ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 22

บทที่ 22 ได้รับสมบัติวิญญาณ อาภรณ์เทพทมิฬจักจั่นทอง
เมื่อเห็นโจวฝานมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ หานเจวี๋ยตัดสินใจว่าจะเอาจริง

ถ้าโจมตีให้พ่ายในขณะที่โจวฝานยังไม่เผยพลังอันแกร่งกล้า เช่นนี้จะส่งผลกระทบไม่มาก

ไม่เช่นนั้น หากโจวฝานแสดงความแข็งแกร่งมากพอ และหานเจวี๋ยโจมตีจัดการอีกครั้ง ถึงเขาอยากอยู่เงียบๆ ก็ทำไม่ได้แล้ว

ผู้ชมการประลองมากมายเช่นนี้ หานเจวี๋ยไม่อาจถ่วงเวลาจนทุกคนกลับออกไปได้

คิดได้ดังนั้น หานเจวี๋ยจึงย่างสามขุมไปทางโจวฝาน

โม่จู๋กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ของวิเศษคู่ชีวิตของโจวฝานแกร่งยิ่งนัก เป็นเพราะของวิเศษชิ้นนี้ อาจารย์ถึงรับเขาเป็นศิษย์สืบทอดเป็นกรณีพิเศษ”

ฉางเยวี่ยเอ๋อร์เอ่ยอย่างดูแคลน “เทียบกับศิษย์น้องหานของข้าแล้ว เขายังห่างชั้นอีกมาก”

สิงหงเสวียนไม่ได้กล่าวอะไร คิ้วงามขมวดแน่นขณะจับจ้องหานเจวี๋ย

รอยยิ้มมั่นใจปราฏบนใบหน้าของโจวฝาน ทว่าเมื่อเห็นหานเจวี๋ยมุ่งตรงมาหาตนเอง เขาก็ยังหวั่นใจแปลกๆ

คงเพราะมักจะได้ยินโม่ฟู่โฉวคุยโม้ถึงหานเจวี๋ย!

พอนานวันเข้า เขาจึงรู้สึกว่าหานเจวี๋ยแข็งแกร่งมาก

‘วันนี้ข้าจะทำให้เขาพ่ายแพ้ จะผงาดขึ้นในรวดเดียวจนผู้คนตะลึงงัน!’

‘เจ้าคอยดูเถิด ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจภายหลัง จะทำให้เจ้ากระจ่างแจ้งว่าเจ้ามองผิดไป!’

โจวฝานคิดในใจ เมื่อนึกถึงใบหน้างามที่มีรอยยิ้มดุจดอกไม้นั้น เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

เขายกระฆังสีดำใบเล็กขึ้นมา เตรียมพร้อมจะแสดงความสามารถของตนเอง!

เขาเผยรอยยิ้มอันบ้าคลั่ง

‘เป็นบุตรแห่งสวรรค์แล้วอย่างไร!

วันนี้ข้าโจวฝานจะเอาชนะบุตรแห่งสวรรค์อย่างสง่าผ่าเผย!’

ฟิ้ว!

แสงกระบี่สายหนึ่งเปล่งประกาย เจิดจ้าเสียจนโจวฝานต้องหลับตาตามจิตใต้สำนึก

อึก…

โจวฝานถูกโจมตีจนกระอักเลือดลอยออกไป ประหนึ่งว่าวสายป่านขาด กระเด็นออกนอกเวทีประลองเวททันที

เงียบ!

เงียบกริบไปทั้งลานประลอง

ทุกคนอึ้งตะลึง ยังเรียกสติคืนมาไม่ได้

การประลองเวทเริ่มขึ้นแล้วหรือ

การประลองเวทจบลงแล้ว?

แม้แต่เซียนเฒ่าเต้าเหลยที่นั่งคุมการทดสอบฝ่ายในครั้งนี้ก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

หานเจวี๋ยเก็บมือ เงากระบี่ด้านหลังสลายไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏขึ้นมาไม่ถึงสองอึดใจด้วยซ้ำ

เขาหันไปประสานมือโค้งคำนับให้เซียนเฒ่าเต้าเหลย

เซียนเฒ่าเต้าเหลยตั้งสติกลับมาได้ ประกาศว่า “หานเจวี๋ยแห่งยอดเขาหยกวิเวกได้รับชัยชนะ!”

เฮ~

ทั่วทั้งลานประลองพากันฮือฮา เหล่าศิษย์ชายต่างสนทนากัน เหล่าศิษย์หญิงก็มองไปยังหานเจวี๋ยด้วยแววตาเป็นประกาย

“ไวขนาดนี้เชียว?”

“โจวฝานก็ไม่เท่าไรเองนี่!”

“หานเจวี๋ยแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

“หานเจวี๋ยคือผู้ใดกัน ยอดเขาหยกวิเวกมีบุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด”

“เขารูปงามอย่างนี้ หรือว่าเป็นคนผู้นั้นที่บรรดาศิษย์หญิงมักจะพูดถึงกัน?”

หานเจวี๋ยรีบลงจากเวที และหายตัวไปในฝูงชน

เนื่องจากเวทีประลองเวทไม่ได้รับความเสียหายอันใด การประลองเวทรอบที่สองจึงเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า

โจวฝานออกจากฝูงชนไปโดยมีเหล่าศิษย์ยอดเขาอัสนีสวรรค์คอยประคอง

มุมปากของเขายังคงมีรอยเลือด ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาทั้งคู่เลื่อนลอย ขวัญหนีดีฝ่อไปหมด

โจมตีได้รุนแรงเหลือเกิน

เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตนเองแพ้ได้อย่างไร

แต่ชั่วพริบตาที่ถูกสามกระบี่แยกเงาปะทะเข้าใส่ เขาได้กลิ่นของความตาย

เขาเข้าใจแล้วว่าหานเจวี๋ยสามารถสังหารตนเองได้

พริบตาแรก เขายังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

พริบตาต่อมา เขากลับร่วงลงจากเวทีประลองเสียแล้ว

โจวฝานอยากมุดหนีเข้าไปสักที่แทบทนไม่ไหว

เขารู้ว่าตัวเองจะต้องกลายเป็นตัวตลกแน่

ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ สิงหงเสวียน และโม่จู๋อยากตามหาหานเจวี๋ย ทว่าหาเจ้าคนผู้นี้ไม่พบ

หานเจวี๋ยซ่อนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน รับชมการประลองอย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม

การประลองก็ได้ผู้แข็งแกร่งห้าคนสุดท้าย

ศิษย์ทั้งห้าคนต้องจับสลาก คัดเลือกผู้เข้ารอบก่อนออกมา ผู้เข้ารอบก่อนจะเข้าสู่สามอันดับแรกได้เลยทันที

ศิษย์ทั้งหลายไม่มีความเห็นใดๆ มาถึงขั้นนี้แล้ว ศักยภาพของทุกคนล้วนไม่ต่างกันนัก ไม่ว่าใครก็อยู่สามอันดับแรกได้

โชค นับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้บนเส้นทางแห่งการฝึกบำเพ็ญนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