ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1098

บทที่ 1098 สัญญาณการฝ่าทะลวง

บรรพชนเทพปฐมกาลเดินไปด้านล่างยังไม่ถึงห้าก้าว พลังแห่งเจ็ดกฎเกณฑ์สูงสุดก็ผนวกรวมเข้าสู่ร่างเขาจนหมดสิ้น ทำให้กลิ่นอายพลังของเขาพุ่งสู่จุดสูงสุด สะท้านสะเทือนไปทั่วสนามรบ ยอดมหามรรคของทั้งสองฝ่ายต่างเงยหน้ามองขึ้นไป

ดวงจิตมหามรรคบางส่วนมีสีหน้าตกตะลึง สีหน้าราวกับไม่อยากจะเชื่อ

‘ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ สินะ’

เทวีตราวินัยเงยหน้ามองบรรพชนเทพปฐมกาลที่เจิดจรัสดั่งดวงตะวัน ครุ่นคิดอยู่ในใจ

บรรพชนเทพปฐมกาลมองไปยังขุนพลศักดิ์สิทธิ์หลายหมื่นนาย จากนั้นก็หันเหสายตาไปที่ร่างของเทพมหาทัณฑ์

“ชิงตำแหน่งของข้าไป ยึดขุนพลศักดิ์สิทธิ์ของข้าไป สมควรตายโดยแท้!”

บรรพชนเทพปฐมกาลแค่นเสียงเย็นชา จากนั้นพลันโบกมือ พลังเวทอันน่าหวาดหวั่นปะทุขึ้นมา พลังแห่งกฎเกณฑ์สูงสุดดุจแม่น้ำสวรรค์ย้อนหวน เข้าท่วมทับเทพมหาทัณฑ์

เทพมหาทัณฑ์สร้างเกราะศึกขึ้น ยื่นนิ้วหนึ่งออกไป แสงดำทมิฬสายหนึ่งพุ่งออกไป พลังเวทอันแกร่งกล้าสองสายปะทะกัน ห้วงมิติแห่งนี้พลันสิ้นสีสัน คลื่นลมน่าหวาดกลัวพัดโถมใส่เหล่ายอดมหามรรค

อดีตผู้นำดวงจิตมหามรรคปะกับผู้นำคนปัจจุบัน หาได้สู้กันเพราะศึกอย่างเดียวไม่ แต่ยังมีความแค้นที่ฝังลึกด้วย

“พวกเจ้าปราบปรามอนธการต่อไป ข้าจะจัดการมารร้ายตนนี้เอง!”

เทพมหาทัณฑ์ตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว ในเวลานี้ เขาเผยคมของตนออกมาอย่างแท้จริงแล้ว

หลังจากเข้ารับตำแหน่งเขาออกโรงด้วยตัวเองน้อยมาก จนเขาเกือบลืมไปหมดแล้วว่าตนก็เป็นนักสู้เช่นกัน

พอสิ้นเสียงเขา เหล่ายอดมหามรรคฝั่งฟ้าบุพกาลต่างก็โจมตีเข้าใส่อนธการต่อไป

หลังจากบรรพชนเทพปฐมกาลได้ประมือกับเทพมหาทัณฑ์ เขาก็ตกใจอย่างยิ่ง

เขาพบว่าเทพมหาทัณฑ์ก็สามารถเรียกใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์สูงสุดได้เช่นกัน เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร

เขาไม่ได้ส่งมอบตำแหน่งให้แก่เทพมหาทัณฑ์สืบทอด

เขาอดมองไปทางดวงจิตนพชาติไม่ได้ หรือจะเป็นฝีมือของดวงจิตนพชาติ

อย่างที่ทราบกันดี สภาพอารมณ์ของดวงจิตนพชาติก็ซับซ้อนมากเช่นกัน

หลังจากบรรพชนเทพปฐมกาลดับสูญไป เขาก็ร่วงหล่นสู่โลกโลกีย์เช่นกัน ตัวตนที่สามารถแต่งตั้งตำแหน่งเทพได้เช่นเดียวกับดวงจิตนพชาติมีอยู่คนเดียวเท่านั้น

เมื่อเกี่ยวข้องไปถึงตัวตนนั้น บรรพชนเทพปฐมกาลไม่กล้าคาดเดาต่อ

เทพมหาทัณฑ์ต่อสู้กับบรรพชนเทพปฐมกาล ยากจะตัดสินแพ้ชนะได้ ทั้งสองล้วนควบคุมพลังแห่งกฎเกณฑ์สูงสุดได้เหมือนกัน พลังวิเศษที่สำแดงคล้ายคลึงจนแทบจะเหมือนกัน

เหล่าดวงจิตมหามรรครุ่นใหม่ต่างลอบแปลกใจ ไม่เคยคิดเลยว่าเทพมหาทัณฑ์จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้

แต่ก่อนพวกเขาเพียงเคยชินกับการมีตัวตนอยู่ของเทพมหาทัณฑ์ แต่ไม่เคยทราบเลยว่าเทพมหาทัณฑ์แข็งแกร่งแค่ไหน

ความแข็งแกร่งของเทพมหาทัณฑ์และบรรพชนเทพปฐมกาลเหนือกว่าเหล่ายอดมหามรรคอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอนธการหรือว่าฝั่งฟ้าบุพกาล ล้วนตกตะลึงกันอย่างยิ่ง

มองสถานการณ์ในยามนี้ ทั้งสองฝ่ายยากจะตัดสินแพ้ชนะกันได้ในระยะเวลาสั้นๆ

ในเวลาเดียวกัน

ณ อาณาเขตอนธการ

ริมสระอนธการ หานฮวงและเทพธิดาหมิงจี้ยืนเคียงข้างกัน ทอดสายตามองอนธการสิ้นแสงที่อยู่ด้านล่าง

เทพธิดาหมิงจี้เอ่ยถามด้วยความกังวล “ท่านพี่ ท่านจะเลี้ยงมันไว้จนถึงเมื่อไร มันแข็งแกร่งมากพอแล้ว”

อนธการสิ้นแสงอยู่ในสภาวะหลับลึก แม้จะเป็นเช่นนี้แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากตัวมันก็ทำให้นางรู้สึกหนาวสะท้าน

นางไม่เคยสัมผัสกับกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ถึงขั้นที่นางรู้สึกว่าอนธการสิ้นแสงแข็งแกร่งกว่าหานฮวงเสียด้วยซ้ำ

หานฮวงเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ตอนนี้มันยังไม่สามารถนำพาความสิ้นหวังอย่างแท้จริงมาสู่ฟ้าบุพกาลได้ ต้องรอต่อไป”

“ต้องรอไปถึงเมื่อไร”

“รอจนกว่าดวงจิตมหามรรคจะดับสูญ”

“ดวงจิตมหามรรคดับสูญได้ด้วยหรือ”

เทพธิดาหมิงจี้ตกใจ ในมุมมองของนาง อย่าว่าแต่ยอดมหามรรคเลย แม้แต่อริยะมหามรรคที่พบเห็นได้ทั่วไปก็ สังหารไม่ตายแล้ว ฆ่าให้ตายได้ยากยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นคือดวงจิตมหามรรคได้รับการยอมรับจากกฎเกณฑ์สูงสุดด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