วันนี้นักพรตเต๋าจิ่วติ่งมาเยี่ยมเยียน ขัดจังหวะการฝึกฝนของหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยให้เขาเข้ามาในถ้ำเทวาเพื่อพูดคุย
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเห็นอู้เต้าเจี้ยนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ผู้อาวุโสหานซ่อนสาวงามไว้ในถ้ำ?
“นี่คือสัตว์เลี้ยงปีศาจของข้า นางเกิดที่นี่ ไม่ต้องกังวลว่านางจะเปิดเผยข้อมูล” หานเจวี๋ยเอ่ยปาก
สัตว์เลี้ยงปีศาจ?
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งเผยสีหน้าว่าข้าเข้าใจในความนัยนั้น จนหานเจวี๋ยต้องกลอกตาอย่างเอือมระอา
ตาแก่นี่เพียงมองก็รู้ว่าเป็นผู้บำเพ็ญประเภทรักสนุก
มากประสบการณ์ยิ่งนัก!
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งกล่าวด้วยสีหน้าปกติ “จักรพรรดิมารเริ่มเปิดศึกกับสายหลักแล้ว ใต้หล้าอลหม่านวุ่นวาย โชคดีที่สำนักมารในต้าเยี่ยนล้วนแตกตื่นจนหลบหนีออกจากต้าเยี่ยนไปหมด ตอนนี้พวกเรายังไม่ต้องกังวล แต่นั่นก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ข้าอยากจะถามความคิดเห็นของท่าน ก่อนหน้านี้ท่านเองก็ติดตามเรื่องของจักรพรรดิมารมานานแล้ว”
หานเจวี๋ยมีสีหน้าเรียบเฉย กล่าวว่า “ความคิดเห็นของข้านั้นง่ายมาก สงบจิตใจพัฒนาฝึกฝน สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ไม่ใช่สำนักอันดับหนึ่งในใต้หล้า แม้แต่สำนักที่มีชื่อเสียงในใต้หล้าสามอันดับแรกก็ยังไม่อาจนับได้ ด้วยกำลังของพวกเราคงเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใต้หล้าไม่ไหว แทนที่จะเป็นเป้ากระสุนปืนใหญ่ มิสู้ฝึกฝนอย่างสบายใจจะดีกว่า”
“หากฟ้าจะถล่มลงมา มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสายหลักค้ำยันอยู่ เหตุใดพวกเราต้องเข้าร่วม”
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งได้ฟังเช่นนี้ รู้สึกมีเหตุผลอยู่บ้าง
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามว่า “ยามนี้ตบะของผู้อาวุโสหานเป็นเช่นไร”
ตอนที่เขาได้ยินว่าหานเจวี๋ยบดขยี้ระดับฝ่าด่านเคราะห์ได้นั้น ก็ตกใจจนแทบจะฉี่ราด
เพียงไม่กี่ปี ความเร็วในการทะลวงของหานเจวี๋ยนั้นก็ออกจะเกินไปจริงๆ!
หานเจวี๋ยเอ่ยตอบ “ยังอยู่ในระดับฝ่าด่านเคราะห์”
ยังอยู่!
สองคำนี้ทิ่มแทงนักพรตเต๋าจิ่วติ่งเข้าอย่างจัง
ทว่าเขารู้ว่าอายุของหานเจวี๋ยเพิ่งจะห้าร้อยปีเท่านั้น
แต่ไรมาเขาไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ฝึกบำเพ็ญระดับฝ่าด่านเคราะห์ทั้งที่ยังมีอายุเพียงห้าร้อยปีมาก่อน!
เกินไปแล้ว!
“ตกลง ข้าจะทำตามที่ท่านบอก หวังว่าสายมารจะไม่ลุกลามมาถึงต้าเยี่ยนของพวกเรา”
นักพรตเต๋าจิ่วติ่งไม่ได้รั้งอยู่ต่อ เขาจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เขาจากไป อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “เขาคือใครหรือ”
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างเรียบนิ่งว่า “เจ้าสำนักของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์”
“ข้าออกไปเดินเล่นที่สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ได้หรือไม่”
“อืม ขอเพียงไม่ออกจากสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ก็พอ”
อู้เต้าเจี้ยนพลันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจและจากไปในทันที
หานเจวี๋ยไม่ได้สนใจนาง หันไปฝึกฝนต่อ
เขายังจัดการกับพวกมู่หรงฉี่แบบเดียวกัน สามารถไปไหนมาไหนได้ในสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ ขอเพียงไม่ออกจากสำนักก็พอ ใครที่กล้าออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนี้ไปจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก
หานเจวี๋ยตรวจสอบจดหมายไปพลางขณะที่ฝึกฝน
ดังที่คาดไว้ นอกจากคนของสำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์แล้ว สหายเกือบทั้งหมดล้วนเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร
จำนวนครั้งที่หวงจี๋เฮ่าถูกโจมตีเกือบจะถึงห้าหมื่นครั้งแล้ว ระหว่างการต่อสู้ตบะของเจ้าหมอนี่ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สมกับที่เป็นผู้มีดวงชะตาแต่กำเนิด!
มารหลัวฉิวก็เผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมารอีกแล้วเช่นกัน หานเจวี๋ยคาดว่าคงจะเป็นเพราะเขากำลังช่วยจี้ไน่เหอดูดซับผู้บำเพ็ญสายมาร
เดิมทีผู้บำเพ็ญสายมารเป็นพวกหัวแข็ง จะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้บำเพ็ญสายมารทั้งหมดจะเชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิมารโดยตรง
ยังคงจู่โจม!
เมื่อเห็นเช่นนี้ ในเวลาหนึ่งร้อยปีคงเป็นเรื่องยากที่จักรพรรดิมารจะรวบรวมผู้บำเพ็ญสายมารในใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง
นี่ก็ไม่ใช่สงครามในโลกมนุษย์ วิธีการของเหล่าผู้บำเพ็ญเปลี่ยนแปลงไปร้อยแปดพันเก้า หากสู้ไม่ได้ก็ยังสามารถหนี หากถูกพิชิตก็ยังสามารถทรยศหักหลัง
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าราชวงศ์ฝ่ายมารก็เป็นแค่เรื่องตลกขบขัน
ราชวงศ์ที่เต็มไปด้วยขุนนางบุ๋นบู๊ที่บ้าดีเดือดได้ตลอดเวลาเช่นนี้จะสามารสถาปนาขึ้นมาได้อย่างไร
เหตุผลที่ผู้ฝึกบำเพ็ญสายมารถูกทอดทิ้ง ไม่ใช่เพราะความแตกต่างในระบบการถ่ายทอดความคิดลัทธิเต๋า แต่เป็นเพราะผู้บำเพ็ญสายมารง่ายต่อการธาตุไฟเข้าแทรก คลั่งไคล้การเข่นฆ่า และบางครั้งยังอันตรายยิ่งกว่าสัตว์ปีศาจ
หลังจากโจวฝานกลับชาติมาเกิด ตบะของเขาก็พัฒนาไปได้ไม่เลว บรรลุถึงระดับหลอมปราณขั้นแปดเป็นที่เรียบร้อย เมื่อคำนวณดูแล้วเขาเพิ่งมีอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าเขาดิ้นรนจริงๆ ตายไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง คราวนี้กลับดีนัก เพียงทิ้งนามแล้วเริ่มต้นใหม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...