บทที่ 289 ศิษย์เอกนิกายเหริน เซียนกระบี่สมบูรณ์แบบ
หานเจวี๋ยปรากฏตัวเบื้องหน้าเจดีย์วิเศษของอวี้เทียนเป่า เขานำกระบี่พิฆาตเทพ กระบี่บุพกาลโลกาสวรรค์ และกระบี่เก้าลักษณ์หมื่นชีวิตออกมาทันที ประกอบกับกระบี่พิพากษาอนธการในมือ ครั้นเมื่อเขาสำแดงค่ายกลกระบี่สังหารเซียนผนึกเจดีย์นี้ไว้ ทำให้อวี้เทียนเป่าหมดหวังที่จะหนีเอาชีวิตรอด
เสียงของอวี้เทียนเป่าดังมาจากในเจดีย์ว่า “หลี่ว์ปู้ เจ้าต้องการฆ่าข้าจริงๆ หรือ ข้าคืออวี้เทียนเป่าจากวังเทพ ทำหน้าที่แทนเจ้าวัง หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าวังจะต้องไม่ปล่อยเจ้าแน่!”
หานเจวี๋ยกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “วังปีศาจของข้ากำลังเหนือกว่าวังเทพ วังสวรรค์ และสำนักพุทธ ไหนเลยจะกลัวเจ้าแห่งวังเทพ เจ้าถือเป็นเรื่องจริงจังหรือ”
“เจ้า…”
อวี้เทียนเป่าโกรธแทบตาย
จะโอหังเกินไปแล้ว!
หากสู้หานเจวี๋ยไม่ได้ เขาจะต้องฉีกศพหานเจวี๋ยเป็นหมื่นๆ ชิ้น ทำลายกายและวิญญาณให้จงได้
หานเจวี๋ยนิ่งเงียบ
อวี้เทียนเป่าก็ตกอยู่ในความเงียบ
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นแปลกพิกล
จนกระทั่งค่ายกลกระบี่สังหารเซียนก่อตัวเสร็จ หานเจวี๋ยเริ่มโจมตีเจดีย์โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ปราณกระบี่และวิชาเวทค่ายกลกระบี่ระเบิดเจดีย์อย่างบ้าคลั่ง แต่เจดีย์นี้แข็งแกร่งยากที่จะตีแตกได้ มันแค่สั่นสะเทือนแต่ไม่ได้แตกร้าว
ภายในเจดีย์
อวี้เทียนเป่าใช่วิชาขอความช่วยเหลือ
“วังปีศาจสมควรตาย!”
อวี้เทียนเป่าแอบสบถด่า รู้สึกวุ่นวายใจมาก
มหาเคราะห์เปิดตัวขึ้นแล้ว ขณะที่การสังหารในแดนเซียนขยายออกไป แรงกรรมฟ้าดินก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนปิดบังกลไกสวรรค์ ทำให้ไม่อาจติดต่อกับเจ้าแห่งวังเทพได้โดยตรง
‘จะทำอย่างไรดี’
“ลนลานไม่ได้ เขาไม่สามารถทำลายเจดีย์ข้าได้!’
อวี้เทียนเป่าคิดเช่นนี้ อารมณ์เริ่มดีขึ้น
เกิดเสียงดังตู๊ม!
เจดีย์แตกกระจุย ความมืดมิดในห้วงอากาศว่างเปล่าเริ่มบดบังการมองเห็นของอวี้เทียนเป่า
อวี้เทียนเป่าเบิกตากว้าง และตะโกนด้วยความหวาดกลัว “เป็นไปได้อย่างไร! นี่เป็นถึงยอดสมบัติมรรคจักรพรรดินะ!”
หานเจวี๋ยปรากฏตัว และกล่าวเหยียดหยาม “ยอดสมบัติมรรคจักรพรรดิแล้วอย่างไร”
‘ที่ข้าใช้คือพลังวิเศษระดับเทพ!’
หานเจวี๋ยโบกแขนเสื้อ ค่ายกลกระบี่สังหารเซียนยังคงระเบิดต่อเนื่อง ปราณกระบี่น่าสะพรึงโหมกระหน่ำอยู่ภายในค่ายกลกระบี่ อวี้เทียนเป่าไม่ทันได้กล่าวคำพูดโหดเหี้ยมหรือร้องขอชีวิต ทำได้เพียงตั้งรับ
น่าเสียดาย เขาเป็นแค่จักรพรรดิเซียนห้าวัฏ ไม่อาจรับมือได้เลย
ชั่วเวลาไม่ถึงสองอึดใจ กายและวิญญาณของอวี้เทียนเป่าก็ถูกทำลาย
ก่อนสลายเขาตะโกนด้วยความอาฆาตแค้น “หลี่ว์ปู้ เจ้าคอยดูเถิด แค้นนี้ไม่ชำระไม่เลิกราอย่างแน่นอน!”
[อวี้เทียนเป่าเกิดความเกลียดชังในตัวท่าน ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]
อักขระแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ‘หรือเจ้าหมอนี่จะทิ้งเสี้ยววิญญาณไว้ที่วังเทพเพื่อรักษาชีวิต
ฮึ! เจ้าคิดว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขหรือ’
หานเจวี๋ยยิ้มเหยียดหยาม และเก็บกระบี่เตรียมจะจากไป
เขาเพิ่งหมุนตัวกลับ ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายน่าหวาดกลัวที่ปิดล้อมเขาไว้
แม้แต่จักรพรรดิเซียนสามวัฏอย่างหานเจวี๋ยก็อดผวาไม่ได้
‘แย่แล้ว! หรือจะเป็นเจ้าแห่งวังเทพ’
หานเจวี๋ยขยับตัวอย่างรวดเร็ว หายวับไปทันที
ทว่าไม่ว่าจะหนีไปที่ใด กลิ่นอายน่าหวาดกลัวนั้นก็ปิดล้อมเขาตลอด เวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงเงามืดในใจอวี้เทียนเป่าก่อนหน้านี้
“อย่าหนีเลย ข้าไม่ได้จะฆ่าเจ้า”
น้ำเสียงอบอุ่นดังขึ้นมา พอหานเจวี๋ยได้ยินแล้วก็หยุดลงทันที
ฝ่ายตรงข้ามกล่าวเช่นนี้แล้ว เขาทำได้แค่ฟังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ฝ่ายตรงข้ามโมโห
หานเจวี๋ยมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง เงาร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขา
เป็นบุรุษชุดเขียวที่สะพายกระบี่วิเศษไว้ข้างเอว
บุรุษชุดเขียวสังเกตดูหานเจวี๋ยและถามหยอกล้อว่า “ทำไมเจ้าถึงเป็นวิชามรรคกระบี่เทียมฟ้า”
หานเจวี๋ยแอบตกใจ ไม่รู้ควรตอบอย่างไรดี
“จักรพรรดิสวรรค์ถ่ายทอดให้เจ้าหรือ” บุรุษชุดเขียวถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องตื่นเต้นไป มรรคกระบี่เทียมฟ้าคือวิชาที่ข้าถ่ายทอดให้จักรพรรดิสวรรค์ ในวังสวรรค์มีแค่ตี้ไท่ไป๋ที่สืบทอดมรรคกระบี่เทียมฟ้า แต่มรรคกระบี่ของเขาอ่อนมาก ประกอบกับเคยสละมรรคผลเซียนกระบี่เพื่อวังสวรรค์ เขาไม่อาจถ่ายทอดมรรคกระบี่เทียมฟ้าให้คนอื่นได้ คงเป็นจักรพรรดิสวรรค์แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...