บทที่ 403 จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนก่อพายุ ทางเลือกต้องห้าม
[ความเกลียดชังที่จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 4 ดาว]
เมื่อเห็นข้อความแถบนี้ปรากฏขึ้น ความหม่นหมองใจของหานเจวี๋ยก็มลายหายไปในทันที
หากจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรต่อคำสาปแช่งของเขาจริง แล้วความเกลียดชังจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร
หากอายุขัยกว่าสี่หมื่นล้านปียังทำไม่ได้แม้แต่จะทำลายอารมณ์ของศัตรู เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเสียเลือดเนื้อไปฟรีๆ น่ะสิ
หานเจวี๋ยปรับสภาพจิตใจของตน
ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในแดนต้องห้ามอันธการ จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนไม่น่าจะค้นหาเขาเจอได้
เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตน เพื่อเลี่ยงไม่ให้จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนใช้คนรอบข้างมาข่มขู่เขา
ไม่กี่วันต่อมา
หลังจากสภาพร่างกายฟื้นฟูดีแล้ว เขาก็เริ่มยกระดับพลังวิเศษของตน เพื่อให้ความแข็งแกร่งของตัวเขาไปถึงขีดจำกัดในปัจจุบัน
หนึ่งปีต่อมา
หานเจวี๋ยเริ่มทำแบบจำลองการทดสอบ โดยต่อสู้กับหลี่เสวียนเอ้า
ปลิดชีพในเสี้ยววินาที!
ต่อสู้กับหลี่เต้าคง ปลิดชีพในไม่กี่อึดใจ!
ต่อสู้กับจักรพรรดิสวรรค์ ปลิดชีพภายในครึ่งชั่วยาม!
ต่อสู้กับเซวี่ยหมิงเหอ ปลิดชีพภายในชั่วก้านธูป!
หานเจวี๋ยท้าทายสาวกทั้งตำหนักเอกอนันต์ภายในคราวเดียว ในบรรดาระดับเทพไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย พวกต้าหลัวปลายแถวที่อ่อนหัดหน่อยก็ถูกเขาสังหารเช่นกัน
พลังวิเศษต้าหลัว กายดาราอนธการ บัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร!
นี่คือเหตุผลที่หานเจวี๋ยสามารถสังหารศัตรูข้ามระดับด้!
ความแตกต่างระหว่างปฐมเทพขั้นหกและปฐมเทพขั้นห้านั้นห่างไกลกันคนละโยชน์ ไม่เพียงแค่ปริมาณพลังเวทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแก่นแท้ของพลังเวทอีกด้วย
หานเจวี๋ยสัมผัสได้ถึงระดับต้าหลัวรางๆ แล้ว
ระดับต้าหลัวคือการหยั่งรู้มหามรรค
สิบสองจอมเวทบรรพชน แม้จะไร้ซึ่งจิตดั้งเดิม แต่กายเนื้อของพวกเขาแต่ละคนผ่านการฝึกฝนมหามรรคดั้งเดิมแขนงหนึ่งจนสามารถบรรลุระดับต้าหลัว หรือระดับที่แข็งแกร่งกว่าได้
หานเจวี๋ยเตรียมพร้อมที่จะหยั่งรู้มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด เพื่อทะลวงระดับต้าหลัว
เขาต้องรอคอยเพียงเพราะมหามรรคแห่งกรรมถูกสั่งสอนโดยปรมาจารย์ลัญจกรสรวง หากวันใดวันหนึ่งปรมาจารย์ลัญจกรสรวงเกิดจิตชั่วร้ายขึ้นมา เขาที่ฝึกมหามรรคแห่งกรรมจะไม่กลายเป็นหุ่นเชิดเอาหรือ
“เดี๋ยวก่อน ทำไมเราถึงสร้างมหามรรคแขนงใหม่ขึ้นมาไม่ได้ล่ะ”
ทันใดนั้นหานเจวี๋ยก็เกิดความคิดสุดอาจหาญขึ้นมา แต่แล้วความคิดดังกล่าวก็ถูกเขาโยนทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
ลำพังตัวเขาคนเดียวทำไม่ได้แน่นอน นอกเสียจากจะรวบรวมชิ้นส่วนมหามรรคเก้าชิ้นให้ได้เสียก่อน!
ตอนนี้เพิ่งจะสะสมได้เพียงแค่ชิ้นเดียว ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรจะสะสมได้ครบเก้าชิ้น
“หกพันปีกับระดับต้าหลัวน่าจะหาให้ได้สักชิ้น”
หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบงัน ก่อนจะถึงตอนนั้น เขายังต้องพึ่งพามหามรรคเวียนว่ายตายเกิด
หานเจวี๋ยเริ่มหยั่งรู้มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด ทะลวงระดับต้าหลัวตามที่ตั้งใจไว้
เมื่อเขาปิดด่านฝึกบำเพ็ญ แดนเซียนก็เกิดกระแสคลื่นซัดสาด
อดีตจักรพรรดิสวรรค์จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนปรากฏตัวขึ้น พิชิตวังสวรรค์ ควบคุมสวรรค์เก้าชั้น
เขาปรากฏตัวขึ้นด้วยตัวของเขาเอง และสยบกลุ่มอิทธิพลรอบด้าน
วังมังกรพ่ายแพ้
เผ่ามังกรแท้พ่ายแพ้
ลัทธิอันธการพ่ายแพ้
เผ่ากิเลนพ่ายแพ้
ราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์พ่ายแพ้
สรรพชีวิตทั้งหลายอยู่ในความโกลาหล!
จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนใช้พลังเวทอันไร้เทียมทานของเขานำพาความสิ้นหวังมาสู่ทุกชีวิต
…
ภายในวังจักรพรรดิสวรรค์อันปรักหักพัง ฟางเหลียงนั่งสมาธิอยู่บนเบาะนั่ง มีคนสองคนคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
นั่นคือแม่ทัพเทพสวรรค์และแม่ทัพเทพยุทธ์
ฟางเหลียงจ้องมองทั้งสองด้วยแววตามืดหม่น แล้วกล่าว “พวกเจ้ายังจดจำจักรพรรดิสวรรค์อย่างเราได้อีกหรือ”
แม่ทัพเทพยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ฝ่าบาทคือจักรพรรดิสวรรค์ นี่เป็นพระบัญชาจากจักรพรรดิสวรรค์องค์ก่อน เป็นจริงตามธรรมเนียม!”
แม่ทัพเทพสวรรค์ก็กล่าวร่วมด้วย “ท่านคือจักรพรรดิสวรรค์!”
ฟางเหลียงมองไปยังพวกเขา รู้สึกหมดอาลัยเต็มทน
ทันทีที่นึกถึงยอดแม่ทัพเทพ ในใจของเขาก็พลันหนักอึ้ง
“ตอนนี้เรากลายเป็นนักโทษของจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยน อย่างที่พวกเจ้าเห็น” ฟางเหลียงกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ยังไม่ทันคุ้นเคยกับตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ดี เขาก็ถูกกำราบเสียแล้ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกกล้ำกลืน
แม่ทัพเทพยุทธ์กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนช่างบังอาจนัก เขาคือความอัปยศของวังสวรรค์โดยแท้!”
แม่ทัพเทพสวรรค์ไม่ตอบรับ สีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึก
ฟางเหลียงสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วกล่าว “ข้าอยากให้พวกเจ้าทำสิ่งหนึ่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...