ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 110

สรุปบท บทที่ 110 นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 110 นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 110 นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 110 นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์
หลังจากทำลายเสี้ยววิญญาณของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนแล้ว หานเจวี๋ยก็รีบเรียกดูค่าความสัมพันธ์ทันที

ไม่นาน เขาก็หารูปประจำตัวของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนพบ

[นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน: ระดับเซียนอิสระขั้นแปด เนื่องด้วยท่านสังหารสัตว์เลี้ยงปีศาจและเสี้ยววิญญาณที่เขาทิ้งไว้ในโลกมนุษย์ จึงเกลียดชังท่านเป็นอย่างมาก รอจนท่านสำเร็จมรรคผลบินขึ้นสู่สวรรค์ จะต้องมาหาเรื่องท่านอย่างแน่นอน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]

ระดับเซียนอิสระขั้นแปด?

รอข้าสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์?

อันดับแรกหานเจวี๋ยรู้สึกตกใจ หลังจากนั้นถึงได้ทอดถอนหายใจออกมา

เท่านี้หรือ

‘ข้าก็จะรอจนข้ามีตบะที่สามารถสังหารเจ้าได้แล้วค่อยขึ้นไป เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอะไรข้าได้’

หานเจวี๋ยลอบคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

เช่นนี้ก็ดี รู้เส้นสนกลในของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน หานเจวี๋ยก็ไม่ต้องคิดสะระตะให้มากความ

หานเจวี๋ยเกิดความคิดขึ้นมาบางอย่าง เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายกับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์สองก้อนออกมา

ศัตรูแข็งแกร่งมีมากเกินไป จะต้องใช้วิธีการแหกกฎสักหน่อย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขาออกไปจากตัวข้า!

หลังจากหานเจวี๋ยตัดสินใจแล้วก็รีบนำหินวิญญาณมรรคาสวรรค์สองก้อนผสานเข้าไปในหนังสือแห่งความโชคร้ายทันที

ผ่านไปประมาณสองชั่วยาม

หนังสือแห่งความโชคร้ายก็ถูกยกระดับสำเร็จ

[หนังสือแห่งความโชคร้ายเลื่อนขั้นเป็นสมบัติวิญญาณระดับไท่อี่ชั้นสุดยอด]

จากสมบัติวิญญาณชั้นเลิศกลายเป็นสมบัติวิญญาณระดับไท่อี่ชั้นสุดยอด นี่เป็นการยกยกระดับถึงสองขั้น

หรืออาจจะกล่าวได้ว่า หลังจากสมบัติวิญญาณชั้นเลิศแล้วจะแบ่งออกเป็นสมบัติวิญญาณระดับไท่อี่และสมบัติวิญญาณระดับไท่อี่ชั้นสุดยอด!

หานเจวี๋ยเริ่มสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนทันที เพื่อทดสอบผลลัพธ์

หนังสือแห่งความโชคร้ายก็เป็นของวิเศษที่ไม่เป็นมงคล หานเจวี๋ยจึงไม่กล้าใช้พลังมาก ด้วยกลัวว่าพลังจะหมดตัว

……

พญาอสรพิษหยกดับสูญ!

เมื่อเรื่องนี้กระจายออกไปทั่วต้าเยี่ยน ก็ถูกแพร่ต่อไปยังเขตและราชวงศ์บำเพ็ญพรตต่างๆ ที่อยู่โดยรอบ

ทั้งสายหลักสายมารในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนล้วนเกิดความเคารพยำเกรงต่อสำนักหยกพิสุทธิ์

เมื่อก่อนอาจจะเพียงแค่เกรงกลัว ทว่าตอนนี้ทั้งสายหลักและสายมารล้วนเคารพนับถือสำนักหยกพิสุทธิ์!

