บทที่ 330 เผ่าจอมเวทมาขอพึ่ง จักรพรรดินีผืนพิภพ
“กลิ่นอายนี้…อย่างน้อยก็ต้องเป็นจักรพรรดิเซียนเก้าวัฏกระมัง!”
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น คิ้วขมวดแน่น
อู้เต้าเจี้ยนที่อยู่ในถ้ำเอ่ยถามด้วยความวิตก “นายท่าน จะหนีหรือไม่”
หานเจวี๋ยส่ายหน้ากล่าวตอบ “รอดูต่อไป”
หากว่าที่นี่เคยเกิดการต่อสู้ขึ้น คาดว่าคงไม่มีผู้ใดมาเยือนไปอีกนานยิ่ง
หานเจวี๋ยตรวจหายอดฝีมือในละแวกนี้
[จินกังนู่: จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ มหาเวทมรรคอัสนี]
[เทพภูตชิงเซวี่ย: จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏ เทพภูตเมืองนรก]
จักรพรรดิเซียนเก้าวัฏจริงๆ ด้วย!
หานเจวี๋ยเปิดใช้แบบจำลองการทดสอบทันที
พอใช้ได้
ล้วนสังหารในชั่วพริบตา!
หานเจวี๋ยเองก็แยกไม่ออกว่าระหว่างสองคนนี้ผู้ใดแข็งแกร่งผู้ใดอ่อนแอ ทำได้เพียงรับชมความเปลี่ยนแปลงอย่างสงบเสงี่ยม
การต่อสู้ระหว่างจินกังนู่และเทพภูตชิงเซวี่ยขณะนี้ยังไม่กระทบมาถึงเกาะสำนักซ่อนเร้น ด้วยตบะของพวกเขายังคงสัมผัสถึงการมีอยู่ของเกาะสำนักซ่อนเร้นไม่ได้
หานเจวี๋ยหวังเพียงว่าพวกเขาจะสู้เสร็จแล้วจากไปโดยเร็ว
เหล่าศิษย์ของสำนักซ่อนเร้นก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์การต่อสู้นี้อยู่ พวกเขาล้วนไม่ตื่นตระหนก หานเจวี๋ยไม่ได้ควบคุมเกาะสำนักซ่อนเร้นแล่นหนี แปลว่าศัตรูแข็งแกร่งไม่เท่าหานเจวี๋ย
จอมปีศาจคุกรัตติกาลเอ่ยด้วยความปลดปลงว่า “ช่วงนี้ยมโลกเริ่มไม่สงบขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่พวกเราอยู่ในแม่น้ำปรโลก”
ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยถาม “พี่ใหญ่ ท่านสู้พวกคนที่อยู่ด้านนอกได้หรือไม่”
จอมปีศาจคุกรัตติกาลส่ายหน้า
“ท่านกระจอกนัก” ไก่คุกรัตติกาลอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะ
เหตุใดถึงได้รู้สึกว่า นอกจากพวกเขาแล้ว พี่ใหญ่คนนี้ก็สู้ใครไม่ได้เลยกันนะ
จอมปีศาจคุกรัตติกาลอยู่กับมันมานาน ทราบดีว่ากระจอกหมายความว่าอย่างไร
ความหมายที่ท่านเจ้าสำนักนิยามไว้ แปลว่าอ่อนแอยิ่ง
จอมปีศาจคุกรัตติกาลถลึงตาใส่ไก่คุกรัตติกาลคราหนึ่ง เจ้าตัวนี้ต่ำช้านัก
หลังจากเขาเข้าร่วมสำนักซ่อนเร้น ไก่คุกรัตติกาลก็เริ่มไม่เคารพเขามากขึ้นเรื่อยๆ
ถูหลิงเอ๋อร์เอ่ยงึมงำ “ด้านนอกมีกลิ่นอายสายหนึ่งที่ให้ข้ารู้สึกสนิทชิดเชื้อนัก หรือจะเป็นคนของเผ่าจอมเวท”
ลี่เหยาขมวดคิ้วเอ่ยถาม “คงมิใช่ว่าเจ้าอยากไปช่วยเขากระมัง”
ถูหลิงเอ๋อร์ส่ายหน้ากล่าวตอบ “ข้าไม่รู้จักสักหน่อย เหตุใดต้องช่วยเขา ชักนำปัญหาใหญ่มาให้พวกเราด้วย ข้าจดจำได้เพียงสถานะศิษย์ของสำนักซ่อนเร้น เผ่าจอมเวทอันใดกัน ไปให้พ้นเถอะ!”
