ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 1163

สรุปบท บทที่ 1163 ปณิธานเดิมและเป้าหมาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1163 ปณิธานเดิมและเป้าหมาย – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 1163 ปณิธานเดิมและเป้าหมาย ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1163 ปณิธานเดิมและเป้าหมาย

สิงหงเสวียนคิดว่าคำพูดของหานเจวี๋ยมีเหตุผล ด้วยเหตุนี้จึงไม่หมกมุ่นกับคำถามนี้อีก นางเริ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป บอกเล่าถึงความเบื่อหน่ายของตน

ตอนนี้นางสับสนเหลือเกิน ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ยังจำสมัยที่เพิ่งพบข้าได้หรือไม่”

สิงหงเสวียนพยักหน้ารับ “จำได้แน่นอน จดจำได้ขึ้นใจ”

“ลองนึกถึงปณิธานดั้งเดิมของเจ้าสิ โลกนี้ต้องมีเรื่องที่ทำให้เจ้ามีความสุขและพึงพอใจไปได้ตลอดอยู่แน่นอน เพียงแต่เจ้าหลงลืมไปแล้วก็เท่านั้น ก็เหมือนอย่างข้าที่ปัจจุบันนี้ก็ยังคงเพียรบำเพ็ญอยู่ เพราะข้าชอบการบำเพ็ญ” หานเจวี๋ยเอ่ย

สิงหงเสวียนอดใคร่ครวญตามไม่ได้

หานเจวี๋ยเอ่ยยิ้มๆ “ไม่ต้องคิดแล้ว กลับไปดูเอาเองเถิด”

พอสิ้นเสียงพลันปรากฏวังวนดำขึ้นด้านหลังสิงหงเสวียน บังคับดูดตัวนางเข้าไป ข้ามผ่านมิติกาลเวลาพานางย้อนกลับไปสู่สำนักหยกพิสุทธิ์ในสมัยก่อน

นอกประตูสำนักหยกพิสุทธิ์

สิงหงเสวียนร่อนลงบนทางในหุบเขา สายตามองเข้าไปด้านในสวนสมุนไพรที่อยู่ด้านหน้า มีทาสกลุ่มหนึ่งกำลังทำงานยุ่งง่วนอยู่ นางมองเห็นเงาร่างเล็กๆ ร่างหนึ่ง

เป็นหานเจวี๋ย

สิงหงเสวียนผงะไปเล็กน้อย พลันนึกสนใจขึ้นมา

ในเวลานี้เอง นางรับรู้ถึงกลิ่นอายจากด้านหลังจึงรีบอำพรางกายทันที มองเห็นผู้บำเพ็ญชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงกันเข้ามา เดินมาหยุดทางประตูทางเข้าสวนสมุนไพร

ผู้บำเพ็ญหญิงนางนั้นคือสิงหงเสวียนในวัยเยาว์

เมื่อเห็นตัวเองในอดีต สิงหงเสวียนรู้สึกสะท้อนใจอย่างยิ่ง

นี่คือจุดพลิกผันของโชคชะตา

ความรู้สึกในช่วงเวลานั้นปรากฏขึ้นในหัวใจอีกครั้ง ตัวนางในยามนั้นเป็นสายลับของลัทธิมาร ซ้ำยังเป็นสายลับสองหน้าด้วย ใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวน

สองปีต่อมา สิงหงเสวียนเฝ้าสังเกตหานเจวี๋ยมาตลอด ส่วนทางฝั่งของตนนั้น นางคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้นจึงคร้านจะไปใส่ใจ

นางพบว่าหานเจวี๋ยในวัยเยาว์มีความมานะพยายามอย่างยิ่ง ซ้ำยังเก็บงำประกายไว้ เป็นเช่นเดียวกับตัวเขาในยุคที่ไร้พ่ายแล้ว

‘ท่านพี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ’

สิงหงเสวียนรำพันอยู่ในใจ นางหันเหความสนใจไปจับตามองตัวเองแล้ว

สมควรจะมองตัวเองจากอีกแง่มุมหนึ่งเช่นกัน ดูว่าตนต้องการสิ่งใดกันแน่

….

ภายในอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม หลังจากหานเจวี๋ยส่งสิงหงเสวียนย้อนกลับไปแล้ว ผ่านไปไม่ถึงสองลมหายใจก็พาสิงหงเสวียนกลับมา

สิงหงเสวียนใช้เวลาผ่านไปนับหมื่นปี

หลังจากกลับมา สิงหงเสวียนดูสดใสร่าเริงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ขอบคุณท่านพี่!”

พูดจบสิงหงเสวียนก็เดินออกจากอารามเต๋าของตนไป

หานเจวี๋ยพูดไม่ออกเลย เหตุใดถึงรู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้จู่ๆ ก็เยาว์วัยลงเล่า กระฉับกระเฉงร่าเริงขึ้น

เขาลุกขึ้นเดินออกจากอารามเต๋า มุ่งหน้าไปเยี่ยมชิงหลวนเอ๋อร์

หลังจากไปพูดคุยกับเหล่าคู่บำเพ็ญของตนทีละคนๆ แล้ว หานเจวี๋ยก็ตัดสินใจจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย

