทพเล่า”
“ผู้อาวุโสเซียว ผู้อาวุโสหลิ่ว พวกท่านสามารถรับมือกับพญาอสรพิษหยกได้หรือไม่”
“ที่แท้ทหารปีศาจของพญาอสรพิษหยกมีจำนวนเท่าใดกัน!”
“ค่ายกลใหญ่คุ้มกันสำนักเปิดใช้งานแล้วหรือ”
……
ขณะที่บรรดาผู้อาวุโสต่างก็อกสั่นขวัญหายอยู่นั้น เหล่าลูกศิษย์ก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจเสียยิ่งกว่า
สิงหงเสวียนเดินออกจากถ้ำเทวามาอยู่ข้างกายหานเจวี๋ย เอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “สามี ท่านจะทำอย่างไร”
นางมักจะได้ยินเขาพูดอยู่เสมอว่า หากเผชิญกับศัตรูที่ไม่อาจต่อกรได้ เขาก็จะหนี
สิงหงเสวียนไม่ได้ต่อต้านการหนีของหานเจวี๋ย เพียงแต่กลัวว่าหานเจวี๋ยจะทิ้งนางไว้แล้วหนีไปคนเดียว
“รออีกสักหน่อย” สายตาของหานเจวี๋ยทอดมองออกไปไกล กล่าวขึ้นเสียงเบา
เห็นเขาใจเย็นเช่นนี้ สิงหงเสวียน ไก่คุกรัตติกาล สวินฉางอันและมู่หรงฉี่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
หยางเทียนตงมองหานเจวี๋ยด้วยสีหน้ายากที่จะเชื่อ
‘หรืออาจารย์จะแข็งแกร่งจนไม่หวาดกลัวพญาอสรพิษหยกแล้ว’
เขารู้จักหานเจวี๋ยดี หากไม่มีความเชื่อมั่นมากพอ จะไม่มีทางสุขุมเยือกเย็นเช่นนี้แน่
หารู้ไม่ว่าหานเจวี๋ยกำลังใช้แบบจำลองการทดสอบ ตรวจสอบดูสำนักหยกพิสุทธิ์อย่างบ้าคลั่ง
‘เหตุใดถึงยังไม่ปรากฏ’
หานเจวี๋ยรู้สึกราวกับกำลังเล่นเกมออนไลน์ เขากดรีเฟรชอยู่เช่นนั้นไม่หยุด เพื่อรีเฟรชบอส
ผ่านไปสักพัก
[พญาอสรพิษหยก: ระดับฝ่าด่านเคราะห์ขั้นหนึ่ง เทพปีศาจตนล่าสุดของเผ่าปีศาจ]
หานเจวี๋ยรีบจำลองการทดสอบทันที
ผ่านไปสองอึดใจ
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว หลับตาลงอีกครั้ง
ชั่วอึดใจผ่านไป เขาลืมตาขึ้น ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ยังดี ยังดี!
โชคดีที่เขายกระดับไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิไปบ้างแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจทำลายการป้องการของไม้เท้าพฤกษาทองท่อนนั้นได้
หานเจวี๋ยกางแขนขวาออก ตั้งท่าจับกระบี่ เหตุที่เขาไม่นำกระบี่พิพากษาอนธการออกมา เป็นเพราะเขาอยากสังหารพญาอสรพิษหยกแบบไม่ให้รับมือได้ทัน!
ฝีเท้าของเขาก้าวเดินไปยังริมหน้าผา ทอดมองไปยังจุดตัดของขอบฟ้า
พญาอสรพิษหยกกำลังพุ่งมาทางเขาเพียรบำเพ็ญเซียนอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะเขาเดาได้ว่าบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียนมีศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ แต่เพราะว่าหยางเทียนตงอยู่ที่นี่!
หยางเทียนตงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของพญาอสรพิษหยกอย่างชัดเจน เหงื่อเย็นผุดเต็มศีรษะ เนื้อตัวสั่นระริก หวาดกลัวถึงขีดสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...