อ่านสรุป บทที่ 220 ธาตุแท้ของหานเจวี๋ย บุตรแห่งสวรรค์อีกาทอง จาก ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet
บทที่ บทที่ 220 ธาตุแท้ของหานเจวี๋ย บุตรแห่งสวรรค์อีกาทอง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 220 ธาตุแท้ของหานเจวี๋ย บุตรแห่งสวรรค์อีกาทอง
“ข้าซ่อนตัวฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่ต่อไปได้หรือไม่ เว้นแต่เพียงวังสวรรค์จะเกิดปัญหา ข้าไม่อยากวุ่นวายเกินไป” หานเจวี๋ยกล่าวอย่างจนใจ
เขาไม่อยากไปวังสวรรค์จริงๆ
ในที่ที่มีผู้คนย่อมมียุทธภพ และในยุทธภพก็มีความซับซ้อนมากความ หานเจวี๋ยไม่อยากสิ้นเปลืองพลังงานในการจัดการมัน
แม้ว่าเขาจะเลือกปลีกตัวอยู่อย่างสันโดษ แต่ก็มีปัญหาอยู่ดี
ใช่ว่าอยู่ห่างไกลจากปัญหาแล้วจะไม่มีปัญหา
ตี้ไท่ไป๋กล่าวอย่างฉงน “เหตุใดเจ้าถึงได้กลัวเพียงนี้ เจ้าไม่อยากประสบความสำเร็จ ไม่อยากมีชื่อเสียงไปชั่วนิรันดร์ ไม่อยากกลายเป็นเทพเซียนที่ที่หมื่นโลกาเคารพยำเกรงหรือ
มีวังสวรรค์และฝ่าบาทคอยสนับสนุนเจ้า ภายในวังสวรรค์ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเจ้า เช่นเดียวกับยอดแม่ทัพเทพ”
ไม่พูดถึงยอดแม่ทัพเทพยังพอทำเนา แต่เมื่อพูดถึงยอดแม่ทัพเทพขึ้นมาแล้ว หานเจวี๋ยก็ตื่นตระหนกขึ้นมา
ยอดแม่ทัพเทพก็คือชะตาชีวิตตรากตรำลำเค็ญ
แม้จะผ่าเผยสง่างาม แต่ร่างกายก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส
หานเจวี๋ยไม่อยากเป็นยอดแม่ทัพเทพ
เขาส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการชื่อเสียงโชคลาภ แค่เพียงอยากมีชีวิตอยู่ วังสวรรค์มีเมตตาต่อข้า ข้าย่อมต้องชดใช้คืนเป็นธรรมดา หวังเพียงว่าจะได้ชดใช้คืนในยามวิกฤต ข้ายอมเป็นผู้พิทักษ์วังสวรรค์ หาใช่แม่ทัพเทพที่จะขยายอาณาเขตไปทั่ว”
ตี้ไท่ไป๋เผยรอยยิ้มจนใจออกมา
‘เจ้าหนูนี่…
ช่างขี้ขลาดจริงๆ!’
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับบุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้
ทอดสายตามองดูหมื่นโลกาทั่วหล้า บุตรแห่งสวรรค์คนไหนมีนิสัยเช่นนี้บ้าง
ตี้ไท่ไป๋ส่ายหน้า กล่าวว่า “หลังจากวังสวรรค์และวังปีศาจสงบศึก วังสวรรค์จะเลือกบุตรแห่งสวรรค์มาสิบคนเพื่อมุ่งหน้าไปศึกษาที่สำนักเต๋า มีนักบรรยายธรรมสูงสุด ฝ่าบาทได้กันให้ที่เจ้าแล้ว เจ้าอยากไปหรือไม่”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว พูดว่า “ช่างเถิด ให้คนอื่นไปเถอะ ข้ามีคุณสมบัติยอดเยี่ยม มอบให้โอกาสผู้อื่น ก็ยังสามารถช่วยวังสวรรค์ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ได้เช่นกัน”
“นี่เก็เป็นโอกาสที่หาได้ยากในรอบพันปีเชียวนะ และมีวิชาพิสูจน์มรรคของจักรพรรดิเซียนด้วย”
“สำหรับข้า มีได้ แต่ไม่จำเป็น”
“เอาเถิด!”
