ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 348

สรุปบท บทที่ 348 ทะลวงระดับเทพ บรรพชนพุทธระลึกชาติ: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 348 ทะลวงระดับเทพ บรรพชนพุทธระลึกชาติ – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 348 ทะลวงระดับเทพ บรรพชนพุทธระลึกชาติ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 348 ทะลวงระดับเทพ บรรพชนพุทธระลึกชาติ

ในขณะที่ต่อต้านพลังคำสาปแช่ง บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ก็เค้นสมองครุ่นคิดไปด้วย ตกลงแล้วจะตามหาเจ้าแดนต้องห้ามอันธการได้อย่างไร หากหาตัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่พบ ในอนาคตเขาต้องทนทุกข์ทรมานอีกเป็นแน่

เขาไม่เข้าใจแม้แต่น้อย เขาละทิ้งสำนักพุทธไปแล้วแท้ๆ แต่เหตุใดจึงยังสาปแช่งเขาอยู่ ระหว่างเจ้าแดนต้องห้ามอันธการกับเขามีความชิงชังอันใดต่อกัน ถึงได้ตามรังควานจนกว่าจะตายกันไปข้างเช่นนี้

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์เพียงแค่ไม่เข้าใจถึงเวรกรรมเท่านั้น แน่นอนว่าหากพบตัวเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ และอีกฝ่ายอ่อนแอกว่าเขาแล้วละก็ เขาจะสังหารอย่างแน่นอน!

ไม่กี่วันให้หลัง พลังของคำสาปแช่งก็ทวีความแข็งแกร่งขึ้น

บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ฝืนทนอยู่ไม่นาน

ในที่สุด เขาก็เสียสติไปแล้ว!

ปีศาจในดวงจิตหลอกหลอน ความอาฆาตต่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเข้าครอบงำความคิดของเขา

เขาต้องปลดปล่อยความอาฆาตนี้!

[บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์ศัตรูคู่อาฆาตของท่านสูญเสียสติสัมปชัญญะเพราะท่าน]

เมื่อเห็นจดหมายฉบับนี้ หานเจวี๋ยหาได้ยั้งมือ ต้องหักอายุขัยสองพันล้านปีเสียก่อนถึงจะหยุดได้ เขาไม่กลัวว่าจะสาปแช่งบรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์จนถึงแก่ความตาย ความเกลียดชังระดับหกดาวมันช่างขัดตาเสียเหลือเกิน หากกำจัดเจ้านี่ไม่ได้ หานเจวี๋ยก็ไม่มีวันสงบใจได้

เมื่ออายุขัยถูกหักไปสองพันล้านปี หานเจวี๋ยก็หยุดทันที แม่นยำระดับวินาที!

ทันใดนั้นหานเจวี๋ยก็พบว่าตัวเขาไม่ได้หลั่งเลือดออกมา ยังสบายดีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงของกายดาราอนธการจะได้ผล

เขาฟื้นฟูกลิ่นอายของตนเอง และสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจต่อหลังจากหยุดพักผ่อนไปสองสามวัน

หักอายุขัยสองพันล้านปีเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับจักรพรรดิปีศาจ เขาสาปแช่งจู่ถู แต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่ หานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่เล็กน้อย พวกยอดปรมาจารย์พวกนี้หาทางรับมือกับคำสาปได้แล้วหรือ

ดูเหมือนว่าต้องหาโอกาสยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้ายบ้างเสียแล้ว หากคิดจะยกระดับหนังสือแห่งความโชคร้าย ก็ต้องหมั่นรีเซ็ตระบบเลือกภารกิจ หานเจวี๋ยทำได้เพียงทะลวงระดับ เขาไม่อาจออกไปหาเรื่องใส่ตัวได้

……

ณ วังเทพ ภายในตำหนักอันเงียบสงบ

จู่ถูเบิกตาโพลง ขมวนคิ้วแน่น “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการดูท่าจะจัดการไม่ง่ายเลย”

เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ เขาก็ไม่ต่างจากผู้ทรงพลังคนอื่นๆ ที่สามารถสืบสาวไปเจอเพียงหนังสือแห่งความโชคร้าย แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของของมันรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

จู่ถูต้องละทิ้งความคิดดูถูกดูแคลน เจ้าแดนต้องห้ามอันธการร้ายกาจไม่เบาจริงๆ! ในเมื่อล่วงเกินเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไปแล้ว จู่ถูก็ตัดสินใจจะยืนยันตัวตนของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการให้ได้!

“หึ ในเมื่อเจ้ากล้าแต่หลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เช่นนั้นก็อย่าหวังจะได้ออกมาอีกเลย!” จู่ถูยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้พลังแห่งคำสาปแช่งยังไม่ส่งผลถึงตัวเขา!

