บทที่ 425 กำเนิดเทพมารสามพันตน
ตบะของฟางเหลียงถูกยกระดับถึงขั้นจักรพรรดิเซียนห้าวัฏจักร!
‘เร็วเกินไปแล้ว! เขาเพิ่งจะพิสูจน์จักรพรรดินานเท่าไรเอง โกงแน่! ต้องใช่แน่ๆ!’
หานเจวี๋ยตกอยู่ในภวังค์ความคิด ที่ฟางเหลียงคืบหน้าอย่างก้าวกระโดดเช่นนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับวิญญาณข้ามสู่บรรพกาลเมื่อก่อนหน้านี้เป็นแน่
เด็กคนนี้ต้องวางหมากไว้ในตอนนั้นแน่ แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่ารอดพ้นจากสายตาของอริยะมาได้อย่างไร บางทีอาจเป็นเพราะความช่วยเหลือจากบรรพชนเต๋า
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เด็กนี่อาจจะพิสูจน์ต้าหลัวได้ก่อนที่มหาเคราะห์จะสิ้นสุดก็เป็นได้
‘ช่างเถอะ ข้าควบคุมอะไรไม่ได้อยู่แล้ว!’
หานเจวี๋ยหวังเพียงว่าศิษย์หลานของตนจะอยู่รอดปลอดภัยจากมหาเคราะห์ครั้งนี้
“ไว้ทะลวงระดับเซียนทองต้าหลัวระยะกลางให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้ข้ายังอ่อนแอนัก แม้แต่สาปแช่งจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนให้ถึงแก่ความตายก็ยังทำไม่ได้”
หานเจวี๋ยส่ายหัว ก่อนจะหันไปสาปแช่งจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนต่อ
…
ภายในถ้ำเทวาแห่งหนึ่ง เซวี่ยหมิงเหอจ้องมองผู้ที่สวมชุดคลุมสีดำตรงข้ามโต๊ะด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
ชายในชุดคลุมสีดำแท้จริงแล้วคือจักรพรรดิสวรรค์นั่นเอง
“เจ้าคือจักรพรรดิสวรรค์จริงๆ หรือ” เซวี่ยหมิงเหอเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
จักรพรรดิสวรรค์ตอบกลับว่า “จักรพรรดิสวรรค์ตายไปแล้ว ข้าเพียงแต่ยึดอาศัยกายเนื้อของเขาเท่านั้น เจ้าลองคำนวณกรรมของข้าดูก็ได้ ข้าวางแผนจะแสร้งเป็นจักรพรรดิสวรรค์ รอโอกาสที่จักรพรรดิสวรรค์ฟางพ่ายแพ้ ข้าก็จะเข้ายึดวังสวรรค์ในทันที และช่วงชิงกลุ่มอิทธิพลแห่งมรรคาสวรรค์มาเพื่อเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ”
เมื่อกล่าวถึงเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ สีหน้าของเซวี่ยหมิงเหอก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที ราวกับเจ้าแดนต้องห้ามอันธการกำลังจับตามองเขาอยู่
จักรพรรดิสวรรค์กล่าวว่า “ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเผยแผ่คำสอนของนิกายฉ่าน ชี้นำสงครามระหว่างมนุษย์และเทพอย่างลับๆ”
“ไม่ใช่เพียงนิกายฉ่านเท่านั้น นิกายเจี๋ยเองก็ได้เช่นกัน”
เซวี่ยหมิงเหอขมวดคิ้ว “แล้วนิกายเหรินเล่า แม้ว่าสำนักเต๋าสามนิกายจะไม่รุ่งเรืองอีกต่อไป แต่พวกเขาก็เป็นถึงอริยะนิกายเหริน สามสำนักจัดการกับโลกภายนอกไปในทางเดียวกัน หากว่าเข้าไปขัดขวางแผนการของพวกเขาอย่างปุบปับล่ะก็…”
จักรพรรดิสวรรค์ขัดจังหวะเขา “เจ้าแดนต้องห้ามอันธการมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิกายเหริน เขาสนใจในตัวหลี่เต้าคงเป็นอย่างมาก”
เซวี่ยหมิงเหอตกตะลึง
เจ้าแดนต้องห้ามอันธการไม่ได้เข้าข้างวังสวรรค์หรอกหรือ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
มิน่าเล่าหลี่เต้าคงถึงได้สนับสนุนวังสวรรค์อย่างถึงที่สุด เจ้าจักรพรรดิสวรรค์ฟางนั่น หากไม่ได้หลี่เต้าคงคอยหนุนหลังอยู่ มีหรือจะสามารถขึ้นมาเป็นจักรพรรดิสวรรค์ได้
ความสับสนในใจของเซวี่ยหมิงเหอพลันกระจ่างชัดขึ้นมาทันที
ทุกอย่างช่างสมเหตุสมผลยิ่งนัก!