เขาอยากเห็นว่าสวรรค์ประทานโชคร้อยครั้งจะส่งผลกระทบต่อยุคสมัยไร้สิ้นสุดอย่างไร

หานทั่ว หานหลิง หานชิงเอ๋อร์และหานอวิ๋นจิ่นล้วนตื่นเต้นกันยิ่งนัก แต่พวกเขาต้องใช้เวลาเพื่อควบคุมทำความเข้าใจมหาโชคใหม่ที่เพิ่งตื่นรู้ขึ้นมา

หานเจวี๋ยทอดสายตาสอดส่องบรรดาเชื้อสายเหล่านั้น สวรรค์ประทานโชคส่งผลต่อพวกเขาอย่างมหาศาลนัก เรียกได้ว่าพลิกชะตาไปทันที

หานเจวี๋ยแบ่งร่างแยกออกมาหลายสิบร่าง ไปติดต่อกับบรรดาเชื้อสายเหล่านั้น ให้พวกเขาก้าวเดินไปในเส้นทางบำเพ็ญเพียร

ณ ชายขอบของแดนลับเชื่อมวิถี อาคารสิ่งปลูกสร้างรูปทรงสมบัติวิเศษมากมายลอยโอบล้อมสัตว์ร้ายใหญ่มหึมาตัวหนึ่ง สัตว์ร้ายตัวนี้รูปร่างคล้ายเต่าผสมมังกร มีพระราชวังหลังหนึ่งตั้งอยู่บนหลังของมัน ภายในพระราชวัง ฉู่เสี่ยวชีกำลังสำราญใจกับความเปลี่ยนแปลงที่มาจากดาววิถีกรรมอยู่

“ข้าถือกำเนิดมาไม่ธรรมดาจริงๆ มิเช่นนั้นคงไม่ได้รับความชื่นชมจากท่านปู่”

ฉู่เสี่ยวชีภูมิใจกับตัวเอง ไม่นานมานี้เขาเพิ่งประสบความเสียหายยับเยินในสนามรบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่คิดเลยว่าจะปลุกพรสวรรค์ให้ตื่นขึ้นมา เรื่องนี้ทำให้เขาดีใจอย่างยิ่ง

รอจนเขาควบคุมพลังใหม่นี้ได้เชี่ยวชาญแล้ว จะบุกตะลุยสังหารไปทั่วทิศแน่นอน ไม่แน่ว่าภารกิจสำคัญเช่นการโจมตีจัดการสื่อหยวนหงเหมิงอาจจะตกมาอยู่กับเขาก็เป็นได้ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งตื่นเต้น

ในเวลานี้เอง บุรุษคนหนึ่งพุ่งเข้ามาในวัง

“ท่านปู่ เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ ผู้อาวุโสเฉินเจวี๋ยถูกสื่อหยวนหงเหมิงจับตัวไป!”

“อืม สื่อหยวนหงเหมิงจับตัวเขาไปเพราะมีแผนการอยู่”

“ข้าสมควรทำอย่างไรดีขอรับ ท่านพอจะช่วยเขาได้หรือไม่”

“เขาเกี่ยวข้องอะไรกับข้า เหตุใดถึงต้องไปช่วยเขาด้วยเล่า”

“ไม่เช่นนั้นก็ให้เขาเป็นหลานชายท่านด้วยดีหรือไม่ขอรับ”

“ฮ่าๆๆ!”

หานเจวี๋ยหัวเราะดังลั่น ราวกับได้ยินเรื่องชวนหัว ฉู่เสี่ยวชีหน้าแดงขึ้นมา อับอายอยู่ในใจ

ตนเอ่ยขอร้องในเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกันนะ

“เขายังไม่คู่ควรพอจะเป็นหลานชายของข้า ส่วนเรื่องช่วยเหลือเขา ไปหาอาจารย์ของเจ้าเถอะ เจ้าคงยังไม่ทราบฐานะของอาจารย์เจ้ากระมัง เทพมารอนธการแห่งยุคสมัยไร้สิ้นสุดมีสามตน อาจารย์ของเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย”

วาจาของหานเจวี๋ยสร้างความตกตะลึงให้แก่ฉู่เสี่ยวชี

เทพมารอนธการหรือ

เป็นไปได้อย่างไร!

ชั่วพริบตานั้นเขานึกถึงความเป็นไปได้มากมาย หรือตนจะติดกับแผนการเข้าแล้ว

“ข้าไม่รู้ว่าจะไปตามหาเขาได้จากที่ใด ช่วงนี้ข้าเพิ่งตื่นรู้ในพรสวรรค์ คิดจะฝึกบำเพ็ญไปสักระยะแล้วค่อยไปช่วยเฉินเจวี๋ยขอรับ” ฉู่เสี่ยวชีเอ่ยอย่างจนปัญญา

หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าฝึกบำเพ็ญให้ดีเถอะ ช่วงนี้ข้าจะเที่ยวเล่นอยู่ในแดนลับเชื่อมวิถี หากมีเรื่องอื่นใดก็มาหาข้าได้”

พอเอ่ยจบหานเจวี๋ยก็หายไปในทันใด

ฉู่เสี่ยวชีตะลึงงันอยู่ที่เดิม

เขามีตบะระดับนี้แล้วยังจับกลิ่นอายของหานเจวี๋ยไม่ได้ ทำให้ตกตะลึงนัก

ความคิดของเขาหันเหไปอยู่กับหวงจุนเทียนอีกครั้ง

สามเทพมารอนธการ…

ระหว่างพวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