บทที่ 383 แดนต้องห้ามอันธการ เทพมารฟ้าบุพกาล
“สถานที่ใด” หานเจวี๋ยถาม
เพิ่งผ่านไปไม่กี่สิบปีเองมิใช่หรือ
หานเจวี๋ยสงสัยอย่างยิ่งว่าสถานที่ของหลิวเป้ยจะยังอยู่ในขอบเขตของแดนยมโลก
หลิวเป้ยเอ่ยตอบ “ข้าค้นพบทางเข้าเขตอาคมลึกลับแห่งหนึ่ง ด้านในคือห้วงมิติที่มืดสนิทไร้แสง ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ไม่สามารถใช้พลังจิตสอดส่องได้ เมื่อเข้าไปด้านใน ประสาทสัมผัสไม่อาจใช้การได้ หากเกาะสำนักซ่อนเร้นย้ายเข้าไป ต้องเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมแน่!”
เขาพูดอย่างตื่นเต้นยิ่ง ถึงอย่างไรเขาก็รู้สึกว่าสถานที่แห่งนั้นเหมาะสมยิ่งนัก
“มืดสนิทไร้แสง หรือจะเป็นแดนต้องห้ามอันธการ” หานเจวี๋ยขมวดคิ้วนึกดู
เขาไม่เคยไปเยือนแดนต้องห้ามอันธการ แต่เคยอ่านพบในจดหมาย
แดนต้องห้ามอันธการคู่กับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ มิใช่ว่าสมกันยิ่งหรอกหรือ
ไม่ได้การแล้ว!
เขารู้สึกว่าเหมาะสมยิ่ง คนอื่นๆ ก็ย่อมคิดแบบนี้เช่นกัน
“พักไว้เท่านี้เถิด หากวันหน้าต้องการย้ายสถานที่ข้าจะเรียกหาเจ้าอีกครั้ง” หานเจวี๋ยพยักหน้าพลางกล่าว
หลิวเป้ยพยักหน้า หลังจากทำความเคารพเสร็จก็หันหลังจากไป
หลังจากเขาออกไป หานเจวี๋ยถึงได้ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง
พึ่งพาให้เจ้าหมอนี่ไปเสาะหาสถานที่กบดาน ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ
ขี้ขลาดเกินไปแล้ว!
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็เข้าใจความรู้สึกที่คนอื่นมีต่อเขา ทำเอาผู้อื่นคลั่งเลยทีเดียว
เมื่อไม่พบสถานที่ที่ทำให้ตนพอใจได้ หานเจวี๋ยก็รู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง
ทำได้แค่ใช้ระบบวิวัฒนาการแล้ว
เขากลัวเพียงว่าผลลัพธ์ที่ทำนายออกมาจะทำให้เขาหวั่นวิตกยิ่งกว่าเดิม
ลองดูแล้วกัน!
‘ข้าอยากรู้ว่าหลังจากมหาเคราะห์ครั้งนี้สิ้นสุดลง ข้าอยู่ที่ใด’ หาเจวี๋ยคิดเงียบๆ
เมื่อถามคำถามนี้ออกไป หานเจวี๋ยรู้สึกว่าตนฉลาดยิ่งนัก
ตัวเขาในตอนนี้หาไม่พบ แต่ตัวเขาในอนาคตต้องหาพบแน่!
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
พันล้านปี
มากขนาดนี้เชียวหรือ
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว พลันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
ดำเนินการต่อ!
เขากัดฟันเลือก
จากนั้น จิตรับรู้ของเขาก็วิงเวียน
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพบว่าตนอยู่ใต้ต้นฝูซัง รอบข้างมีชาวสำนักซ่อนเร้นรวมตัวกันอยู่
เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ แม้แต่สิงหงเสวียนและซูฉีก็กลับมาด้วย
เพียงแต่สีหน้าท่าทางของพวกเขาดูตึงเครียดยิ่ง
หานเจวี๋ยมองเห็นตัวเอง ลอยตัวอยู่เหนือเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ใต้เท้าคือบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร
เขาเหลียวมองไปสี่ทิศแปดด้าน พบว่าปลายทางของแต่ละทิศทางล้วนมีเงาใหญ่ยักษ์น่าหวาดหวั่น เนืองแน่นเบียดเสียด ปิดล้อมทั้งเกาะเอาไว้
เกิดอะไรขึ้น
“เจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ดูสิว่าเจ้าจะไปหลบอยู่ที่ไหนได้อีก! ต่อให้พวกเราไม่สามารถทำลายค่ายกลอาคมของเจ้าได้ เจ้าก็อย่าหมายจะหนีรอด!”
เสียงตะคอกกราดเกรี้ยวเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นตามมาด้วยเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่ง
“อยู่ที่นี่จริงๆ สินะ สมเป็นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ หลบซ่อนอยู่ในแดนชำระบาปเก้าขุม”
“ที่แท้เจ้าแดนต้องห้ามอันธการก็ไม่ได้เก่งสักเท่าไรนี่”
“คาดว่าเกาะลูกนี้คงเป็นยอดสมบัติ ทำให้พวกเขาทำนายถึงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ได้”
“เขาเป็นใครกันแน่”
“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เจ้าแดนต้องห้ามก็ทำร้ายสรรพสิ่งไปมากมายปานนั้น หนี้เลือดก็ต้องล้างด้วยเลือด!”
….
หานเจวี๋ยฟังเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดเหล่านี้ พลันมีท่าทางตื่นตระหนก
หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลง เขายังอยู่ในแดนชำระบาปเก้าขุม ซ้ำยังเผยฐานะอีกด้วย!
หานเจวี๋ยรู้สึกกระวนกระวายใจ
เขาเงยหน้ามอง หานเจวี๋ยที่อยู่กลางอากาศคล้ายจะรับรู้อะไรได้ ก้มหน้ามองมาที่เขา
ทั้งสองสบตากัน เกิดเสียงดังตูม จิตรับรู้ของหานเจวี๋ยได้รับแรงปะทะอย่างไร้สาเหตุ
จิตรับรู้ของเขากลับสู่ความเป็นจริง
[คำเตือน ไม่อนุญาตให้ทำการติดต่อกับตนเองในอดีตและอนาคต มิเช่นนั้นผลกรรมจะปั่นป่วน มรรคาสวรรค์ไม่ยินยอม]
ข้อความแถวหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ยเช่นนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
หานเจวี๋ยในอนาคตมองเห็นเขาหรือ
เป็นไปได้ยังไง!
อริยะล้วนมองไม่เห็นเขา แล้วตัวเขาในอนาคตอาศัยสิ่งใดกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...