ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 303

สรุปบท บทที่ 303 ยอดสมบัติแรงกุศล งานเฉลิมฉลองจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปเนื้อหา บทที่ 303 ยอดสมบัติแรงกุศล งานเฉลิมฉลองจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ – ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

บท บทที่ 303 ยอดสมบัติแรงกุศล งานเฉลิมฉลองจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 303 ยอดสมบัติแรงกุศล งานเฉลิมฉลองจากเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

หลังจากที่เจียงอี้ถูกไล่ออกมา การต่อสู้ก็ยังไม่สิ้นสุดลง หากแต่ยิ่งน่าตื่นเต้นมากกว่าเดิม

เหล่าผู้แข็งแกร่งจากทุกสารทิศทยอยกันลงมือทีละคน รวมไปถึงจี้เซียนเสินด้วย แต่ละคนต่างพากันล้อมโจมตีบุรุษร่างใหญ่ของเผ่าจอมเวท

มือซ้ายของบุรุษร่างใหญ่ของเผ่าจอมเวทถือเจดีย์บรรพชนจอมเวทเอาไว้ ต่อสู้ด้วยหมัดขวาข้างเดียว มาเท่าไร เขาก็ต่อยออกไปเท่านั้น

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะยั้งแรงไว้ แม้จะเป็นเซียนลึกล้ำไท่อี่ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อยอีกฝ่ายจนตาย

หานเจวี๋ยสบโอกาส แปลงกายให้เหมือนกับรูปร่างหน้าตาของจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุต บุกเข้าไปสังหารบุรุษร่างใหญ่ของเผ่าจอมเวททันที

ภายใต้การปกปิดของระบบ กลิ่นอายพลังของเขายังคงเป็นเซียนแท้ไท่อี่อยู่ตลอด บุรุษร่างใหญ่ของเผ่าจอมเวทก็ไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตา

เมื่อเผชิญหน้ากับหานเจวี๋ย บุรุษร่างใหญ่เผ่าจอมเวทซัดหมัดต่อยออกไป

ทว่า!

หานเจวี๋ยพลันหายตัวไปในทันที วาบไปปรากฏที่ข้างกายของบุรุษร่างใหญ่เผ่าจอมเวท และฟันกระบี่ออกไป

ยอดปราณกระบี่!

ปราณกระบี่กระแทกเข้ากับบุรุษร่างใหญ่เผ่าจอมเวทจนกระอักเลือดลอยกระเด็นออกไปในทันที หานเจวี๋ยตวัดแขนเสื้อนำเจดีย์บรรพชนจอมเวทออกไป จากนั้นค่อยใช้พลังวิเศษทยานออกจากยมโลก

เมื่อบุรุษร่างใหญ่ของเผ่าจอมเวททรงตัวได้มั่น ก็พลันเบิกตากว้าง โกรธจัดจนไม่อาจระบาย

หานเจวี๋ยออมมือแล้ว ไม่เช่นนั้นคงได้ปลิดชีพเขาในฉับพลัน

บุรุษร่างใหญ่เผ่าจอมเวทคำรามออกมาอย่างเดือดดาล โกรธเคืองเป็นอย่างมาก

จี้เซียนเสินตกตะลึง กล่าวพึมพำว่า “เจดีย์บรรพชนจอมเวทถูกแย่งไป?”

ช้าก่อน!

เมื่อครู่คนผู้นั้นก็ไม่ใช่จักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตหรอกหรือ

แต่เจ้าหมอนั่นตายไปแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร

แต่จี้เซียนเสินเห็นกับตาตัวเองว่าจักรพรรดิเทพอีกาทองมหาวิมุตถูกหานเจวี๋ยปลิดชีพในฉับพลัน แล้วเหตุใดถึงปรากฏกายได้อีก

หรือว่าเป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับเขา?

