บทที่ 213 วังสวรรค์วางอุบาย พี่ใหญ่ถูกจับตัว
“มีชื่อแล้ว ก็ต้องมีกฎระเบียบ ศิษย์สำนักซ่อนเร้นห้ามหาเรื่องก่อปัญหา ห้ามรังแกผู้บริสุทธิ์ไร้ทางสู้
แน่นอน หากมีคนข่มเหงรังแกศิษย์สำนักซ่อนเร้น ในฐานะคนร่วมสำนัก พวกเจ้าต้องลงมือช่วยเหลือ ภายหน้าหากพวกเจ้ารับศิษย์ ห้ามกระทำโดยพลการ ศิษย์ทุกคนต้องผ่านการคัดกรองจากข้า ข้อสำคัญที่สุดคือ สำนักเดียวกันห้ามทำร้ายกันเอง!”
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจริงจัง กฎสำนักมีไม่มาก ถึงอย่างไรลูกศิษย์ก็มีอยู่ไม่เยอะ
บรรดาศิษย์พากันยืนยันว่าจำได้ขึ้นใจแล้ว
หานเจวี๋ยหยัดตัวขึ้น โบกมือขวาคราหนึ่ง พาหลงเฮ่ามายังห้วงอากาศว่างเปล่าที่อยู่เหนือโลกเมฆาแดง
หลงเฮ่ามายังห้วงอวกาศเป็นครั้งแรก สมัยยังเด็กถูกตี้ไท่ไป๋พามา ระหว่างทางก็ไม่เคยได้เห็นห้วงอวกาศเลย
เขาตกใจ ประหม่าจนแทบจะไม่ไหว
“อาจารย์ ท่านพาข้ามาที่นี่ทำไมกัน” หลงเฮ่าเอ่ยถาม
เขายังคิดว่าก่อนหน้านี้ตนพูดอะไรผิดไป จนยั่วโทสะหานเจวี๋ยเข้า
หานเจวี๋ยกล่าวว่า “อาจารย์อยากเห็นความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเจ้า”
ตูม!
หานเจวี๋ยระเบิดพลังจิตกระบี่หวนคืน ข่มหลงเฮ่าทันใด
ในชั่วอึดใจ สีหน้าของหลงเฮ่าขาวซีด ทั้งร่างสั่นเทิ้ม
ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความรู้สึกว่าได้เผชิญหน้ากับความตาย
ความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนครอบงำจิตใจของเขา ชั่วขณะนี้สมองของเขาว่างเปล่าขาวโพลน
ผ่านไปสิบอึดใจเต็ม หานเจวี๋ยถึงค่อยเก็บจิตกระบี่หวนคืนไป
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เจ้าเข้าใจแล้วหรือยัง”
หลงเฮ่าสีหน้าแข็งค้าง เหงื่อกาฬท่วมศีรษะ เอ่ยถามอย่างระแวดระวังว่า “เข้าใจอะไร”
หานเจวี๋ยกล่าว “เหนือคนยังมีคนเหนือฟ้ายังมีฟ้า เจ้าเอาแต่อยู่ที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียน คิดว่าพลังของตนแข็งแกร่งแล้วหรือ หารู้ไม่ โลกข้างนอกอันตรายยิ่งกว่าที่เจ้าจินตนาการไว้เสียอีก
บรรดาศิษย์พี่ศิษย์หลานของเจ้า พวกเขาเป็นมนุษย์ทั่วไป แต่พวกเขาฝึกบำเพ็ญมาโดยตลอด เจ้าคิดว่าเจ้านำห่างพวกเขาแล้วจริงๆ หรือ เจ้าเป็นถึงโอรสจักรพรรดิสวรรค์ เดิมทีเจ้าก็ควรจะทิ้งห่างพวกเขาไปไกล แต่เจ้าเปล่าเลย
จักรพรรดิสวรรค์ก็ใช่ว่าจะแกร่งที่สุด เหตุใดต้องส่งเจ้ามาหาข้าที่นี่ นั่นก็เป็นเพราะที่นี่ปลอดภัยที่สุด ถ้าเจ้าอยู่วังสวรรค์ ป่านนี้เจ้าตายไปนานแล้ว ภายในวังสวรรค์สู้ในที่แจ้งขัดแย้งในที่ลับกันมาตลอด ศัตรูของเจ้ามากมายนัก หากเจ้าไปแดนเซียนก็อาจจะตายได้ทุกเมื่อ”
