ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1153

สรุปบท บทที่ 1153 ความห่างเหิน: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1153 ความห่างเหิน – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 1153 ความห่างเหิน ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1153 ความห่างเหิน

“เจ้ายุ่งอะไรกับข้าด้วย”

หานเหลียงแค่นเสียงใส่ ในใจเปี่ยมความหวาดระแวง อีกฝ่ายพุ่งเป้ามาหาเขา มีโอกาสสูงที่จะลงมือ

เจ้าแห่งกาลเวลาเอ่ยเสียงเรียบ “ข้ามาเพื่อชี้ทางเจ้า ไม่อาจปล่อยให้เจ้าถ่วงรั้งพรสวรรค์ของตนได้”

“โอหัง ข้าก็อยากเห็นนักว่าเจ้าจะชี้ทางข้าอย่างไร!”

เจตนาสังหารแผ่ออกมาจากดวงตาของหานเหลียง

ทันใดนั้นเจ้าแห่งกาลเวลาหายวับไป เสียงก้องสะท้อนอยู่ในอากาศ “หานเหลียง ไม่ช้าก็เร็วเจ้าจะเข้าใจเอง ข้ามิใช่ศัตรูของเจ้า ภายภาคหน้าข้าและเจ้าจะตกลงทำงานร่วมกัน รอจนเจ้ามองทะลุถึงความสามารถที่ตนมีเจ้าก็จะเข้าใจเอง

“พบกันครั้งหน้า หวังว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อถึงเวลานั้น ข้าไม่มีทางโน้มน้าวด้วยวาจาดีๆ เช่นครานี้อีก”

หานเหลียงขมวดคิ้วแน่น อาณาเขตพลังเวทที่กางครอบนภาสลายลง หลงเฮ่าปรากฏตัวขึ้นข้างกายเขาทันที

หลงเฮ่าถาม “เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ เหตุใดถึงสำแดงพลังเวทเล่า”

หานเหลียงก็ไม่ปิดบัง บอกเล่าเหตุการณ์ที่ตนเผชิญกับเจ้าแห่งกาลเวลาออกมา

หลงเฮ่าขมวดคิ้ว

เพียงได้ยินนามนี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายมิใช่คนดีมีเมตตา

พลังของหานเหลียงน่าพรั่นพรึงนัก แต่ไม่สามารถทำอันตรายอีกฝ่ายได้

ยุคสมัยไร้สิ้นสุดปรากฏผู้แข็งแกร่งระดับนี้ขึ้นแล้วหรือ

หลงเฮ่าเอ่ยเสียงเครียด “ไปหาอาจารย์กันเถอะ”

“ท่านปู่หรือ”

ดวงตาหานเหลียงเปล่งประกาย ใช่แล้ว บนโลกนี้ไม่มีผู้ใดหรือเรื่องราวใดที่ท่านปู่จะไม่ทราบ

….

ณ อาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม

เขาเรียกหานเหลียงที่รออยู่ด้านนอกเข้ามา ถึงแม้ในอารามเต๋าจะมีร่างแยกอยู่ แต่ตามปกติแล้วร่างแยกไม่ยุ่งกับเรื่องในส่วนนี้ เพียงรับผิดชอบเรื่องอนุญาตผ่านเข้าออก คอยเฝ้าดูแลอาณาเขตเต๋าเท่านั้น

หานเหลียงรอมาหลายแสนปีแล้ว หลังจากเข้าสู่อารามเต๋า เขาทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด พออยู่ต่อหน้าหานเจวี๋ยเขารู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง

ในช่วงเวลาที่เฝ้ารอคอยอยู่ทำให้เขาตระหนักได้ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเขาและหานเจวี๋ยไม่ใช่แค่ปู่หลานเท่านั้น ยังมีช่องว่างที่ยากจะข้ามผ่านไปได้อยู่ระหว่างคนทั้งสองด้วย

หลังออกจากที่นี่ไปเขาถึงได้ทราบว่าท่านปู่เก่งกาจเหลือเกิน

หานเจวี๋ยถามด้วยรอยยิ้ม “มีเรื่องใดกัน”

หานเหลียงสูดหายใจลึกๆ พยายามสงบจิตใจ เงยหน้าเอ่ยถาม “ท่านปู่ ท่านรู้จักเจ้าแห่งกาลเวลาหรือไม่ขอรับ”

“รู้จักสิ”

“เขาคือผู้ใดกันแน่ขอรับ”

“เขาคืออาจารย์ลุงคนหนึ่งของเจ้า แต่ถูกสะบั้นตัดขาดบ่วงกรรมไปแล้ว ไม่มีผู้ใดจดจำเขาได้อีก เสมือนเขาไม่เคยมีตัวตนมาก่อน”

หานเจวี๋ยเอ่ยตอบ น้ำเสียงเขาสบายๆ ยิ่ง ราวกับกำลังเล่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

หานเหลียงเบิกตากว้าง ไม่คิดเลยว่าเจ้าแห่งกาลเวลาที่แสนลึกลับจะมาจากสำนักเดียวกัน สำนักซ่อนเร้นน่ากลัวถึงเพียงนี้เชียวหรือ

ตั้งแต่เล็กจนโต ศิษย์สำนักซ่อนเร้นที่เขาเคยพบพานล้วนใจดีมีเมตตายิ่ง ทำให้เขามองข้ามรากฐานอันน่าพรั่นพรึงของสำนักซ่อนเร้นไป

หานเหลียงถาม “ท่านปู่ ข้าควรทำอย่างไรดีขอรับ”

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เจ้าคิดไว้ว่าอย่างไรเล่า”

