ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 327

สรุปบท บทที่ 327 วังเทพผลัดนาย เจ้านิกายเจี๋ย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

สรุปตอน บทที่ 327 วังเทพผลัดนาย เจ้านิกายเจี๋ย – จากเรื่อง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet

ตอน บทที่ 327 วังเทพผลัดนาย เจ้านิกายเจี๋ย ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 327 วังเทพผลัดนาย เจ้านิกายเจี๋ย

หลังจากสาปแช่งเจ้าแห่งวังเทพ เวลาล่วงเลยไปประมาณครึ่งปี จักรพรรดิสวรรค์ก็ติดต่อมาหาหานเจวี๋ย

เมื่อทราบว่าเต้าจื้อจุนเข้าร่วมกับวังสวรรค์แล้ว หานเจวี๋ยจึงพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ฝ่าบาท ข่าวนี้ไม่เลวเลย จะกล่าวว่าข้าไม่มีความดีความชอบในการก่อร่างสร้างวังสวรรค์ ไม่ได้ตอบแทนวังสวรรค์ไม่ได้แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ!” หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เขาตอบแทนไปมหาศาลนักแต่บอกออกไปไม่ได้!

อย่างไรเสียก็เกี่ยวพันถึงความลับของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ

จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เลวเลยจริงๆ เต้าจื้อจุนศักยภาพไร้ขีดจำกัด ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นป้ายโฆษณาอย่างหนึ่ง วังเทพขึ้นชื่อลือชาในด้านการปกป้องดูแลบุตรแห่งสวรรค์มาโดยตลอด ทว่าแม้แต่เต้าจื้อจุนก็ยังหนีแล้ว ขวัญกำลังใจทุกผู้ทุกคนต้องสั่นคลอนอย่างแน่นอน”

จักรพรรดิสวรรค์เริ่มคาดหวังตั้งตาคอยอนาคตของวังสวรรค์อย่างเต็มที่

การเข้าร่วมของเต้าจื้อจุนถือเป็นการเดินหมากที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ!

จักรพรรดิสวรรค์ยิ้มพลางเอ่ยต่อว่า “เต้าจื้อจุนอยากพบเจ้ามาก เจ้าจะมาที่วังสวรรค์หรือไม่”

“ช่างเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้ากำลังยุ่งกับการฝึกบำเพ็ญ”

“หึ ก็รู้อยู่แล้ว!”

จักรพรรดิสวรรค์ไม่เอ่ยอะไรมากอีก ตัดการเชื่อมต่อพลังจิตทันที

หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญต่อไปด้วยด้วยจิตใจที่เบิกบาน

เรื่องนี้นับว่าได้ข้อสรุปแล้ว ในที่สุดหานเจวี๋ยก็สามารถฝึกบำเพ็ญได้อย่างสบายใจ

ไม่มีเรื่องคาใจใดๆ การฝึกบำเพ็ญถึงจะเร็วขึ้น!

ยามที่อยู่ในตำหนักเอกอนันต์ หานเจวี๋ยไม่เพียงแต่ฝ่าทะลวงถึงระดับจักรพรรดิเซียนหกวัฏเท่านั้น แต่ตบะก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อผนวกรวมเข้ากับระยะเวลาหลังจากที่กลับมานี้ เขาก็อยู่ห่างจากระดับจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏไม่ไกลแล้ว

หลังจากทะลวงถึงระดับจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏ ก็อยู่ไม่ไกลจากระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ

หลังจากบรรลุระดับจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ ก็อยู่ไม่ไกลจากระดับเทพแล้ว!

เมื่อบรรลุระดับเทพได้ ต้าหลัวจะยังห่างไกลอีกหรือ

เพียงแค่คิด หานเจวี๋ยก็ตื่นเต้นยิ่งนัก

….