หานเจวี๋ยเคลื่อนกายไปมาในห้วงอากาศว่างเปล่าเป็นเวลาหลายสิบครั้งเต็มๆ ก่อนที่เขาจะกระโดดเข้าสู่ยมโลกในทันที หลบหนีเข้าไปในเกาะสำนักซ่อนเร้น

กระบวนการนี้ฟังดูซับซ้อน แต่ความเป็นจริงแล้วใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น

เมื่อกลับมายังเกาะสำนักซ่อนเร้น มีอาณาเขตเต๋าที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ผู้ทรงพลังของเผ่าจอมเวทคงจะคำนวณไม่พบเจดีย์บรรพชนจอมเวท

อาณาเขตเต๋าสามารถปิดกั้นพลังจิตของต้าหลัวได้ เผ่าจอมเวทโดดเดี่ยวเพียงลำพัง จะมีการดำรงอยู่ของต้าหลัวอีกได้อย่างไรกัน

หานเจวี๋ยมาถึงเบื้องหน้าของถูหลิงเอ๋อร์ นำเจดีย์บรรพชนจอมเวทออกมา

ทันใดนั้น เจดีย์บรรพชนจอมเวทก็เปล่งประกายแสงออกมา สาดลงบนร่างของถูหลิงเอ๋อร์ ถูหลิงเอ๋อร์ที่กำลังนอนขุดคู้อยู่ก็หยุดลง หลังจากนั้นก็เหินทะยานขึ้น ถูกดูดเข้าไปภายในตัวเจดีย์บรรพชนจอมเวททันที

ผู้คนต่างประหลาดใจ

จอมปีศาจคุกรัตติกาลประชิดเข้าใกล้ เอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “หรือนี่ก็คือเจดีย์บรรพชนจอมเวทยอดสมบัติของเผ่าจอมเวทในตำนาน?”

หานเจวี๋ยเหลือบมองเขาแล้วถามว่า “เจ้ารู้จักที่มาของเจดีย์บรรพชนจอมเวท?”

“อือ ก่อนหน้าที่มหาเคราะห์ไร้ขอบเขตครั้งนั้นจะสิ้นสุดลง บรรพชนจอมเวทร่วงโรยทั้งหมด บรรพชนจอมเวทรุ่นหลังที่กลายเป็นวิญญาณกลับชาติมาเกิดได้ส่งคนในเผ่าทั้งหมดเข้าไปในเจดีย์บรรพชนจอมเวท เดิมทีต้องการปกป้องพวกพ้อง แต่มรรคาสวรรค์ไม่อนุญาต ใช้อานุภาพแห่งแรงกุศลไร้ขอบเขตปราบเจดีย์บรรพชนจอมเวท ในเวลานั้นเผ่าจอมเวทล้วนมีแรงกรรมอยู่เต็มตัวไปหมด เมื่อเผชิญหน้ากับแรงกุศลของมรรคาสวรรค์ก็ถูกชำระล้างในทันที ล้วนตัวตายมรรคผลสลายไปทั้งหมด และเจดีย์บรรพชนจอมเวทเองก็กลายเป็นยอดสมบัติแรงกุศลในเวลาต่อมา”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลกล่าวอย่างทอดถอน สำหรับเขาตำนานเล่าขานนี้ก็เก่าแก่มากอย่างไร้ที่เปรียบ นานแสนนานจนกระทั่งเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

หานเจวี๋ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจดีย์นี้ควรจะเป็นสุสานของเผ่าจอมเวท เหตุใดถึงกลายเป็นยอดสมบัติของเผ่าจอมเวทได้”

จอมปีศาจคุกรัตติกาลตอบว่า “แม้เผ่าจอมเวทจะตายในเจดีย์บรรพชนจอมเวท แต่เผ่าจอมเวทสามารถพึ่งพาเจดีย์บรรพชนจอมเวทเพื่อยกระดับสายเลือดของจอมเวท แม้กระทั่งย้อนไปถึงบรรพบุรุษ เผ่าจอมเวทที่เหลือรอดต่อมาจนถึงปัจจุบันล้วนแต่เป็นเลือดผสมระหว่างเผ่าจอมเวทในสมัยโบราณกับเผ่ามนุษย์ ไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้

หานเจวี๋ยยิ่งสับสนมากกว่าเดิม

สมบัติเช่นนี้ เผ่าจอมเวทปล่อยมันออกมาได้อย่างไรกัน

หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบกล่องจดหมายในทันที

เป็นไปตามคาด เขาพบจดหมายฉบับหนึ่ง

[ยายเมิ่งสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนเผ่าปีศาจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ได้ผู้ทรงพลังจากยมโลกช่วยเหลือไว้]

ท่านยายเมิ่งได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว!