ตี้ไท่ไป๋ขมวดคิ้วกล่าว เขารู้สึกว่าหานเจวี๋ยหยิ่งทระนงเกินไป แต่พอคิดดูอีกทีแล้ว คุณลักษณะของหานเจวี่ยก็มีคุณสมบัติที่จะหยิ่งทระนงได้จริงๆ
ตี้ไท่ไป๋กล่าวต่อไปว่า “องค์รัชทายาทกลับมาแล้ว กำลังจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมเผ่ามังกรแท้ เจ้าอยากไปหรือไม่ เผ่ามังกรแท้มีอาวุธเทพมากมาย เจ้าสามารถเลือกอาวุธเทพที่ถนัดมือมาได้หนึ่งอย่าง”
“ขอบคุณในความปรารถนาดี ข้ายังไม่ต้องการในตอนนี้”
“…”
ตี้ไท่ไป๋ถือว่าจำนนแล้ว
‘เจ้าหนูนี่ก็แค่ไม่อยากจากโลกมนุษย์ใบนี้ไป!’
ทั้งสองคุยกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ตี้ไท่ไป๋จะจากไป
หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
‘อย่าหวังจะก่อกวนมรรคจิตข้า!’
หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบ ๆ
หลังจากตี้ไท่ไป๋ออกไป อู้เต้าเจี้ยนกลับมาภายในถ้ำเทวา เอ่ยถามอย่างใคร่รู้ว่า “เหตุใดผู้เฒ่าคนนั้นถึงดูโกรธเคืองอยู่บ้างเจ้าคะ”
“ใครจะไปรู้”
หานเจวี๋ยเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่สนใจ
อู้เต้าเจี้ยนกล่าว “นายท่าน พอจะสอนมรรคกระบี่เทียมฟ้าขั้นที่สองให้ข้าจนแตกฉานได้หรือไม่ ข้าสู้ไม่ชนะอีกาทอง โมโหยิ่งนัก!”
หานเจวี๋ยกลอกตามองนางคราหนึ่ง เอ่ยว่า “ขอบเขตพลังของเจ้าต่ำแล้ว”
“แต่ว่า…”
“รอให้เจ้าบรรลุระดับมหายานก่อน ข้าจะสอนเจ้าตัวต่อตัวเลย”
“จริงหรือ”
“อืม”
อู้เต้าเจี้ยนเผยรอยยิ้มออกมาในทันที สุขใจเป็นล้นพ้น
หานเจวี๋ยไม่สนใจนางอีก ตั้งสมาธิฝึกบำเพ็ญ
เขาต้องทะลวงจักรพรรดิเซียนในเร็ววัน
เช่นนี้ถึงจะมีพลังคุ้มครองตนเอง
…
วังสวรรค์ ลานภายในศาลาหินแห่งหนึ่ง
จักรพรรดิสวรรค์กำลังดื่มชา เอ่ยถามอย่างไม่ยี่หระว่า “เขาพูดเช่นนั้นจริงๆ หรือ”
ตี้ไท่ไป๋โค้งกายอยู่ด้านข้าง กล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ใช่พ่ะย่ะค่ะ เขาเพียงอยากฝึกบำเพ็ญอย่างสงบๆ อยู่ในโลกมนุษย์”
ได้ยินเช่นนี้ จักรพรรดิสวรรค์ก็ส่ายหัวหลุดหัวเราะออกมา กล่าวว่า “เขาเป็นเซียนทองแล้ว”
“หา? เป็นไปได้อย่างไร!”