ณ ตำหนักใหญ่หลังหนึ่ง เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ของประดับตกแต่งทั้งหมดภายในตำหนักล้วนหล่นลงมาพังระเนระนาด

“น่าชัง! น่าชังยิ่งนัก! อ๊าก…”

เจ้าแห่งวังเทพคำรามเสียงดังก้อง เส้นผมเขาหลุดลุ่ยกระจัดกระจาย ในดวงตาเต็มไปด้วยเส้นโลหิต

“จักรพรรดิสวรรค์! เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ! หากข้าไม่สังหารพวกเจ้า ข้าจะขอสละมรรคที่บำเพ็ญชั่วชีวิต!”

เจ้าแห่งวังเทพ โกรธเกรี้ยวเหลือจะทน

หลังจากคำรามอยู่สักพัก เขาก็จำเป็นต้องเดินลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บต่อ

พลังแห่งคำสาปแช่งของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการรุนแรงเหลือเกิน ก่อนหน้านี้แทบจะทำให้มารในใจของเขาปรากฏออกมาแล้ว ประกอบกับเมื่อได้ทราบข่าวว่าเต้าจื้อจุนเข้าร่วมกับวังสวรรค์ โทสะก็โจมตีจิตใจ ทำให้บาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก

เวลานี้ สายลมหอบหนึ่งพัดเข้ามาในตำหนัก จำแลงกายเป็นบุรุษชุดขาวผู้หนึ่ง

บุรุษชุดขาวจ้องมองเจ้าแห่งวังเทพนิ่ง เอ่ยขึ้นเสียงขรึมว่า “ศิษย์น้อง เต้าจื้อจุนถูกเจ้าบีบคั้นจนหนีไปหรือ”

ทันทีที่เจ้าแห่งวังเทพเห็นเขา สีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย กัดฟันเอ่ยว่า “ข้าไม่ได้บีบคั้นเขา!”

“เขาถูกจักรพรรดิปีศาจจับตัวไป เหตุใดเจ้าไมไปช่วยเหลือ เป็นไปไม่ได้กระมังที่เจ้าจะทราบเรื่องนี้ช้ากว่าวังสวรรค์”

“ข้า…ข้าเพียง…”

สีหน้าเจ้าแห่งวังเทพ เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวคล้ำ บอกเล่าข้อตกลงระหว่างตนและจักรพรรดิปีศาจออกมา

บุรุษชุดขาวเอ่ยด้วยความโกรธ “เหลวไหล พื้นที่สามอาณาจักรก็นำมาเทียบกับผู้มีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลได้หรือ เมื่อมหาเคราะห์สิ้นสุดลง อาณาจักรมากน้อยเพียงใดล้วนแต่ไร้ประโยชน์ ต่างจะเต็มไปด้วยกองกระดูกขาวโพลน!

ส่วนผู้มีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลมีความหมายอย่างไรน่ะหรือ อย่างน้อยก็ไปถึงระดับต้าหลัวได้!

แม้วังเทพจะแข็งแกร่ง แต่จะมีต้าหลัวสักกี่คนกัน”

เจ้าแห่งวังเทพถูกต่อว่าจนรู้สึกคับข้องหมองใจเป็นอย่างยิ่ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเริ่มทนไม่ไหวเอ่ยขึ้นว่า “บุตรแห่งสวรรค์ของวังเทพมีมากมายปานนี้ ข้าก็ให้เขาอดทนไว้สักพันปีเท่านั้น แต่เขากลับทรยศต่อวังเทพ นี่หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ จิตใจเขาแปรผันแล้ว!

วังเทพทุ่มเทจิตใจเพื่อเต้าจื้อจุนมากมายเพียงใด เพื่อการใหญ่ของวังเทพ ทนอยู่สักพันปีจะเป็นอะไรไป”

ครืน!

บุรุษชุดขาวกระทืบเท้าอย่างรุนแรง อำนาจกดดันอันน่าสะพรึงท่วมทับร่างเจ้าแห่งวังเทพ กดทับจนเขาหน้าเปลี่ยนสี

บุรุษชุดขาวเอ่ยเสียงเยียบเย็น “ดูเหมือนตำแหน่งเจ้าแห่งวังเทพนี้จะไม่เหมาะจะยกให้เจ้าครอบครองแล้ว นับจากวันนี้ไป ข้าจะรับผิดชอบวังเทพเอง!”