ครั้งนี้ถูกโจมตีจากจักรพรรดิเซียน ดูท่าวังปีศาจกำลังจับตาดูเผ่าจอมเวทอยู่

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

คนอื่นๆ กำลังล้อมรอบเจดีย์บรรพชนจอมเวท พากันชี้มือชี้ไม้พยักพเยิด

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง

เสียงของถูหลิงเอ๋อร์ลอยออกมาจากด้านในเจดีย์บรรพชนจอมเวท “อาจารย์ ข้าไม่เป็นไร สมบัติชิ้นนี้ยอมรับข้าเป็นเจ้าของแล้ว ข้า…ละอายใจต่อท่าน…รอกระทั่งข้าออกมาแล้ว ท่านก็รับกลับไปเถิดเจ้าค่ะ”

หานเจวี๋ยยิ้มและเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร สมบัตินี้เป็นของพวกเจ้าเผ่าจอมเวท มันเป็นของเจ้า”

เขาก็ไม่คิดอยากได้สมบัติชิ้นนี้ เลี่ยงไม่ให้พัวพันกับผลกรรมใหญ่หลวง

“เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายสู่ภายนอก เข้าใจหรือไม่” หานเจวี๋ยกล่าวกำชับ

โจวหมิงเยวี่ยแบมือกล่าว “พวกเราก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกอยู่แล้ว คิดอยากแพร่งพรายก็ไร้โอกาส”

ผัวะ!

หลังจากนั้นห้าวัน หานเจวี๋ยก็เริ่มผลาญอายุขัย เขาเพิ่มพลังเวทให้มากขึ้นอีก

เขาสาปแช่งไปพลางเรียกดูหน้าต่างค่าสถานะ เมื่อเห็นอายุขัยที่ลดลง ก็รู้สึกจนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้

……

วังสวรรค์ ภายในสวนพฤกษศาสตร์

จักรพรรดิสวรรค์และบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์กำลังสนทนาหารือกันอยู่ ในเวลานั้นเอง สีหน้าของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

สมควรตาย!

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการกลับมาอีกแล้ว!

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์รีบเคลื่อนย้ายลมปราณ ระงับพลังแห่งคำสาปนี้ในทันที

จักรพรรดิสวรรค์ถามด้วยความประหลาดใจ “บรรพชนพุทธ เจ้าเป็นอะไรไป”

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ฝืนยิ้มและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ศิษย์สำนักพุทธกำลังประสบปัญหา ขอข้าเวลาคิดสักหน่อย ท่านรอสักครู่”

จักรพรรดิพยักหน้า จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาดื่มสุราของตนเอง

ตามเวลาที่ผ่านพ้นไป สีหน้าของบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก็ยิ่งดูทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ

‘แย่แล้ว! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการแผลงฤทธิ์แล้ว!’

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ลอบสบถ เขาถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการปั่นประสาทจริงๆ ด้วย

ก่อนหน้านี้เขาเคยเย้ยหยันจักรพรรดิปีศาจว่ามรรคจิตไม่มั่นคง ทว่าตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดจักรพรรดิปีศาจถึงได้บ้าคลั่งเพียงนั้น

ที่แท้พลังแห่งคำสาปแช่งของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการก็รุนแรงมาก ก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงการหยั่งเชิงเท่านั้น

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ถึงกลับทำให้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งเขาถึงเพียงนี้?

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ไม่เข้าใจ

เขาเหลือบสายตามองไปที่จักรพรรดิสวรรค์ ถามว่า “จริงสิ ฝ่าบาท ท่านก็ไม่เคยถูกเจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งมาก่อนเลยหรือ”

จักรพรรดิสวรรค์วางจอกสุราลง เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เหตุใดจะไม่เคย ตอนนี้เราก็ไม่กล้าฝึกบำเพ็ญด้วยซ้ำ”

‘อ้อ? เจ้าหมอนี่ก็ถูกสาปอีกแล้วหรือ

มิน่าเล่าสีหน้าถึงได้ย่ำแย่เพียงนี้’

จักรพรรดิสวรรค์ลอบคิดกับตัวเอง

ความจริงแล้วเขาก็ไม่เคยถูกสาปแช่งมาก่อน แต่หากเขาพูดออกไป นั่นก็ชัดเจนว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธการมาจากวังสวรรค์ ง่ายต่อการตกเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มคนนัก

……………………………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