ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 33

บทที่ 33 กระบี่สังหารระดับเปลี่ยนวิญญาณ จ้าวจื่อหลงแห่งฉางซาน
หานเจวี๋ยยกกระบี่กิเลนขึ้นมา เดินมุ่งไปหาต้วนทงเทียน

สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ภูเขาสีดำลูกเล็กด้านหลังฝ่ายตรงข้าม ในใจเกิดความฉงน

นี่มันอะไรกัน

หานเจวี๋ยสัมผัสได้ถึงพลังดึงดูดที่แข็งแกร่งทรงพลัง

เขาอดนึกถึงของเล่นในยุคปัจจุบันไม่ได้

แม่เหล็กหรือ

ต้วนทงเทียนยืนอยู่บนภูเขาดำลูกนั้นตลอดเวลา หรือว่ามันจะมีความลึกลับบางอย่าง

ในเวลาเดียวกันนี้

จางคุ่นหมัวทะยานขึ้นมาอีกครั้งจากใต้ภูเขา จิตสังหารของเขาเดือดพล่าน ในมือถือตะเกียงน้ำมันเอาไว้

เขาส่งไอมารของตนเข้าไปในตะเกียงน้ำมันอย่างบ้าคลั่ง

เขามองหานเจวี๋ยด้วยความโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำ ราวกับธาตุไฟเข้าแทรกไปแล้ว

“เฉาเชา! ยังจะกล้าต่อกรกับเจ้าลัทธิของพวกเราอีกรึ ข้าจะฆ่าเจ้าเสียก่อน!”

จางคุ่นหมัวตะโกนลั่น จากนั้นตะเกียงน้ำมันแผ่ไอสีดำออกมาเกาะกลุ่มรวมกันกลายเป็นเงาร่างภูตผีขนาดมหึมา ประหนึ่งมาจากขุมนรก

เงากระบี่สามเงาก่อตัวขึ้นด้านหลังหานเจวี๋ย

เขายกมือซ้ายโบกไปทางจางคุ่นหมัว เงากระบี่ทั้งสามพุ่งทะยานออกไป

ความเร็วปานสายฟ้าฟาด!

รวดเร็วยิ่งนัก!

เหล่าผู้อาวุโสสำนักหยกพิสุทธิ์ต่างตกใจ ตาเปล่ามองตามไม่ทัน

ฉึก!

ร่างของจางคุ่นหมัวถูกแทงทะลุในชั่วพริบตา เลือดแดงฉานสาดกระเซ็น แม้ถูกแทงจนร่างพรุน เขาก็ยังคงชูตะเกียงน้ำมันอยู่อย่างนั้น

ตายอนาถคาที่!

ลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางศีรษะของจางคุ่นหมัว

ปราณก่อกำเนิด!

ปราณก่อกำเนิดของจางคุ่นหมัว!

หานเจวี๋ยเพ่งสายตามอง ก่อนจะส่งสามกระบี่แยกเงาตามสังหารอีกครั้ง

แม้แต่ระดับเปลี่ยนวิญญาณยังไม่กลัว การสังหารระดับปราณก่อกำเนิดจะไม่ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือหรอกหรือ

ไม่เกินความคาดหมาย!

ปราณก่อกำเนิดของจางคุ่นหมัวถูกฟันเป็นเสี่ยงทันที

กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงสามลมหายใจ ระดับปราณก่อกำเนิดคนหนึ่งถูกหานเจวี๋ยสังหารอย่างง่ายดาย!

เงียบ!

ทั้งยอดเขาหลักตกอยู่ในความเงียบงัน

เซียนซีเสวียน หลี่ชิงจื่อ ผู้อาวุโสสูงสุด เซียนเฒ่าเต้าเหลย นักพรตเต๋าจิ้งซวี อีกทั้งผู้อาวุโสคนอื่นๆ ต่างอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

โลกทัศน์ของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยงแล้ว

ระดับสร้างฐานขั้นเก้าเก่งกาจเพียงนี้เชียวหรือ

เซียนซีเสวียน หลี่ชิงจื่อ เซียนเฒ่าเต้าเหลย และนักพรตเต๋าจิ้งซวีตื่นตกใจที่สุด

พวกเขาเฝ้าสังเกตหานเจวี๋ยมาหลายทศวรรษ แน่ใจว่าเมื่อก่อนหานเจวี๋ยอ่อนแอจริงๆ หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะถูกยึดร่างเสียแล้ว?

