บทที่ 409 เทพมารขุนพลสวรรค์ เผ่ามนุษย์พุ่งทะยาน
ดำเนินการต่อ!
หานเจวี๋ยอยากเห็นว่าในอนาคตจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น
หลังจากจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนสิ้นท่าแล้ว จะมีจอมเผด็จการคนใหม่ปรากฏตัวขึ้นมาหรือไม่
หานเจวี๋ยเข้าสู่ภาพลวงตาวิวัฒนาการ
เขาอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่มีทิวทัศน์งดงามชวนตะลึง ป่าท้อรายล้อมยืนต้นตระหง่าน กลิ่นดอกท้อหอมอบอวล เมื่อทอดสายตาไปตามทางเท้าเส้นเล็กๆ จะมองเห็นอารามเต๋าหลังหนึ่งอยู่ตรงเชิงเขา
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หานเจวี๋ยรู้สึกว่าป่าผืนนี้ดูคุ้นตาอยู่บ้าง
เขาเพียรบำเพ็ญเซียนหรือ
ช้าก่อน!
ผู้มีชัยในท้ายที่สุดคือตัวเขางั้นหรือ
ขณะที่หานเจวี๋ยคิดจะยกเท้าเดินเข้าไป ก็พลันมองเห็นคนสองคนเดินออกมาจากประตูใหญ่ของอารามเต๋า
หนึ่งในนั้นคือตัวหานเจวี๋ยเอง ส่วนอีกคนก็คือหลี่เต้าคง
หานเจวี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นตัวเขาจริงๆ
เช่นนั้นก็ดีแล้ว!
หานเจวี๋ยในอนาคตหยุดเดิน เอ่ยขึ้นว่า “ส่งเจ้าถึงตรงนี้แล้วกัน”
หลี่เต้าคงหันกลับมาพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์จะไปแล้ว เจ้าไม่เรียกเรียกขานด้วยความเคารพหน่อยหรือ เจ้าเป็นศิษย์คนโตรุ่นต่อไปของนิกายเหริน ต้องรู้ธรรมเนียมมารยาทนะ”
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว
บ้าอะไรกัน
ตัวเขาในอนาคตกลายเป็นศิษย์คนโตของนิกายเหรินงั้นหรือ
หานเจวี๋ยในอนาคตเอ่ยอย่างไม่มีทางเลือก “ขอรับ อาจารย์”
หือ?
ผู้มีชัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ใช่หานเจวี๋ย แต่เป็นหลี่เต้าคงหรอกหรือ
หานเจวี๋ยตะลึงงันไปแล้ว เนื้อเรื่องนี้ดำเนินไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้องเอาเสียเลย
หลี่เต้าคงเลิกคิ้วพลางกล่าว “อะไรกัน ยังไม่ยินยอมพร้อมใจอีกหรือ ตอนนั้นที่เจ้าเข้าสู่นิกายเหริน ข้าก็หาได้บังคับเจ้าไม่ ผู้ใดใช้ให้เจ้าไปล่วงเกินอริยะเล่า”
หานเจวี๋ยในอนาคตเอ่ยถาม “อริยะท่านนั้นยอมวางมือแล้วจริงๆ หรือ”
“ขอเพียงอริยะแห่งนิกายเหรินยังอยู่ เขาก็ไม่กล้ามาวุ่นวาย”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
ภาพเหตุการณ์พังทลายลงเช่นนี้
หานเจวี๋ยกลับสู่ความเป็นจริง ใบหน้าคมสันของเขาฉายแววตึงเครียด
หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลง เนื่องจากเขาล่วงเกินอริยะเข้า จึงจำใจต้องเข้าร่วมนิกายเหรินหรือ
นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย!
หานเจวี๋ยไม่อยากเข้าร่วมสำนักของอริยะหน้าไหนทั้งนั้น หากทำแบบนั้นจะต้องแบกรับผลกรรมมหาศาล และสูญเสียอิสระไป
สิ่งสำคัญที่สุดคือมีอริยะบางท่านกำลังลอบจับตามองเขาอยู่ เขาจะสงบใจได้อย่างไรเล่า
ไม่ได้การแล้ว!
ต่อไปต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น!
หรือจะเป็นเพราะมรรคผลจากการพิสูจน์ต้าหลัวที่ทำให้เขารู้สึกเหลิง จากนั้นจึงไปล่วงเกินอริยะเข้า
หานเจวี๋ยต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น
‘ข้าอยากรู้ว่าอริยะท่านนั้นที่ข้าเผลอล่วงเกินเป็นผู้ใด’
หานเจวี๋ยเอ่ยถามในใจ
[ไม่สามารถวิวัฒนาการผลกรรมจากอริยะที่ยังไม่อุบัติขึ้นได้ จะเป็นการทำให้อริยะรู้ตัว]
หานเจวี๋ยขมวดคิ้วอีกครั้ง
‘อริยะวิเศษขนาดนี้เชียวหรือ
ช่างเถอะ’
หานเจวี๋ยไม่คิดต่อแล้ว รอให้ระบบยกระดับเสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เขาเก็บหนังสือแห่งความโชคร้ายให้เรียบร้อย ปล่อยดวงจิตประหลาดออกมา
จากนั้น เขาเริ่มยกระดับพลังวิเศษต่างๆ ของตน ยกระดับทุกอย่างจนถึงขีดสูงสุด ใช้เวลาทั้งหมดหนึ่งปีเต็ม
เขาไม่ได้เข้าสู่แบบจำลองการทดสอบในทันที ฝึกฝนเพียงร่างจำลองเสรีสุญญตาเท่านั้น
เวลาผ่านไปถึงสิบปีเต็ม
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ฝึกฝนร่างจำลองของเทพมารฟ้าบุพกาลตนแรกสำเร็จแล้ว
ร่างจำลองเทพมารขุนพลสวรรค์ พละกำลังมหาศาลไร้สิ้นสุด หนึ่งหมัดถล่มมรรคาสวรรค์ได้!
แน่นอน พลังนี้มีขีดจำกัด หานเจวี๋ยมีตบะระดับต้าหลัวเท่านั้น ร่างจำลองเทพมารขุนพลสวรรค์ของเขาย่อมไม่น่าเกรงขามถึงเพียงนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...