“ข้าย่อมไม่พึ่งพาเขา ถึงแม้เขาจะเป็นอาจารย์ลุง แต่เขาคิดจะมาสั่งสอนข้าคิดว่าคงมีแผนร้ายอยู่”

“เช่นนั้นก็ไม่ต้องพึ่งเขา”

“แต่ข้าสู้เขาไม่ได้…”

“เช่นนั้นก็คิดหาทางสู้เขาให้ได้…”

“ข้า…”

หานเหลียงถูกตอกกลับจนอึกอักพูดไม่ออก

หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “เจ้ามาหาข้าเพราะอยากสอบถามความเป็นมาของเขาหรือว่าต้องการให้ข้าช่วยจัดการเขาแทนเจ้ากันเล่า”

หานเหลียงเงียบไป

ตัวเขาหานเหลียงจะพึ่งพาตัวเองให้ถึงที่สุด ไม่อาจคิดพึ่งพาแต่คนอื่นไปได้ตลอด!

“เจ้าแห่งกาลเวลา ดีมาก เจ้าจงกลายเป็นหินลับคมในชีวิตของข้าเสียเถอะ!”

หานเหลียงเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง ฮึกเหิมมีชีวิตชีวา

….

ภายในอาณาเขตเต๋า

หานเจวี๋ยเริ่มตรวจดูกล่องจดหมายอีกครั้ง เรื่องที่จี้เซียนเสินวางท่าเป็นเจ้าแห่งกาลเวลาเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในสายตาเขา

จี้เซียนเสิน สวินเซิ่งจุนและฟางเหลียงได้รวมตัวกันในห้วงเวลาต้นกำเนิดแล้ว มีการสร้างข้อตกลงร่วมกัน สิ่งที่พวกเขาต้องการมิใช่หานเหลียงแต่เป็นการก้าวข้ามผู้สร้างมรรคา คุณสมบัติของหานเหลียงคือความหวังสำหรับพวกเขา

แต่น่าเสียดาย พวกเขาไม่อาจทำสำเร็จได้ หานเจวี๋ยมองเห็นแล้วว่าในอนาคตสามคนนี้จะสยบอยู่ใต้แทบเท้าของหานฮวง สื่อหยวนหงเหมิงและหวงจุนเทียน

หานเจวี๋ยมองเห็นอนาคตของพวกเขามากมายหลายหลาก เขาไม่สามารถป้องกันอนาคตทั้งหมดได้ หากทำเช่นนั้นมิทำลายล้างสรรพสิ่งทั้งหมดทิ้งให้เหลือเขาเพียงคนเดียวเสียดีกว่า แต่หากเป็นเช่นนั้นจะถูกกฎเกณฑ์พื้นฐานของดินแดนเวิ้งว้างสะท้อนกลับ

อนธการ ฟ้าบุพกาลและมรรคาสวรรค์ มองจากปัจจุบันนี้คล้ายจะถูกปิดกั้นด้วยดินแดนเวิ้งว้าง แต่ความจริงกำลังถูกปกป้องอยู่ หากกฎเกณฑ์พื้นฐานต้องการทำลายล้างพวกมันจริงๆ พวกมันไหนเลยจะต้านรับไหว

หานเจวี๋ยเลิกสนใจเรื่องจี้เซียนเสินแล้วตั้งใจตรวจดูจดหมาย

ในช่วงที่ผ่านมานี้ หานฮวงและบรรพชนเต๋าล้วนไม่มีความเคลื่อนไหวเลย

ดูเหมือนว่าหลังจากก่อตั้งกฎเกณฑ์สูงสุดขึ้นมาได้ พวกเขาจะทุ่มเทกายใจจมจ่อมอยู่กับการสร้างโลกมหามรรค

หานเจวี๋ยทอดสายตาสอดส่องพวกเขา

อนธการของหานฮวงมีวิวัฒนาการรวดเร็วที่สุดในบรรดาสามอนธการ กฎเกณฑ์ของเขาเหนือกว่ามรรคาสวรรค์ไปแล้ว กฎเกณฑ์และมหามรรคต่างๆ ล้วนอยู่ระหว่างพัฒนาสู่ความสมบูรณ์แบบ ดึงดูดให้มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ หลั่งไหลมาเข้าร่วมไม่ขาดสาย

บรรพชนเต๋ากลับเผชิญปัญหายุ่งยากเข้า ในอดีตที่ก่อตั้งเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ขึ้นด้วยคิดจะแสวงมหาโชคจากมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้เผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์เข้าปกครองโลกมหามรรคของผานกู่อย่างเป็นเอกเทศอยู่ เผ่าพันธุ์ต่างๆ จากด้านนอกที่มาเข้าร่วมล้วนจะถูกเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์กดขี่เป็นทาส ก่อบาปสร้างกรรมชื่อเสียงฉาวโฉ่แพร่หลาย

หากพึ่งพาเพียงเผ่าเดียวแล้วจะก่อตั้งโลกมหามรรคขึ้นได้อย่างไร

บรรพชนเต๋าเริ่มคิดหาทางกดข่มเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์ลงไป แต่เขาไม่อาจลงมือด้วยตัวเองได้ ด้วยเหตุนี้ ภัยพิบัติและชะตากรรมสารพัดอย่างจึงเริ่มปรากฏต่อเผ่ามนุษย์มรรคาสวรรค์

เผ่าพันธุ์เหิมเกริมเผด็จการที่คิดจะครองโลกเพียงเผ่าพันธุ์เดียวจำเป็นต้องถูกยับยั้ง

หานเจวี๋ยเริ่มตั้งตารอแล้ว ระหว่างหานฮวงและบรรพชนเต๋า ผู้ใดจะชิงพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาสำเร็จได้ก่อน

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