บทที่ 293 เทพตกต่ำ สาปแช่งให้บ้า
ข้าควบคุมมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตหรือ ใครกำลังใส่ร้ายข้าอยู่กัน
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว แพะรับบาปนี้หนักเกินไป เขาไม่อาจรับได้
“ใครเป็นคนพูดเรื่องเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ” หายเจวี๋ยถาม
ตี้ไท่ไป๋ตอบ “เป็นใครไม่รู้แน่ชัด แต่ว่ากันว่ากลุ่มอิทธิพลใหญ่ต่างๆ ล้วนถูกหนังสือวิเศษที่ลึกลับเล่มหนึ่งสาปแช่ง นานวันเข้า ทุกคนต่างก็รู้ว่าหลังฉากนั้นมีผู้ทรงพลังวางอุบายอยู่ เช่นนั้นถึงได้เรียกเขาว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ แต่เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าแดนต้องห้ามอันธการนั้นสาปแช่งแค่กลุ่มอิทธิพลใหญ่”
หานเจวี๋ยนิ่งเงียบ
ตี้ไท่ไป๋มีธุระ จึงตัดการเชื่อมต่อพลังจิตอย่างรวดเร็ว
หานเจวี๋ยยังตกอยู่ในสภาพมึนงง
เหตุใดเขาถึงกลายเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้ เหตุใดถึงกลายเป็นมือมืดที่ผลักดันมหาเคราะห์ไร้ขอบเขต
ฟ้าเห็นยังต้องสงสาร เห็นชัดๆ ว่าเขาหวาดกลัวการเปิดตัวของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตที่สุด!
สมควรตาย!
นี่ก็คือผลกรรม นี่ก็คือลิขิตฟ้าหรือ
หานเจวี๋ยมองไปทางอู้เต้าเจี้ยน อู้เต้าเจี้ยนกำลังฝึกบำเพ็ญอยู่ ไม่ได้ยินการสนทนาทางจิตระหว่างหานเจวี๋ยกับตี้ไท่ไป๋
แต่ว่าเขายังคงไม่วางใจ
เขากล่าวว่า “เจ้ามานี่หน่อย”
อู้เต้าเจี้ยนลืมตาลุกขึ้นเดินมาตรงหน้าหานเจวี๋ยโดยที่ไม่ต้องคิด
หานเจวี๋ยดึงมือนางขึ้นมา ใบหน้าสวยของนางพลันแดงก่ำในพริบตา
นายท่านจูงมือข้าแล้ว!
สมองของอู้เต้าเจี้ยนว่างเปล่า รู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย
หานเจวี๋ยเอ่ยปาก “ข้าจะลบความทรงจำบางส่วนของเจ้าออกไป ได้หรือไม่”
อู้เต้าเจี้ยนได้ยินก็ตกใจทันที ถามอย่างกังวลว่า “ความทรงจำอันใดหรือ”
“แค่ความทรงจำบางส่วนเท่านั้น เจ้าจะไม่ลืมข้า และก็ไม่ลืมคนอื่นด้วย”
“เช่นนั้น…ก็ได้…”
เมื่อเผชิญหน้ากับหานเจวี๋ย อู้เต้าเจี้ยนไม่อาจปฏิเสธได้
แม้นางจะงุนงง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ
หานเจวี๋ยรีบแสดงพลังดูดวิญญาณหกสายทันที เตรียมลบหนังสือแห่งความโชคร้ายในความทรงจำของอู้เต้าเจี้ยนออกไปทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคนอื่นค้นพบ
ตอนนี้เขาคือเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ สถานะอ่อนไหวยิ่งนัก จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าในมือของเขามีหนังสือแห่งความโชคร้ายอยู่
หลังจากนี้เวลาสาปแช่งคนยังต้องไล่อู้เต้าเจี้ยนออกไปด้วย
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
หานเจวี๋ยคลายมือลง อู้เต้าเจี้ยนลืมตาขึ้น
อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ท่านลบความทรงจำส่วนหนึ่งของข้าไปแล้วหรือ”
เหตุใดนางถึงไม่รู้สึกว่าความทรงจำอะไรหายไปเลยเล่า
ถึงอย่างไรหานเจวี๋ยก็สาปแช่งเพียงแค่สิบปีครั้งเท่านั้น หนังสือแห่งความโชคร้ายไม่ได้มีความสำคัญอะไรในความทรงจำของนาง
“อืม เจ้าไปฝึกบำเพ็ญก่อนเถอะ” หานเจวี๋ยพยักหน้ากล่าว
อู้เต้าเจี้ยนได้แต่ระงับความสงสัยและหมุนกายกลับไปฝึกบำเพ็ญ
หานเจวี๋ยสูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที ปรับสภาพจิตใจแล้วฝึกบำเพ็ญต่อ
‘ต่อไปยามจะสาปแช่งศัตรูต้องระมัดระวังให้มากขึ้น’
หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ
ตอนนี้ยังดีที่ศัตรูมีเพียงไม่กี่คน หากมีเพิ่มขึ้นมาอีก และหากคนเหล่านี้ปรึกษาเชื่อมโยงกัน ไม่แน่อาจจะอนุมานได้ว่าเขาคือมือสังหารหลังฉาก
ถุย!
