บทที่ 346 ปลอมตัวเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ การปะทุของหานเจวี๋ย
“เจียงอี้อย่างนั้นหรือ เจียงอี้! มารดาเจ้าเถอะ!”
หานเจวี๋ยไม่ได้ยินเสียงตอบกลับเป็นเวลานาน จึงอดไม่ไหวสบถออกมา
เจียงอี้เอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว “สิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริงหรือ”
“อืม”
’อันที่จริงข้าถนอมน้ำใจเจ้าอยู่นะ’ หานเจวี๋ยแอบทอดถอนใจ ‘ข้านี่มันใจอ่อนจริงๆ’
เจียงอี้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า “ได้! ข้าควรปิดด่านฝึกฝน ตั้งใจฝึกให้ดี!”
เมื่อสิ้นเสียง เขาก็ตัดการเชื่อมต่อพลังจิตไปทันที
[ความประทับใจที่เจียงอี้มีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 6 ดาว]
‘หือ? หมอนี่ชอบความทารุณหรือ’ หานเจวี๋ยเห็นว่าน่าขำดี
เขาวางป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ลง แล้วปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมจริงจัง ‘เผลอเผยความลับออกไปเสียได้ ต่อไปต้องฝึกฝนบำเพ็ญให้หนักกว่านี้ เจียงอี้จะได้ตามไม่ทัน’
หานเจวี๋ยไม่อยากทำให้ตัวเองรู้สึกผิดที่เล่าเรื่องราวให้เจียงอี้ฟัง
เขายังสาปแช่งศัตรูต่อไป ในขณะเดียวกันก็ตรวจดูจดหมายไปด้วย
[จี้เซียนเสินสหายของท่านได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ดวงชะตาเพิ่มพูน]
[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านได้รับสืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ดวงชะตาเพิ่มพูน]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านก้าวเข้าสู่ระดับต้าหลัว สามวิเศษรวมศูนย์และดวงชะตาเกิดการเปลี่ยนแปลง]
[ไท่ซู่เทียนสหายของท่านเข้าร่วมเคราะห์]
[โจวฝานสหายของท่านถูกแรงกรรมพันพัว พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[ต้วนหงเฉินสหายของท่านทำลายบรรลุมรรคาสวรรค์ รู้แจ้งในพลังวิเศษ]
[ซูฉีลูกศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสิ่งอัปมงคล] X983
…
หลี่เต้าคงก้าวสู่ระดับต้าหลัวแล้วหรือ
วืด!
มีอะไรบางอย่างแปลกๆ! เจ้าหมอนี่ก่อนที่จะก้าวสู่ระดับต้าหลัวก็มีคุณสมบัติคงกระพันอยู่แล้ว ตอนนี้จะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนนะ
จุดอ่อนของหลี่เต้าคงเหลือเพียงหลี่เสวียนเอ้าเท่านั้น!
หานเจวี๋ยรู้สึกว่าหลี่เต้าคงไม่เหมือนตัวเอก แต่เหมือนตำนานไร้เทียมทานผู้ทรงพลังแห่งยุทธภพในหนังสือนิยายมากกว่า
เขายังสังเกตเห็นว่าไท่ซู่เทียนก้าวเข้าสู่เคราะห์กรรม
นี่เป็นคำชี้แนะจากวังหนี่ว์วาใช่หรือไม่
มหาเคราะห์ครั้งนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับวังหนี่ว์วาอย่างแน่นอน มิฉะนั้นจู่ถูคงไม่โกรธแค้นวังหนี่ว์วาถึงขั้นนี้
“โชคดีที่ข้ามาซ่อนตัวอยู่ที่แดนชำระบาปเก้าขุม หากว่าถูกอริยะหมายหัวเข้าคงจะยุ่งยากน่าดู”
หานเจวี๋ยแอบคิดว่าความประทับใจของไท่ซู่เทียนที่มีต่อเขาเป็นเพียงความสนใจเท่านั้น ถ้าหากเขาไม่มีระบบ ก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าวังหนี่ว์วากำลังจับตามองตนอยู่ และสามารถตกเป็นเบี้ยของอริยบุคคลได้อย่างง่ายดาย
แค่คิดหานเจวี๋ยก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า หวาดระแวงไท่ซู่เทียนถึงขีดสุด
หวังว่าไท่ซู่เทียนจะไม่พุ่งเป้ามาที่เขา!
…
ณ วังเทพ ภายในโถงใหญ่ ศิษยานุศิษย์มืดฟ้ามัวดินมารวมตัวกันที่นี่จนแน่นขนัด ทั้งหมดยืนหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน
เบื้องหน้ามีร่างหนึ่งยืนตระหง่านอยู่บนขั้นบันได เขาคือจู่ถูนั่นเอง
จู่ถูสวมชุดคลุมขนาดใหญ่สีดำ บนศีรษะสวมหมวกสีม่วงมีม่านมุกห้อยระย้า ดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง
โจวฝานและโม่ฟู่โฉวยืนอยู่ท่ามกลางศิษย์ทั้งหลาย พวกเขาจ้องมองจู่ถูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
จู่ถูยกมือขวาขึ้น ศิษย์ทั้งหมดก็คุกเข่าลงและคารวะเขาอย่างพร้อมเพรียง เป็นภาพที่ดูทรงพลังอย่างยิ่ง
จู่ถูกล่าวขึ้น “พวกเจ้าทุกคนล้วนเป็นอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับจากวังเทพ มหาเคราะห์มาถึงแล้ว สงครามกำลังย่างกรายเข้ามา ข้าจะไม่บังคับให้พวกเจ้าร่วมรบ ข้าหวังให้พวกเจ้าได้ฝึกบำเพ็ญ เพิ่มพูนความแข็งแกร่งของตนเสียก่อน แล้วค่อยมารับใช้วังเทพ”
“อัจฉริยะที่ตายไปแล้วไม่นับว่าเป็นอัจฉริยะ”
“ข้าจะเปิดเขตอาคมที่นำไปสู่แดนลึกลับให้ ข้างในนั้นมีทั้งอันตราย และมีทั้งโอกาสวาสนา จะได้อะไรก็สุดแท้แต่ตัวพวกเจ้า พวกเจ้าต้องสามัคคีกันเข้าไว้ อย่าได้ก่อสงครามภายในกันเองเพราะความเห็นแก่ตัว ในแดนลึกลับยังมีศิษย์จากกลุ่มอิทธิพลอื่น พวกนั้นต่างหากคือศัตรูที่แท้จริงของพวกเจ้า”
“เข้าใจหรือไม่”
เหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งปวงตอบสนองโดยพร้อมเพียง
จู่ถูโบกมือขวาหนึ่งครั้ง ท้องฟ้าเหนือวังก็มีแสงเจิดจ้าพวยพุ่งออกมา เกิดแรงดูดมหาศาลที่สูบเสื้อคลุมของเหล่าศิษย์ทุกคนเข้าไป
เหล่าศิษย์ทยอยกระโจนเข้าสู่ใจกลางแสงจ้าทีละคนๆ ไม่ต่างจากปลาคาร์ปที่ว่ายข้ามแม่น้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...