พญาอสรพิษหยกผู้แข็งแกร่งแห่งยุคตายในสำนักหยกพิสุทธิ์ สำนักหยกพิสุทธิ์จะต้องแข็งแกร่งเพียงใดกัน

อาศัยการลงมือของหานเจวี๋ย ทำให้สำนักหยกพิสุทธิ์ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในต้าเยี่ยนทันที

เมื่อข่าวคราวแพร่สะพัดไปถึงเขตอื่นๆ ก็ก่อให้ความฮือฮาขึ้นมาเช่นกัน

จากการโจมตีของพญาอสรพิษหยก สำนักบำเพ็ญเพียรของเขตต่างๆ บ้างก็หลบหนี บ้างก็ปิดสำนัก ล้วนเงียบเหงาเป็นอย่างมาก

เขตแก่นประจิม ลัทธิสัจจะยุทธ์

เขตแก่นประจิมเองก็เผชิญกับการโจมตีของพญาอสรพิษหยกเช่นกัน แต่โชคดีที่ลัทธิสัจจะยุทธ์สามารถหนีรอดมาได้ ที่สำคัญคือพญาอสรพิษหยกยังไม่ทันได้ลงมือกับพวกเขา ก็ถูกหยางเทียนตงดึงดูดความสนใจไปเสียก่อน

ผู้บำเพ็ญระดับสูงของลัทธิสัจจะยุทธ์มารวมตัวกันในโถงใหญ่ หลังจากที่ทุกคนได้ยินข่าวการตายของพญาอสรพิษหยก ก็ล้วนตกตะลึงนิ่งอึ้งไปตามๆ กัน

ซั่งกวนฉิวเจี้ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ดีนี่สำนักหยกพิสุทธิ์ ดีนี่ผู้อาวุโสสังหารเทพ!”

หวงจี๋เฮ่ายืนอยู่ด้านหลังของซั่งกวนฉิวเจี้ยน สีหน้าของเขาซับซ้อน สถานะของเขาคือศิษย์แกนหลัก

ผู้คนพากันมองไปทางเขา ผู้อาวุโสหนึ่งในนั้นเอ่ยถามขึ้น “ผู้อาวุโสถ่ายทอดวิชา ก่อนหน้านี้ท่านเคยไปสำนักหยกพิสุทธิ์ในต้าเยี่ยนมาก่อน สำนักหยกพิสุทธิ์ก็ร้ายกาจเพียงนี้จริงหรือ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซั่งกวนฉิวเจี้ยนก็กล่าวด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “ไม่ขอปิดบัง ข้าเคยไปท้าประลองกับผู้อาวุโสสังหารเทพของสำนักหยกพิสุทธิ์ ผลสุดท้ายพ่ายแพ้ในกระบี่เดียว ข้าละอายใจที่จะกล่าวถึงเรื่องราวในอดีต วันนี้ดูท่าผู้ที่สังหารพญาอสรพิษหยกก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพท่านนั้น”

แม้แต่พญาอสรพิษหยกยังถูกสังหาร ซั่งกวนฉิวเจี้ยนพลันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก

เมื่อหานเจวี๋ยที่อยู่ไกลถึงสำนักหยกพิสุทธิ์ได้รับการแจ้งเตือนว่าความประทับของเขาถูกยกระดับขึ้น ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก

ซั่งกวนฉิวเจี้ยนยืดตัวตรง ราวกับว่าการพ่ายแพ้ให้กับหานเจวี๋ยนั้นเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจมาก

“ตั้งแต่นี้ไป สำนักหยกพิสุทธิ์จะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยน เป็นแม้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสิบเขตเก้าราชวงศ์ ลัทธิสัจจะยุทธ์ไม่อาจล่วงเกินได้ และพวกเราจะไปสานสัมพันธ์ในทันที ข้ายินดีให้ศิษย์ของข้าไปสำนักหยกพิสุทธิ์โดยเร็ว เพื่อเป็นตัวแทนของลัทธิสัจจะยุทธ์ เป็นตัวแทนของเขตแก่นประจิมเพื่อขอบคุณสำนักหยกพิสุทธิ์!”