คำพูดของหานเจวี๋ยดุจดั่งมีดคมกริบเล่มแล้วเล่มเล่ากรีดลงในหัวใจของหลงเฮ่า
หลงเฮ่ากลัวแล้วจริงๆ
เขาเองก็ตระหนักได้ว่าตัวเองวางโตโอหังเกินไป
ก่อนหน้าวันนี้ เขาคิดมาตลอดว่าตนแข็งแกร่งมากแล้ว พลังจิตของเขาแผ่ปกคลุมโลกมนุษย์ นอกจากหานเจวี๋ยก็ไม่มีใครเทียบเขาได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ยากนักที่เขาจะไม่ทะนงตน
หานเจวี๋ยกล่าวต่อว่า “เฮ่าเอ๋อร์ อาจารย์ไม่ฝันเฟื่องหวังให้เจ้าแสวงหาอะไรเพื่อสำนักซ่อนเร้น อาจารย์เองก็ไม่ต้องการ ในเมื่อเป็นศิษย์และอาจารย์ อาจารย์ดูแลเจ้าจนเติบใหญ่ ย่อมหวังว่าเจ้าจะสามารถมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
[ความประทับใจที่หลงเฮ่ามีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 5 ดาว]
เบ้าตาของหลงเฮ่าแดงก่ำ ในใจเปี่ยมด้วยความซาบซึ้งและละอายแก่ใจ
เขากำหมัดแน่นพลางเอ่ยว่า “อาจารย์ ศิษย์สำนึกผิดแล้ว”
หานเจวี๋ยเผยรอยยิ้ม “เจ้าเป็นศิษย์ของอาจารย์ และเจ้าก็เติบโตแล้ว ต่อไปอย่าเอาแต่รังแกผู้เยาว์รุ่นหลัง ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่าง เข้าใจหรือไม่”
หลงเฮ่าพยักหน้าแรงๆ
จากนั้นหานเจวี๋ยก็พาเขากลับไปยังเขาเพียรบำเพ็ญเซียน
หลังจากวันนี้ หลงเฮ่าก็เปลี่ยนไป ไม่ได้คุยโวขนาดนั้นอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เพียงแต่เปลี่ยนเป็นสงวนท่าที และไม่ข่มเหงมู่หรงฉี่ โจวหมิงเยวี่ย กับฉู่ซื่อเหรินอีก
การที่จู่ๆ หลงเฮ่าก็พากเพียรฝึกบำเพ็ญช่วยกระตุ้นคนอื่นด้วยจริงๆ
ถึงอย่างไรพรสวรรค์ของหลงเฮ่าก็สูงที่สุด ถ้าหากเขามานะฝึกบำเพ็ญ ใครเล่าจะไล่ตามทัน?
ภายในถ้ำเทวา
อู้เต้าเจี้ยนอดถามไม่ได้ “ท่านข่มขวัญเฮ่าเอ๋อร์แล้วใช่หรือไม่”
หลงเฮ่าเป็นคนที่นางดูแลจนเติบใหญ่ นางย่อมห่วงใยเป็นธรรมดา
“พูดอะไรกัน ข้าจะข่มขวัญเขาได้อย่างไร ข้าสั่งสอนเขาต่างหาก!” หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
อู้เต้าเจี้ยนทำปากเบ้ ‘ท่านเพลาๆ ลงหน่อยเถอะ เมื่อก่อนท่านมักข่มขวัญข้านะ!’
คำพูดเช่นนี้นางได้แต่ข่มกลั้นไว้ในใจ ไม่กล้าเอ่ยออกมา
…
พระราชวังลอยฟ้า
จักรพรรดิสวรรค์นั่งอยู่บนแท่น มองกระจกแสงที่ลอยอยู่เหนือตำหนักพลางเผยรอยยิ้มพึงพอใจ
ตี้ไท่ไป๋กล่าวยิ้มๆ “ฝ่าบาท หานเจวี๋ยอบรมศิษย์ได้มีฝีมือทีเดียว องค์ชายน้อยรู้จักเก็บอารมณ์บ้างแล้ว”
จักรพรรดิสวรรค์กล่าว “เจ้าเด็กบ้านี่เพิ่งอายุเท่าไรเอง ก็เริ่มฝังใจกับตำแหน่งจักรพรรดิของเราเสียแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...