เซียนเฒ่าเต้าเหลยแค่นเสียงหยัน ชัดเจนว่าไม่เชื่อ
โจวฝานเป็นศิษย์สืบทอดของเขา หานเจวี๋ยเอาชนะโจวฝานได้ แต่กลับขอยอมแพ้ นี่เป็นการหักหน้ายอดเขาอัสนีสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าเขาเป็นผู้อาวุโส จึงไม่อาจตำหนิตรงๆ ได้
หานเจวี๋ยส่งยิ้มสุภาพไปให้ศิษย์สองคนนั้น
คนทั้งสามไม่ได้สนทนากันมากนัก สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่เหมาะจะพูดคุยกันด้วย
ไม่นานนัก
พวกเขาก็เข้าไปยังยอดเขาหลัก
เซียนเฒ่าเต้าเหลยพาพวกเขาไปพบนักพรตเต๋าจิ้งซวี จากนั้นตนเองจึงออกไปก่อน
“สามอันดับแรกของการทดสอบสำนักฝ่ายในจะได้เลื่อนขั้นเป็นศิษย์อัจฉริยะ นอกจากนั้น พวกเจ้ายังเลือกถ้ำเทวาฟ้าประทานได้ โดยให้อันดับที่หนึ่งเป็นผู้เลือกก่อน”
นักพรตเต๋าจิ้งซวีกล่าวด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก นางชำเลืองมองหานเจวี๋ยอย่างไร้พิรุธ
เจ้าเด็กคนนี้ได้อันดับสามเสียด้วย
ดูท่าเสวียนเอ๋อร์จะมองคนไม่ผิด
พรสวรรค์ของเขาดีเยี่ยมจริงๆ
ศิษย์อีกสองคนไม่แปลกใจอะไร เห็นได้ชัดมากว่าพวกเขารู้เรื่องถ้ำเทวาฟ้าประทานมาก่อนแล้ว
นักพรตเต๋าจิ้งซวีโบกมือขวาหนึ่งที เบื้องหน้าปรากฏภาพขึ้นมา แบ่งเป็นถ้ำเทวาฟ้าประทานสามแห่ง
ถ้ำเทวาฟ้าประทานทั้งสามนี้อยู่รอบขอบนอกของภูเขากลุ่มหนึ่ง หานเจวี๋ยกวาดตามอง คาดว่าน่าจะเป็นแผนที่ของสำนักหยกพิสุทธิ์
‘นี่เตรียมจะให้พวกเราเป็นคนอารักขาหรือ’
หานเจวี๋ยแขวะในใจ ถ้ำเทวาทั้งสามอยู่รอบยอดเขาทั้งสิบแปดอย่างพอดิบพอดี
แขวะก็ส่วนแขวะ แต่ถ้ำเทวาฟ้าประทานก็มีแรงดึงดูดสูงจริงๆ เทียบเท่ากับสระวิญญาณที่ต้องเสียเงินเลย หานเจวี๋ยแข็งใจอดทนไว้
ตอนนี้เขามีอาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทอง ไม่กลัวการคุกคามอีก
นักพรตเต๋าจิ้งซวีเริ่มแนะนำถ้ำเทวาทั้งสามแห่ง
ถ้ำเทวาฟ้าประทานแห่งแรกมีพลังวิญญาณอัคคีและพลังวิญญาณวายุหนาแน่นยิ่ง
ถ้ำเทวาฟ้าประทานแห่งที่สองมีพลังวิญญาณวารี พลังวิญญาณอัคคี และพลังวิญญาณพฤกษาค่อนข้างมาก
ถ้ำเทวาฟ้าประทานแห่งที่สาม แม้ว่าความหนาแน่นของพลังวิญญาณจะมากถึงระดับสระวิญญาณ แต่ธาตุของพลังวิญญาณผสมปนเปกัน
ไม่ผิดจากที่คาดไว้
ถ้ำเทวาฟ้าประทานแห่งที่สามตกเป็นของหานเจวี๋ย
ผู้บำเพ็ญที่มาถึงจุดนี้ได้ล้วนเป็นอัจฉริยะที่มีรากวิญญาณสามหรือสี่สาย ทว่าฝึกฝนพลังวิญญาณสายเดียว ดังนั้นต้องเลือกถ้ำเทวาฟ้าประทานสองแห่งแรกอยู่แล้ว
