บทที่ 251 อาณาจักรฟ้าบุพกาล เต้าจื้อจุน!
นักพรตเต๋าชราผู้หนึ่งกำลังเข้าฌานอยู่ในห้องโถงมืดๆ เขาได้ยินเสียงระฆังโบราณดังขึ้น จึงลืมตาขึ้นอย่างอดไม่ได้
“เอ๋ คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลถือกำเนิดอีกแล้วหรือ”
นักพรตเต๋าชรามีสีหน้าประหลาดใจ
“คนผู้นี้มีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลได้อย่างไรกัน แหล่งที่มาของจิตวิญญาณก็ไม่ได้มาจากฟ้าบุพกาล”
นักพรตเต๋าชราพึมพำกับตัวเอง ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
เขาส่ายหน้าหลุดหัวเราะ ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
เสียงระฆังยังคงดังก้องอยู่ในห้องโถง ยาวนานและดังเบาสลับกัน ราวกับว่าห้วงเวลาผันผ่านไปอย่างเงียบงันในเสียงระฆังไร้ร่องรอย
…..
หานเจวี๋ยฝันถึงเรื่องหนึ่ง
เขาฝันว่าเมื่อตื่นขึ้นมา ยังคงอยู่ในบ้านบนโลกเมื่อชาติก่อน เขารู้สึกเวียนหัวและสับสนเป็นอย่างมาก
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็พลันดังขึ้น เป็นหมอที่โทรมาแจ้งว่าผลวินิจฉัยผิดพลาด
ทว่า ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด หานเจวี๋ยกลับไม่รู้สึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย
กลับกลายเป็นความรู้สึกผิดหวังอย่างมาก
หรือว่าการฝึกฝนสองพันปีที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เป็นความฝันฉากหนึ่ง
เมื่อคิดให้รอบคอบแล้ว ก็เหมือนกับฝันฉากหนึ่งจริงๆ เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบำเพ็ญเพียร เรื่องราวที่ประสบพบเจอกลับไม่มากมายนัก
หานเจวี๋ยกลับมามีชีวิตตามปกติทั่วไป เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า น่าเบื่อและเฉื่อยชา
จนกระทั่งคืนหนึ่ง เขามองดูดวงดาราเต็มท้องนภาที่กะพริบพร่างพราว
ระหว่างความมืดมิด เขาเห็นดวงดารากำลังร้องเรียกตน
เมื่อเขาตื่นจากความฝันฉากนี้ หานเจวี๋ยจำได้เพียงว่าความฝันสิ้นสุดลงเมื่อเขาเห็นดวงดาวทุกดวงในท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสว
หานเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมอง สภาพแวดล้อมรอบกายดูโกลาหล เต็มไปด้วยหมอกหนา ไม่มีสิ่งใด ราวกับว่าก่อนที่โลกจะเปิดออกอย่างนั้น
หานเจวี๋ยพบว่าปราณฟ้าบุพกาลภายในร่างกายของเขาพุ่งสูงขึ้น คลุมดวงดาราหลายร้อยล้านดวงไว้ภายใน กดทับพลังเวทไว้
มหามรรคเวียนว่ายตายเกิดติดอยู่ในระหว่างดวงดารา เชื่อมโยงพวกเขาให้เป็นแผนภาพ
แผนที่เวียนว่ายตายเกิด!
หานเจวี๋ยยกมือขวาขึ้น แผนที่เวียนว่ายตายเกิดก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
พลังวิเศษที่ควบแน่นไปด้วยมหามรรคเวียนว่ายตายเกิด!
เรียกได้ว่าเป็นอาวุธวิเศษเลยทีเดียว!
หานเจวี๋ยเก็บมือ บีบแผนที่เวียนว่ายตายเกิดจนแตกซ่าน รอหลังจากกลับไปแล้วค่อยใช้แบบจำลองการทดสอบทดสอบดู
เขาเริ่มพิจารณาไปรอบๆ
ที่นี่คือที่ไหนกัน
เหตุใดถึงไม่มีสิ่งใดเลย
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า
“ยินดีด้วย ท่านปลุกคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลขึ้น ที่นี่คืออาณาจักรฟ้าบุพกาล มีเพียงจิตรับรู้ของสิ่งมีชีวิตฟ้าบุพกาลเท่านั้นที่จะมาถึงที่นี่ได้”
เงาร่างนั้นเดินเข้ามา หานเจวี๋ยไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
หานเจวี๋ยเอ่ยถามว่า “คนที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้มีเยอะหรือไม่”
ที่นี่ก็เหมือนกับแม่น้ำมรรคกระบี่อยู่บ้าง แต่ธรณีประตูของแม่น้ำมรรคกระบี่นั้นต่ำเกินไป
“ไม่มาก ตอนนี้มีเพียงท่านกับข้า”
“เขตห้วงห้ามฮุ่นตุ้นไม่ใช่ว่ามีสรรพสิ่งด้วยหรอกหรือ”
“พวกเขาเป็นเพียงผู้พ่ายแพ้ที่ถูกขับออกไป ไม่ได้ถือกำเนิดจากฮุ้นตุ้น”
“ไม่ทราบนามของท่านคือ?”
“วังเทพ เต้าจื้อจุน ท่านเล่า”
“วังสวรรค์ ซือหม่าอี้”
“อืม ภายภาคหน้าหากมีโอกาสถกมรรค ท่านควรทำพลังมรรคให้เสถียรเสียก่อน”
เต้าจื้อจุนทิ้งคำพูดไว้เท่านี้ ก่อนที่จะจากไป
หานเจวี๋ยกลับเริ่มพยายามจะจากไปบ้าง
ยามที่เขามีความคิดนี้ จิตรับรู้ของเขาก็ร่วงลงในทันที กลับเข้าสู่กายเนื้ออีกครั้ง
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง หานเจวี๋ยก็เห็นทุกอย่างภายในถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยหายใจเข้าลึกๆ ครั้งหนึ่ง
นี่ถึงจะเป็นความจริง!
เขาสามารถสัมผัสได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และความฝันที่จะกลับไปใช้ชีวิตก่อนหน้านี้ก็ดูไร้ค่า ในความฝัน เขาสับสนราวกับศพเดินได้
สีหน้าของหานเจวี๋ยเปลี่ยนไป
ทันใดนั้นเขาก็พลันพบว่าวิญญาณของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง ปราณฟ้าบุพกาลเข้าไปพัวพันกับจิตวิญญาณของเขา และวิญญาณของเขาก็เปล่งประกายแสงแปลกประหลาดออกมาบางๆ
เขาสัมผัสมันได้อย่างละเอียด
ระดับจักรพรรดิ!
ในที่สุดเขาก็ได้คว้ากลิ่นอายพลังของระดับจักรจักรพรรดิได้แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...