เจ้าแห่งวังเทพเผยสีหน้าไม่ยินยอม ทว่าไม่กล้าโต้แย้ง

….

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นยี่สิบเจ็ดปี

การจัดประลองภายในสำนักซ่อนเร้นสิ้นสุดลงอีกครั้ง ลี่เหยามีชัยเหนือศิษย์ทุกคน คว้าอันดับหนึ่งอีกครั้ง

น่าสนใจอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยเอ่ยไปว่า “เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด เจ้าก็พยายามพิสูจน์จักรพรรดิเซียนให้ได้ในเร็ววันเล่า”

ลี่เหยาพยักหน้ารับ

หานเจวี๋ยโบกมือเป็นการบอกให้นางออกไป

มองลี่เหยาแล้ว หานเจวี๋ยปลงอนิจจังอยู่ในใจยิ่งนัก

อันที่จริงเขาไม่ได้มีความรู้สึกดีต่อลี่เหยาเช่นเดียวกับที่มีต่อสิงหงเสวียน เขาเพียงหวังจะมีคู่บำเพ็ญสักคนที่สามารถร่วมเดินบนเส้นทางแห่งการบำเพ็ญไปพร้อมกับตนได้

มองจากสถานกาณ์ในตอนนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิงหงเสวียน หรือว่าเซียนซีเสวียนและฉางเยวี่ยเอ๋อร์ ล้วนไม่สามารถไล่ตามระดับตบะของเขาทัน

หานเจวี๋ยพยามยามช่วยเหลือสิงหงเสวียนอย่างเต็มที่แล้ว แต่การพยายามเต็มที่ไม่ได้แปลว่าจะทำได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นจักรพรรดิสวรรค์และจักรพรรดิปีศาจจะชุบเลี้ยงสนมชายาระดับจักรพรรดิเซียนได้มากมากเพียงใดเล่า

เซียนทองไท่อี่ยังพอว่า แต่ระดับจักรพรรดิสิถึงจะเป็นด่านยากขนานแท้ พึ่งพาได้เพียงตน

หานเจวี๋ยไม่คิดมากอีก ฝึกบำเพ็ญต่อ

‘ก็ไม่รู้ว่าหลังจากทะลวงถึงระดับจักรพรรดิเซียนเจ็ดวัฏแล้ว อายุขัยจะเพิ่มขึ้นมากมายเพียงใด’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดด้วยความคาดหวัง

….

แดนเซียน ณ โพ้นทะเล

จิ่งเทียนกงเหยียบกระบี่เหินฟ้า ด้านหน้าคือหมู่เกาะแห่งหนึ่ง หมอกเซียนอบอวล บดฟ้าบังตะวัน วิหคเซียนเรียงแถวโบยบิน ลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนเหาะทะยานไปมา

ที่นี่ก็คือพื้นที่อาณาเขตเต๋าของนิกายเจี๋ย!

จิ่งเทียนกงเหาะไปเรื่อยๆ มาถึงภายในป่าแห่งหนึ่งก็เดินหน้าต่อไป คุกเข่าลงคารวะหน้าประตูศิลาบานหนึ่ง

ด้านหลังประตูศิลาไร้ซึ่งขุนเขา มันตั้งอยู่บนพื้นที่โล่งท่ามกลางพงไพรอย่างเดียวดาย

จิ่งเทียนกงโขกศีรษะทำความเคารพ เอ่ยว่า “ท่านเจ้านิกาย”

เขาเรียกคราหนึ่ง จากนั้นอดทนรอคอย

ผ่านไปพักใหญ่

น้ำเสียงแหบพร่าสายหนึ่งแว่วออกมาจากหลังบานประตูศิลา “มีเรื่องใด”

จิ่งเทียนกงเปิดปากกล่าว “ระยะนี้ในแดนเซียนปรากฏผู้ทรงพลังท่านหนึ่งสมญาว่าเจ้าแดนต้องห้ามอันธาการ ควบคุมขับเคลื่อนมหาเคราะห์ ข้าน้อยไม่ทราบประวัติความเป็นมาของเขา จึงอยากร้องขอให้เจ้านิกายช่วยทำนายสักครา”

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