คนที่เหลือส่ายหน้าหลุดหัวเราะ ล้วนไม่ได้เอ่ยแย้ง
ติดตามหานเจวี๋ยมานาน พวกเขาต่างหวาดกลัวปัญหายุ่งยากกันทั้งนั้น
โดยเฉพาะเมื่อมีโศกนาฏกรรมของหยางเทียนตง ประกอบกับสิ่งที่สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นเคยประสบพบพาน พวกเขายิ่งมั่นใจแน่วแน่ว่าต้องเอาหานเจวี๋ยเป็นตัวอย่างถึงจะบรรลุมรรคได้
อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็เป็นตัวอย่างของผู้ประสบความสำเร็จ มาจนถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่เคยเห็นหานเจวี๋ยในสภาพจนตรอกเลย ศัตรูต่างไล่ตามเขาไม่ทัน หรือไม่ก็ถูกเขาสังหารในชั่วพริบตา
สามภาพห้าธาตุ ไปมาเร้นเงาไร้ร่องรอย
นี่สิถึงจะเป็นผู้บรรลุมรรค!
การต่อสู้ดำเนินอยู่ครึ่งชั่วยาม ในที่สุดจินกังนู่และเทพภูตชิงเซวี่ยก็จากไป
หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขาไม่อยากลงมือส่งเดช หากสังหารศัตรูในชั่วพริบตา จะเปิดโปงการมีอยู่ของที่นี่
เฮ้อ!
ยามใดถึงจะเลิศล้ำไร้อริกันนะ
หานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้ทรงพลังบนชั้นฟ้าที่สามสิบสามเหล่านั้น
อาณาเขตเต๋าของพวกเขาตั้งอยู่ที่นั่น ทุกคนต่างทราบดี แต่ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่อง
จักรพรรดิปีศาจบ้าคลั่งเพียงใด เมื่อไปถึงตำหนักเอกอนันต์ก็ต้องสำรวม
ยามนี้เป้าหมายของหานเจวี๋ยก็คือกลายเป็นปรมาจารย์ลัญจกรสรวงคนต่อไป
….
เมื่อจินกังนู่และเทพภูตชิงเซวี่ยจากไป วันคืนของเกาะสำนักซ่อนเร้นก็กลับสู่ความสงบ
หานเจวี๋ยยังคงดำเนินวิถีชีวิตการฝึกบำเพ็ญอันน่าเบื่อหน่ายต่อไป
เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นก็เป็นแบบนี้เช่นกัน สิ่งที่ควรค่าให้เอ่ยถึงคือ ไม่ทราบว่าจอมปีศาจคุกรัตติกาลได้รับแรงกระตุ้นอันใดเข้า เขาเริ่มมุมานะฝึกบำเพ็ญ ปรากฏตัวในแบบจำลองการทดสอบเป็นประจำ
หานเจวี๋ยสามารถมองเห็นสถานการณ์ในแบบจำลองการทดสอบของคนอื่นๆ ได้ เจ้าหมอนี่ก็พากเพียรยิ่งนัก
เช่นนี้ก็ดีแล้ว
ก่อนหน้านี้จักรพรรดิเซียนห้าวัฏก็ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก ทว่าตอนนี้ไม่นับเป็นอันใดในสายตาของหานเจวี๋ยเลย
แค่กๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...