“วาจาของเรายังจะเป็นเท็จได้หรือ”
นี่ก็คือเจียงอี้คนที่พบกันในแม่น้ำมรรคกระบี่ไม่ใช่หรือ
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เจ้าหมอนี่หาเขาเจอได้อย่างไร
ระดับความประทับใจเพิ่งจะ 1 ดาวเอง!
หานเจวี๋ยตรวจสอบตำแหน่งของเจียงอี้ทันที พบว่าเจียงอี้หยุดอยู่ในห้วงอากาศว่างเปล่าของโลกเมฆาแดง ราวกับกำลังรอการปรากฏตัวของเขา
หานเจวี๋ยใช้แบบจำลองการทดสอบ เพื่อลองดูว่าจะสามารถเอาชนะเจ้าหมอนี่ได้หรือไม่
หลังจากเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น สีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึม
เขากลับไม่สามารถสังหารเจียงอี้ได้เลย!
ทั้งสองต่อสู้เสมอกัน!
หานเจวี๋ยตกใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต่อสู้กับคนในขอบเขตพลังเดียวกันแล้วเสมอ
‘เจ้าหมอนี่มีของอยู่บ้างนี่!’
หานเจวี๋ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไปพบเจียงอี้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เจียงอี้ก่อปัญหา
มาถึงห้วงอากาศว่างเปล่า เมื่อมองเห็นหานเจวี๋ย บนใบหน้าเคร่งขรึมของเจียงอี้ก็ปรากฏรอยยิ้มบางขึ้น
เขาสวมเสื้อคลุมสีทอง บนเสื้อคลุมสีทองลุกโชนด้วยเพลิงแท้สุริยะ ผมสีขาวทั่วศีรษะปลิวไสวเล็กน้อย
“ซือหม่าอี้ คิดไม่ถึงว่าท่านจะเลี้ยงดูคนของเผ่าเทพอีกาทองของพวกเราไว้” เจียงอี้เอ่ยปากกล่าว
หานเจวี๋ยเจือกล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านรู้จักพวกมัน?”
เจียงอี้เอ่ย “คุณสมบัติไม่เอาไหน ทั้งยังเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ข้าคาดเดาถึงสถานะของพวกมันได้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ที่ข้ามาหาท่านนั้นก็เพื่อเชิญท่านไปที่แดนกระบี่ดึกดำบรรพ์ด้วยกัน”
“แดนกระบี่ดึกดำบรรพ์คืออะไร”
“แดนกระบี่ดึกดำบรรพ์เป็นโลกที่เปิดกว้างโดยเจ้าสำนักของสำนักเต๋า ดูดซับวิญญาณความตายของหายนะนับไม่ถ้วน วิญญาณดับสูญเหล่านั้นไม่สามารถเข้าสู่การวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดได้ ทำได้เพียงถูกดไว้ในแดนกระบี่ดึกดำบรรพ์เท่านั้น หลังจากการล่มสลายของผู้นำสำนักเต๋า แดนกระบี่ดึกดำบรรพ์ได้กลายเป็นสถานที่ไร้เจ้าของ ในนั้นมีมรดกตกทอดของผู้นำเจ้าสำนัก โดยเฉพาะมรรคกระบี่”
“ขอบคุณสำหรับคำเชิญของใต้เท้า ข้ายังไม่เอาด้วยดีกว่า ข้าไม่อยากออกจากที่นี่ ข้ายังต้องปกป้องโลกมนุษย์ฝ่ายนี้”
“คุณลักษณะเช่นท่าน เป็นได้เพียงเทพในโลกมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นหรือ วังสวรรค์ตาบอดหรืออย่างไร”
“เปล่า ข้าอยากเป็นเอง”
หานเจวี๋ยตอบกลับอย่างสุภาพยิ่งนัก ในใจระวังตัวจากเจียงอี้ ด้วยกลัวว่าเจียงอี้จะลงมือกะทันหัน
เจียงอี้จ้องหานเจวี๋ย มองสำรวจอย่างถี่ถ้วน มองจนเขาเริ่มอึดอัดยิ่งนัก
…………………………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...