“พวกเราต้องเตรียมของขวัญใหญ่สักชิ้น!”

หานเจวี๋ยโบกมือ เคลื่อนย้ายมันออกจากแจกันหยกขาว ก่อนนำปลูกลงในดิน

หานเจวี๋ยหลับตาฝึกฝนต่อ

การสังหารพญาอสรพิษหยกไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจมากนัก บนเส้นทางของการบำเพ็ญเพียรมักจะต้องสังหารศัตรูบ้างถึงจะสมเหตุสมผล

เขาหวังว่าผลกระทบที่เกิดจากเรื่องนี้จะหายไปโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมาไม่หยุด

ช่วงเวลาหลังจากนั้น เขาอยู่ในถ้ำเทวาฟ้าประทานตลอด ไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย

ด้วยการจัดการของหลี่ชิงจื่อ จึงไม่มีใครกล้าที่จะมารบกวน

สำนักหยกพิสุทธิ์เริ่มคึกคักขึ้นมา ขณะที่เรื่องที่พญาอสรพิษหยกตายในสำนักหยกพิสุทธิ์ถูกแพร่ออกไป ทั้งสายหลักและสายมารต่างพากันมาขอบคุณสำนักหยกพิสุทธิ์ที่ช่วยมนุษย์จัดการศัตรูตัวฉกาจ แม้กระทั่งสำนักจากเขตอื่นๆ ก็มาด้วย

หวงจี๋เฮ่าก็มาแล้ว เขาคิดจะมาเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ยแต่ถูกห้ามไว้ สุดท้ายก็เป็นผู้อาวุโสสำนักหยกพิสุทธิ์ที่คอยรับรอง

เวลาแปดปีผ่านไปในชั่วพริบตา

หานเจวี๋ยเข้าใกล้ระดับรวมกายาขั้นเก้ามากขึ้นเรื่อยๆ

วันนี้เอง

หลี่ชิงจื่อมาเยี่ยมเยียนหานเจวี๋ย

ได้เจอหน้าหานเจวี๋ยอีกครั้ง ท่าทีของหลี่ชิงจื่อก็กระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก

“ผู้อาวุโสหาน ช่วงนี้เหล่าผู้อาวุโสต่างเสนอให้เปลี่ยนชื่อสำนักหยกพิสุทธิ์เป็นชื่อสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ จักรพรรดิของราชวงศ์ต้าเยี่ยนก็มาเยี่ยมเยียน ยินยอมเชื่อมั่นในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ท่านคิดเห็นเช่นไร” หลี่ชิงจื่อเอ่ยถาม

หานเจวี๋ยลืมตา กล่าวว่า “หากพวกท่านคิดว่าดีก็ดี”

ชื่อสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์นี้ฟังดูแล้วสูงส่งยิ่งนัก มีความรู้สึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เช่นนี้ก็ดี สามารถดึงดูดผู้บำเพ็ญให้มาเข้าร่วมได้มากขึ้น

“นอกจากนี้ พวกเราก็ส่งสารให้อาจารย์ปู่กลับมาแล้ว อาจารย์ปู่ตอบตกลงเป็นที่เรียบร้อย อีกไม่กี่ปีท่านจะกลับมารับตำแหน่งเจ้าสำนักอีกครั้ง ข้าไม่อยากตายเร็ว จึงตัดสินใจมุ่งมั่นฝึกฝน ช่วงชิงอายุขัยให้ตัวเอง”

หลี่ชิงจื่อทอดถอนใจกล่าว เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยมองความคิดของเขาออก กล่าวว่า “รอส่งต่อตำแหน่งเจ้าสำนักแล้ว ท่านก็ย้ายมาฝึกฝนที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียนเถิด ส่วนถ้ำเทวา ท่านสามารถเปิดด้วยตนเองได้”

……………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