แต่ถึงแม้จะถูกยึดร่าง ก็ยังต้องเริ่มฝึกฝนใหม่ จะทะลวงระดับรวดเร็วเพียงนี้ได้อย่างไร!

หานเจวี๋ยหันกายไปมองต้วนทงเทียน พบว่าต้วนทงเทียนไม่ตื่นตกใจหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มเยาะหยัน

เสียสติไปแล้วหรือ

หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้

ต้วนทงเทียนกล่าวขึ้น “เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ ทว่าเจ้าก็แค่ระดับปราณก่อกำเนิด จะสู้กับข้าได้อย่างไร หากเจ้ายอมก้มหัวเสียตอนนี้ ข้าจะพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสความน่าสะพรึงกลัวของระดับเปลี่ยนวิญญาณ!”

ยังจะคุยโวโอ้อวดอีก?

หานเจวี๋ยทนไม่ไหวแล้ว เงากระบี่ของสามกระบี่แยกเงาก่อตัวขึ้นด้านหลังอีกครั้ง

หานเจวี๋ยสะบัดมือทันใด เงากระบี่ทั้งสามพุ่งออกไปสังหารอย่างรวดเร็วยิ่ง

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เงากระบี่สามสายเข้าปะทะต้วนทงเทียนและระเบิดออกทันที

แต่ร่างของต้วนทงเทียนมีสายฟ้าสีดำเปล่งประกาย สามารถสลายสามกระบี่แยกเงาได้อย่างง่ายดาย

ไม่ใช่!

เป็นเพราะภูเขาดำใต้ฝ่าเท้าของเขาต่างหาก!

นั่นมันอะไรกันแน่

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

เขายกกระบี่กิเลนขึ้นมา เตรียมพร้อมแสดงพลังวิเศษ

“ใต้ฝ่าเท้าข้าคือแม่เหล็กทมิฬตามธรรมชาติ สามารถดูดพลังวิญญาณได้ นอกเสียจากว่าพลังวิญญาณของเจ้าจะแกร่งยิ่งกว่าข้า ไม่เช่นนั้นเจ้าก็ไม่อาจทำอันตรายใดๆ แก่ข้าได้!”

ต้วนทงเทียนกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

หานเจวี๋ยชี้กระบี่ไปที่เขา ยิ้มเอ่ยว่า “พูดได้สวยหรูดี เชื่อหรือไม่ว่าหนึ่งดาบของข้าก็สังหารเจ้าได้”

เพิ่งจะพูดออกไป จู่ๆ ต้วนทงเทียนก็ระเบิดแรงกดดันที่น่ากลัวของระดับเปลี่ยนวิญญาณออกมาปกคลุมทั่วสำนักหยกพิสุทธิ์

ในพริบตานั้น ศิษย์สำนักหยกพิสุทธิ์และศิษย์ลัทธิมารฟ้ามืดที่กำลังต่อสู้กันทยอยหยุดนิ่ง ก่อนมองไปยังยอดเขาหลักด้วยความตกใจ

แรงกดดันน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

แม้กระทั่งเหล่าผู้อาวุโสสำนักหยกพิสุทธิ์ยังหน้าซีด หายใจหอบถี่

พวกเขาอยู่ไม่ห่างจากต้วนทงเทียน จึงสัมผัสได้ชัดเจนยิ่งกว่า

ระดับเปลี่ยนวิญญาณและปราณก่อกำเนิดต่างกันราวฟ้ากับเหว!

หานเจวี๋ยเผยสีหน้าประทับใจ

ระดับเปลี่ยนวิญญาณแกร่งกล้ายิ่งนัก!

แต่เขาผ่านแบบจำลองการต่อสู้ เคยลองปะทะกับต้วนทงเทียนมาแล้ว ดังนั้นจึงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