ผู้ทรงพลังระดับสะเทือนโลกาเช่นเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ จู่ๆ จะปรากฏตัวขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไปได้อย่างไร แต่หากเขาเป็นคนของนิกายเหรินที่แสนลึกลับ เช่นนั้นทุกอย่างก็จะเข้าเค้าพอดี!
เซวี่ยหมิงเหอจงเกลียดจงชังนิกายเหรินอย่างยิ่ง ดังนั้นเรื่องนี้จึงทำให้เขามั่นใจยิ่งขึ้น
“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเถิด ข้าถนัดเรื่องพวกนี้ที่สุด”
เซวี่ยหมิงเหอเผยรอยยิ้มลำพองใจ จักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนสูญสิ้นชื่อเสียงเกียรติภูมิ แต่ก็ยังมีประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก
จักรพรรดิสวรรค์พยักหน้าและกล่าว “วังสวรรค์ยังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า จากนี้ต่อไปข้าจะช่วยเจ้าแดนต้องห้ามอันธการเพิ่มสาวกให้มากขึ้น และสร้างมรรคาสวรรค์ที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่”
เซวี่ยหมิงเหอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ได้! หากเจ้าต้องการข้า ขอเพียงแค่เอ่ยปากเท่านั้น!”
เขาแอบก่นด่าในใจ
ไอ้ชาติสุนัข! คิดจะแย่งคุณงามความดีไปจากเขาชัดๆ!
เซวี่ยหมิงเหอมุ่งมั่นที่จะเป็นคนสนิทที่สำคัญที่สุดของเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ดังนั้นจึงไม่อาจปล่อยให้ชายผู้นี้แย่งผลงานของเขาไปได้
…
เมื่อกลับมาถึงเกาะสำนักซ่อนเร้น สิงหงเสวียนก็พบว่าแม้ตนเองจะได้รับวิชาสืบทอดจากอริยะ แต่นางกลับไม่ใช่บุตรแห่งสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักซ่อนเร้น
โดยเฉพาะลี่เหยา ที่ทำให้สิงหงเสวียนรู้สึกถึงวิกฤตขั้นสูงสุด
ผู้หญิงคนนี้คล้ายกับหานเจวี๋ยมากเหลือเกิน ถ้าหานเจวี๋ยเลือกคู่บำเพ็ญเพียรเอง เขาจะต้องเลือกผู้หญิงอย่างลี่เหยาเป็นแน่
สิงหงเสวียนทำได้เพียงพยายามให้หนักขึ้นอย่างลับๆ ไม่กล้าที่จะผ่อนคลายเลย
‘อุตส่าห์คิดว่าหากกลับมาแล้วจะได้ผ่อนคลายสักหน่อย กลับกายเป็นว่าเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธุ์มนุษย์เสียอีก’
‘หากมองจากจุดนี้ สำนักซ่อนเร้นแข็งแกร่งกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์เผ่าพันธุ์มนุษย์อีกไม่ใช่หรือ’
สิงหงเสวียนคิดมาถึงจุดนี้ นางก็ส่ายหน้าพร้อมกับหลุดขำออก รู้สึกว่าตนเองคิดมากเกินไป
ไม่เพียงแต่สิงหงเสวียนคนเดียวเท่านั้นที่รู้สึกกดดัน นางเองก็ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกกดดันด้วยเช่นกัน
แดนเซียนเกิดสงครามอยู่ตลอดเวลา ส่วนที่สำนักซ่อนเร้นเองก็แข่งขันกันอยู่ตลอดเวลาไม่มีหยุดพัก แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่เป็นการแข่งขันที่ส่งผลในเชิงบวก
เวลาผ่านไปเช่นนี้ปีแล้วปีเล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...