บทที่ 219 ความแข็งแกร่งพุ่งทะยาน ความแตกต่างของขอบเขตพลัง
[กระบี่พิฆาตเทพ: ยอดสมบัติไท่อี่ชั้นสุดยอด สมบัติแห่งความชั่วร้ายมรรคาสวรรค์ ฆ่าศัตรูโดยไม่สร้างกฎกรรม สามารถดูดซับความโกรธแค้นฟ้าดินเพื่อนำมาใช้เองได้]
หานเจวี๋ยอ่านข้อมูลของกระบี่พิฆาตเทพแล้ว รู้สึกว่าไม่เลว
เขาหยิบกระบี่พิฆาตเทพออกมาทันที เริ่มทำให้มันจดจำเจ้าของ
ใบมีดของกระบี่พิฆาตเทพเป็นสีดำ ดูท่าทางชั่วร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแกะสลักบนฝักกระบี่ ราวกับว่าปีศาจชั่วกำลังแยกเขี้ยวกางกรงเล็บ
หานเจวี๋ยเก็บกระบี่พิฆาตเทพไว้อย่างดี จากนั้นก็เข้าฌานหยั่งถึงมรรคกระบี่ต่อไป
เขาต้องการเพิ่มระดับพลังวิเศษมรรคกระบี่ทั้งหมดของตนสู่ระดับจักรพรรดิ
เพียงพริบตา เวลาก็ผ่านไปอีกเจ็ดปี
หานเจวี๋ยได้พัฒนาตัวเองครบทุกด้านแล้ว ความแข็งแกร่งของเขายกระดับจนถึงขีดจำกัดของตอนนี้
เขาเริ่มจำลองการทดสอบ
ตี้ไท่ไป๋ ปลิดชีพในฉับพลัน!
มหาจักรพรรดิเหยียนจวิน ปลิดชีพในฉับพลัน!
จักรพรรดิสวรรค์ ปลิดชีพในฉับพลัน!
จอมพลเสินเผิง ปลิดชีพในฉับพลัน!
รัชทายาทเทียนเจ๋อ ปลิดชีพในฉับพลัน!
เสียงหลงฝัว ปลิดชีพในฉับพลัน!
หานเจวี๋ยลืมตา กล่าวโดยรวมแล้ว เขายังรู้สึกพอใจมากทีเดียว
ระดับล่างจักรพรรดิเซียนลงไปในตอนนี้ น่าจะไม่มีใครสามารถฆ่าเขาได้!
แต่เมื่อคิดว่าตนได้ล่วงเกินจักรพรรดินีปีศาจแห่งวังปีศาจไป เขาก็ตื่นตัวอีกครั้ง
‘ไม่ได้! หากสู้ไม่ชนะจักรพรรดิเซียน จะถือว่าแข็งแกร่งได้อย่างไร’
หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ และยับยั้งความรู้สึกภาคภูมิใจ
เขาหยิบหินวิญญาณมรรคาสวรรค์ออกมา เริ่มยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย
ไม่เหมาะสมที่จะยกระดับกระบี่พิฆาตเทพ สมบัติที่ดุร้าย ง่ายต่อแว้งกัดเจ้าของ
เพิ่มให้หนังสือแห่งความโชคร้ายนั้นจะดียิ่งนัก ซ้ำยังสามารถต่อสู้กับศัตรูต่อไปได้
หานเจวี๋ยชอบฆ่าศัตรูก่อนที่ศัตรูจะซุ่มโจมตีเข้ามา
ถ้าไม่ออกแรงได้ ก็พยายามที่จะไม่ออกแรง
อู้เต้าเจี้ยนสงสัยในพฤติกรรมของหานเจวี๋ย
‘นั่นไม่ใช่หนังสือธรรมดาเล่มหนึ่งหรอกหรือ
หรือว่านายท่านโกหกนาง’
หานเจวี๋ยไม่สนใจอู้เต้าเจี้ยน เขาใช้เวลาหลายวันกว่าจะยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้ายสำเร็จ
[หนังสือแห่งความโชคร้ายของท่ายกระดับเป็นสมบัติวิญญาณมรรคจักรพรรดิ]
หลังจากหานเจวี๋ยอ่านจบก็ตกตะลึง ดูเหมือนว่ากำไลเบญจธาตุวัชระจะแข็งแกร่งกว่า เพราะมันเป็นยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ
สมบัติวิญญาณมรรคจักรพรรดิ ยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิ นี่ก็คือระดับเหนือกว่ายอดสมบัติไท่อี่ชั้นสุดยอด
หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้คิดมาก เริ่มสาปแช่งศัตรู
อายุขัยจะเริ่มลดลงหลังจากสาปแช่งไปห้าวันเช่นเดิม
หานเจวี๋ยตั้งใจจะสาปแช่งศัตรูทุกคนเป็นเวลาห้าวัน โดยที่ตนเองไม่ถูกลดอายุขัย
ในระหว่างการสาปแช่งนั้น หานเจวี๋ยเปิดจดหมายเพื่อตรวจสอบ
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเทพปีศาจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ตี้ไท่ไป๋สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจ] x5631
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจ] x49323
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านกลืนกินวิญญาณมารในยามต่อสู้ สายเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลง]
[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากตี้หงเย่สหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[จั้งกูซิงสหายของท่านเผชิญกับการซุ่มโจมตีจากจักรพรรดิเซียนวังเทพ]
[ซูฉีศิษย์ของท่านแพร่กระจายความโชคร้าย นักพรตเต๋าตันชิงมรรคจิตแตกสลาย สภาวะจิตไม่แน่ชัด]
…
วังสวรรค์และวังปีศาจยังคงต่อสู้กัน แต่ดูท่าทางแล้ววังสวรรค์เริ่มจะได้เปรียบ และจำนวนครั้งในการถูกโจมตีไม่ได้เกินจริงเหมือนเมื่อก่อน
ตรงกันข้ามวังเทพกลับน่าสังเวช โดยเฉพาะจักรพรรดิเทพกระบี่
ก็ไม่รู้ว่าวังเทพไปล่วงเกินเผ่าเทพอีกาทองอย่างไร
หานเจวี๋ยพลันรู้สึกว่าเผ่าเทพอีกาทองไม่ได้ด้อยกว่าวังเทพ ถึงขั้นที่อาจจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย
“นายท่าน ลี่เหยาถูกไล่สังหารอีกแล้ว” อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยขึ้นในทันใด
นางเข้าฌานข้างวารีทางช้างเผือกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า เมื่อหันหน้าไปก็สามารถมองเห็นผิวน้ำได้
หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลางเอ่ยถามว่า “สถานการณ์เป็นอย่างไร”
อู้เต้าเจี้ยนตอบกลับว่า “พอไหวอยู่กระมัง พวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง”
หลังจากผ่านไปนานหลายปีเพียงนี้ ลี่เหยาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
หานเจวี๋ยไม่ได้ถามคำถามใดๆ เพิ่มเติม ในเมื่อลี่เหยาไม่เป็นไร เช่นนั้นเขาก็คร้านจะสนใจ
อู้เต้าเจี้ยนกลับมองดูอย่างออกรสออกชาติ
หกเดือนต่อมา หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง ฝึกบำเพ็ญต่อไป
ไม่กี่วันต่อมา จู่ๆ สิงหงเสวียนก็กลับมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...