หานเจวี๋ยไม่มีสิทธิ์เลือก แต่กลับได้ถ้ำเทวาฟ้าประทานที่เหมาะกับตนเองที่สุดมา
หลังจากเลือกถ้ำเทวาฟ้าประทานเสร็จสิ้น หานเจวี๋ยก็ได้รับยันต์หนึ่งแผ่น
เมื่อฉีกยันต์ออกจะพบจุดหมาย
ทั้งสามคนคารวะแล้วจากไป
เมื่อออกมาจากตำหนักใหญ่ หานเจวี๋ยฉีกยันต์ทันที นกพิราบสีทองตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะบินไปยังที่ไกลๆ หานเจวี๋ยรีบตามไปโดยเร็ว
อีกสองคนที่เหลือก็คำนับกันและกัน จากนั้นแยกย้ายไป
…
หลังจากบินตามพิราบทองไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดหานเจวี๋ยก็หาถ้ำเทวาฟ้าประทานพบ
ถ้ำเทวานี้ตั้งอยู่กลางป่าเขา ครั้นพิราบทองบินเข้าไปในกำแพงภูเขา กำแพงภูเขาพลันเปล่งแสงประกาย หานเจวี๋ยรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณ คาดว่าเมื่อก่อนคงมีค่ายกลวางไว้
กำแพงภูเขาแปรเปลี่ยนเป็นปากถ้ำ หานเจวี๋ยเดินเข้าไปด้านในทันที
ทางเดินในถ้ำรองรับคนได้สามสี่คนพร้อมกัน เดินไปได้ห้าสิบก้าว เขาก็เห็นห้องด้านในถ้ำ ห้องด้านในใหญ่มาก ผนังถ้ำเปียกชื้น ยอดบนสุดมีช่อง มีลมหนาวพัดเข้ามา ตรงกลางห้องยังมีสระน้ำไอร้อนลอยกรุ่น มีพืชน้ำขึ้นอยู่ไม่น้อย
หานเจวี๋ยสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่หนาแน่น ไม่ด้อยไปกว่าสระวิญญาณของสำนักฝ่ายในเลย ถึงขั้นเข้มข้นกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
พลังวิญญาณทั้งหกสายล้วนมีหมด!
หานเจวี๋ยพอใจยิ่งนัก
เขานำอาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทองออกมาสวมใส่ แล้วจึงค่อยคลุมด้วยชุดคลุมของสำนักหยกพิสุทธิ์
เมื่อสวมใส่สมบัติวิญญาณชิ้นนี้ หานเจวี๋ยรู้สึกได้ว่าคุณลักษณะประจำตัวเปลี่ยนไป
รู้สึกว่าปลอดภัยมาก!
หานเจวี๋ยยิ้มดีอกดีใจ ก่อนจะเดินไปที่ปากถ้ำอีกครั้ง
เขาเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน
ถ้ำเทวาที่เป็นของเขาโดยเฉพาะ ถึงอย่างไรก็ต้องมีชื่อ!
เขาใช้นิ้วแทนกระบี่ สลักอักษรไว้บนปากถ้ำ
อดทนเพื่อทะเลกว้างฟ้ากระจ่าง[1]!
หานเจวี๋ยพยักหน้าอย่างพอใจ เขียนตัวอักษรได้ไม่เลว ยิ่งใหญ่ทรงพลัง สะท้อนให้เห็นปราณกระบี่ที่แข็งแกร่งของเขาได้
หลังจากตั้งชื่อเรียบร้อย หานเจวี๋ยตัดต้นไม้แถวนั้นมา เขาต้องการสร้างพวกโต๊ะเก้าอี้ตั่งเตียง
…
ณ ตำหนักหยกวิเวก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...