หลังจากผลาญอายุขัยไปหกพันล้านปีเพื่อการสาปแช่ง หานเจวี๋ยก็เข้าสู่การฝึกบำเพ็ญต่อ ดูเผินๆ เหมือนจะสิ้นเปลืองอายุขัยไปมหาศาล แต่ความจริงแล้วหานเจวี๋ยใช้อายุขัยของตนไม่ถึงเศษเสี้ยวเสียด้วยซ้ำ

‘เฮ้อ’ หานเจวี๋ยรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี นี่ทำให้เขาสูญเสียความหวาดกลัวต่อชีวิตไป

นึกแล้วเชียว การเดิมพันไม่เคยจบลงด้วยดี! ไม่ว่าจะเดิมพันอะไร ล้วนมีจุดจบไม่สวยทั้งนั้น!

หานเจวี๋ยคิดทอดถอนใจ หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลง เขาจะไม่ใช้อายุขัยของตนไปสาปแช่งใครอีก เว้นเสียแต่ว่าอีกฝ่ายเป็นพวกไร้คุณธรรม!

เวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ปวงสวรรค์หมื่นโลกาล้วนตกสู่มหาเคราะห์ นอกจากโลกเขย่าพิภพแล้ว เกือบทุกหนแห่งล้วนก่อสงครามกวาดล้างไปทั่ว แรงกรรมพรั่งพรูจากหมื่นแดน และเริ่มแพร่กระจายไปในห้วงอากาศว่างเปล่า ราวกับความมืดมิดกำลังกลืนกินหมื่นโลกาทั่วหล้า

สี่สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ตบะของหานเจวี๋ยมาถึงขีดจำกัด ไม่สามารถยกระดับได้อีก แต่ขณะนี้เขายังหาหนทางทะลวงระดับเทพไม่เจอ

‘ระดับเทพคืออะไร’ หานเจวี๋ยรู้สึกอึดอัดใจ น่าจะถามตั้งแต่ตอนอยู่ที่ตำหนักเอกอนันต์

หานเจวี๋ยพยายามจะลองใช้ความสามารถวิวัฒนาการ แต่ระบบบอกกับเขาว่าไม่สามารถใช้วิธีวิวัฒนาการตบะได้

เขาหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาอย่างจำใจ และถามกับจักรพรรดิสวรรค์ว่าจะทะลวงระดับเทพได้อย่างไร

“อะไรนะ เจ้าใกล้จะทะลวงระดับเทพแล้วหรือ” จักรพรรดิสวรรค์ที่กำลังตกใจ ไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้

หานเจวี๋ยกล่าวอย่างหมดหนทาง “ข้าเพียงแต่ถามดู”

หานเจวี๋ยรู้ว่าคำพูดนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ในขณะนี้เขาทำได้เพียงไต่ถามจักรพรรดิสวรรค์

หานเจวี๋ยตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ในที่สุดก็เจอวิธีทะลวงระดับจนได้! แม้ว่ากระบวนการจะเชื่องช้า แต่เขาก็รอคอยจนสำเร็จ!

เมื่ออู้เต้าเจี้ยนกลับเข้ามายังถ้ำเทวา และพบว่ารอบกายของหานเจวี๋ยมีไอขาวดำสอดประสานโอบล้อม นางไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไป

นางเดินเข้ามาหาหานเจวี๋ย ส่งเสียงเรียกแผ่วเบาว่า “นายท่าน”

หานเจวี๋ยถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา “มีอะไร”

“สถานการณ์ของฉู่ซื่อเหรินไม่สู้ดีนัก”

“หือ?”

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เจ้าเด็กนั่นเป็นอะไรอีกแล้วล่ะ

เขากระจายจิตนึกคิดออกไป เห็นฉู่ซื่อเหรินนั่งฝึกบำเพ็ญอยู่ใต้ต้นฝูซัง แต่แสงพุทธะที่เรืองรองเหนือร่าง ทำให้เขาดูน่าเกรงขามอย่างยิ่ง

คนอื่นต่างพูดคุยกันไม่หยุด

“เขาเป็นวิญญาณพุทธะกลับชาติมาเกิดหรือ”

“สวินฉางอัน เจ้ารู้จักเขาหรือไม่”

“ไม่รู้จัก แต่ข้ารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน”

“พวกเจ้าลองเดาดู ตัวตนในชาติก่อนของฉู่ซื่อเหรินตอนอยู่ที่สำนักพุทธคืออะไร”

“อรหันต์สินะ”

“อรหันต์มีพรสวรรค์เช่นนี้ด้วยหรือ อย่างต่ำก็ต้องเป็นพระพุทธองค์แล้ว!”

เหล่าลูกศิษย์ต่างตื่นเต้นกันยกใหญ่ แต่มิได้หวาดกลัว การปลุกความทรงจำในชาติก่อนไม่อาจกลืนกินความทรงจำในชาตินี้ เพียงแต่หลอมรวมเข้าด้วยกันเท่านั้น

มู่หรงฉี่ สวินฉางอัน และซูฉีเองก็ระลึกชาติได้เช่นกัน แต่ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะละทิ้งสำนักซ่อนเร้นแต่อย่างใด

……………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