อะไรที่เรียกว่ามือสังหารหลังฉาก
หานเจวี๋ยไม่อยากคิดให้มากอีก จึงเปิดอ่านจดหมาย
[สิงหงเสวียนคู่บำเพ็ญเพียรของท่านกลับชาติไปเกิดสำเร็จ ได้รับดวงชะตาแต่กำเนิด–สายเลือดศักดิ์สิทธิ์เหยี่ยวทอง]
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลัง จิตใจได้รับบาดเจ็บ มรรคจิตถูกยั่วยุ]
[หวงจุนเทียนสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากศิษย์นิกายเจี๋ย] x16
[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลัง]
[โจวฝานสหายของท่านได้สืบทอดมหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต]
[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านได้สืบทอดมหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต]
[จี้เซียนเสินสหายของท่านได้สืบทอดปรมาจารย์มาร พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน ดูดซับแรงกรรมยมโลก]
[เจียงอี้สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากหลี่เสวียนเอ้าศัตรูคู่อาฆาตของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
……
คือบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์นั่นเอง!
พระกษิติครรภ์เล่าเรื่องจี้เซียนเสินด้วยสีหน้าเศร้าสลด
บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ขมวดคิ้ว
พระกษิติครรภ์ถามด้วยความเจ็บปวด “บรรพชนพุทธ ท่านบอกว่าเขาเป็นผู้ฝ่าเคราะห์ไม่ใช่หรอกหรือ”
บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์แค่นเสียงเย็นกล่าวว่า “เจ้ากำลังโทษข้าอยู่หรือ ไม่ใช่เจ้าหรอกหรืออย่างไรที่ไม่มีความสามารถในการอนุมานชะตากรรมของเขา หากข้าอยู่ที่นี่จะต้องคำนวณได้ทะลุปรุโปร่งแน่”
พระกษิติครรภ์ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ครั้งนี้ก็ดีนัก จี้เซียนเสินถูกบีบจนเป็นบ้า พอเขาคลั่งขึ้นมา การสังหารล้างบางที่เขาสร้างขึ้นจะต้องมีแรงกรรมส่วนหนึ่งตกอยู่บนตัวเขา
หากจี้เซียนเสินเป็นคนธรรมดายังพอว่า แต่เขาเป็นเทพที่มรรคาสวรรค์ยอมรับ เท่ากับว่าพระกษิติครรภ์ลอบกัดมรรคาสวรรค์ ย่อมถูกมรรคาสวรรค์พุ่งเป้า
ทำลายกฎ จะต้องถูกกฎลงโทษ!
“บางทีนี่ก็คือมูลเหตุที่ก่อให้เกิดผู้ฝ่าเคราะห์ ไม้กลายเป็นเรือไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียใจที่กระทำผิด เรื่องนี้รีบรายงานกับท่านพญายม ข้าเองก็จะบอกเรื่องนี้ให้กับกลุ่มอิทธิพลอื่น”
บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านี้ก่อนจะหายไป
พระกษิติครรภ์หายใจเข้าลึกๆ เพียงครั้ง ก่อนค่อยๆ ลุกขึ้นมา
แววตาของเขาเลื่อนลอย
“ข้าผิดไปแล้วจริงๆ หรือ”
……
สิบปีต่อมา
ตบะของหานเจวี๋ยเพิ่มพูนขึ้นไม่น้อย แต่ว่ายังห่างจากการทะลวงระดับจักรพรรดิเซียนสี่วัฏอีกไกล ระดับจักรพรรดิไม่ได้ฝึกบำเพ็ญอย่างง่ายดายเช่นนั้น
ยอดแม่ทัพเทพมีพรสวรรค์ระดับใด กี่ล้านปีแล้ว ยังเป็นจักรพรรดิเซียนอยู่เลย
หานเจวี๋ยให้อู้เต้าเจี้ยนออกไป เขากลับนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาสาปแช่งเพียงลำพัง
นี่เป็นการสาปแช่งครั้งแรกหลังจากหนังสือแห่งความโชคร้ายถูกยกระดับ
สมบัติวิญญาณระดับเทพ จะสามารถสาปแช่งจักรพรรดิเซียนให้ตายได้หรือไม่
เป้าหมายแรกของหานเจวี๋ยย่อมเป็นจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต
‘ฮึ อย่างน้อยก็ต้องสาปแช่งเจ้าให้เป็นบ้า!’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ เขารีบส่งพลังเวทลงไปในหนังสือแห่งความโชคร้าย หนังสือแห่งความโชคร้ายเปล่งแสงสีดำแปลกประหลาดตามมา สาดสะท้อนอยู่บนใบหน้าของหานเจวี๋ย ใบหน้าหล่อเหลาจนกระทั่งเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบของเขาดูมืดมนและชั่วร้ายขึ้นมา
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...