บทที่ 205 เฮ่าเทียนกลับชาติมาเกิด พรสวรรค์อันน่ากลัว
หลังจากลี่เทียนซินจากไป ไม่นานลี่เหยาก็กลับเข้าสู่สภาวะฝึกบำเพ็ญ
หานเจวี๋ยเห็นแล้วรู้สึกหมดคำพูดไปพักหนึ่ง
ดรุณีผู้นี้จิตใจยิ่งใหญ่เหลือเกิน หากเป็นคนทั่วไป จะต้องมีอารมณ์แปรปรวนกันบ้าง
หานเจวี๋ยก็ไม่ได้คิดอะไรมาก กลับไปฝึกบำเพ็ญบนตั่งต่อ
ส่วนเคราะห์ของลี่เหยา เขายังไม่คิดจะสอดแทรกในตอนนี้
ดูจากท่าทีของลี่เหยาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ยี่หระแต่อย่างใด
สองปีต่อมา ตี้ไท่ไป๋มาเยี่ยมเยียน
สีหน้าของเขาเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องสำคัญ หานเจวี๋ยจึงให้อู้เต้าเจี้ยนออกไป
ตี้ไท่ไป๋นั่งลงแล้วก็ถอนหายใจก่อน
หานเจวี๋ยถามอย่างระมัดระวังว่า “เป็นอะไรไป วังสวรรค์เกิดเรื่องหรือ”
ตี้ไท่ไป๋ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มหนัก “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
หานเจวี๋ยใจเต้นสะดุดไปนิด
เกิดเรื่องกับคนหนุนหลังหรือ
“พระชายาสวรรค์ของจักรพรรดิสวรรค์ให้กำเนิดบุตรคนหนึ่ง ดวงชะตาแข็งแกร่ง สูงศักดิ์แต่กำเนิด วิญญูเต๋าบอกว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิสวรรค์องค์ถัดไป เป็นความหวังใหม่ในการฟื้นฟูวังสวรรค์!” ตี้ไท่ไป๋พลันแย้มยิ้มบอก
หานเจวี๋ยอึ้งไป
‘แค่นี้เอง? ทำอย่างกับฟ้าจะถล่มลงมา!’
หานเจวี๋ยเกือบด่าออกไปแล้ว
หานเจวี๋ยกล่าวแบบขอไปที “ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก”
ตี้ไท่ไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใครใช้ให้ท่านพูดว่าเกิดเรื่องล่ะ ข้าเลยถือโอกาสทำให้เจ้าตกใจสักหน่อย”
หานเจวี๋ยหน่ายใจ ‘ถึงอย่างไรท่านก็เป็นผู้นำเซียนฝ่ายบุ๋น ไม่กลัวว่าจะสูญเสียเกียรติหรือ’
“แล้วอย่างไรต่อ” หานเจวี๋ยถามอีก
“ดังนั้นวังสวรรค์จึงจะจัดงานงานเลี้ยงอย่างยิ่งใหญ่ เจ้าไปหรือไม่”
“ไม่ไปได้หรือ”
“ฮ่าๆ ข้าก็เดาได้ว่าเจ้าไม่อยากไป ฝ่าบาทก็เดาได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ได้เชิญเจ้าไป”
“ฮ่าๆ”
หานเจวี๋ยหนังหน้ากระตุก เขาอยากจะถามตี้ไท่ไป๋นักว่า ‘เจ้าคิดว่าตนเองมีอารมณ์ขันมากหรือ’
ตี้ไท่ไป๋กล่าวอย่างจริงจัง “กลับเข้าหาประเด็นหลัก ฝ่าบาทอยากจะส่งองค์ชายน้อยมาที่นี่ เจ้ายินดีรับเขาไว้หรือไม่”
หานเจวี๋ยอึ้งไปครู่หนึ่ง
‘อยากจะไถพลังวิญญาณของข้าหรือ’
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าจักรพรรดิสวรรค์ดีกับเขามากทีเดียว เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธจริงๆ
ชัดเจนว่าจักรพรรดิสวรรค์อยากจะดึงหานเจวี๋ยไปเป็นพวกอย่างสมบูรณ์
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าจักรพรรดิสวรรค์ดูแคลนเขา หากต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่อาจต้านทานได้จริง เขาจะต้องละทิ้งศิษย์ทั้งหมดอย่างแน่นอน
พยายามสุดกำลังก็พอ ไม่จำเป็นต้องตายวันเดือนปีเดียวกัน
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “มาอาศัยอยู่แค่ชั่วคราว หรือคิดจะให้ข้ารับเป็นศิษย์”
ตี้ไท่ไป๋กล่าวด้วยคำพูดแฝงความหมายลึกซึ้ง “รับเป็นศิษย์”
บอกตามจริง เขาไม่อาจเข้าใจเหตุผลที่จักรพรรดิสวรรค์ทำเช่นนี้ เขารู้สึกว่าจักรพรรดิสวรรค์ให้ความสำคัญกับหานเจวี๋ยเกินไป
แม้ว่าพรสวรรค์ของหานเจวี๋ยพอจะเทียบกับยอดแม่ทัพเทพได้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับยอดแม่ทัพเทพเช่นนี้
“ไม่มีปัญหา”
หานเจวี๋ยรับปาก
ตี้ไท่ไป๋พยักหน้ากล่าว “ช่วงนี้ภายในวังสวรรค์มีเทพเซียนชักจูงจิตใจคน หากมีคนมาหาเจ้า เจ้าต้องบอกข้าในทันที นี่ไม่ใช่เรื่องดี”
พอได้ยินเช่นนี้ หานเจวี๋ยอดนึกถึงจอมพลเสินเผิงกับมหาจักรพรรดิเหยียนจวินก่อนหน้านี้ไม่ได้
เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะกล่าว “ก่อนหน้านี้จอมพลเสินเผิงมาหามหาจักรพรรดิเหยียนจวิน ทั้งสองอยู่ด้วยกันหลายปี เรื่องนี้อย่าได้บอกเชียวว่าข้าเป็นคนพูด”
ตี้ไท่ไป๋ขมวดคิ้ว พึมพำว่า “เป็นจอมพลเสินเผิงอีกแล้ว เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว เจ้าฝึกบำเพ็ญต่อเถอะ”
ตี้ไท่ไป๋หายไปจากที่เดิมด้วยความเร็วมากยิ่งกว่าตอนมา ดูท่าจอมพลเสินเผิงไม่ได้ไปหาแค่มหาจักรพรรดิเหยียนจวิน
หานเจวี๋ยแอบเย้ยเยาะ ‘ข้าเป็นสุนัขของวังสวรรค์แล้วจริงๆ หรือนี่’
ต้องพูดเลยว่าช่างดีงามจริงๆ ตอนนี้วังสวรรค์ไม่ได้เห็นเขาเป็นสุนัข วังสวรรค์บ่มเพาะเขาอย่างเต็มกำลัง แต่เขายังไม่เคยมอบอะไรให้วังสวรรค์เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...