บทที่ 432 แรงแค้นเก้าแสนล้านปี ปรมาจารย์มารดึกดำบรรพ์
สองแสนล้านปี!
สามแสนล้านปี!
สี่แสนล้านปี!
ห้าแสนล้านปี!
ตาของหานเจวี๋ยเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ครั้งนี้เขาตัดสินใจจะสังหารต้าจิ่วเทียนให้จงได้
เป็นเพราะต้าจิ่วเทียน จักรพรรดิสวรรค์ถึงถูกดวงจิตประหลาดขั้นรองสับเปลี่ยนวิญญาณ ตอนนี้ต้องตกอยู่ในสภาพเหมือนครึ่งเทพครึ่งปีศาจไปเสียแล้ว
นอกจากนี้ชายผู้นี้ยังสนับสนุนจักรพรรดิหยกโจวเหยี่ยนให้เอาชนะดวงชะตาอันยิ่งใหญ่ และทำลายล้างสรรพชีวิต หากหานเจวี๋ยไม่เปลี่ยนแปลงชะตากรรม คนรอบข้างของเขาต้องตายด้วยน้ำมือของต้าจิ่วเทียนเป็นแน่
อย่างไรต้าจิ่วเทียนก็ต้องตาย!
ผู้ที่เป็นศัตรูโดยตรงของหานเจวี๋ยนั้นมีไม่มาก แต่ตราบใดที่คนผู้นั้นเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของเขาและคนรอบข้าง เขาย่อมไม่ปล่อยไปอย่างเด็ดขาด
ครั้งนี้เขาจะทำลายขีดจำกัดคำสาปแช่งของตนเอง
หกแสนล้านล้านปี!
[ต้าจิ่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านเกิดมารในใจ เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]
[ความเกลียดชังที่ต้าจิ่วเทียนมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 6 ดาว]
เจ็ดแสนล้านปี!
ในที่สุดหานเจวี๋ยก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย แต่กระนั้นก็ไม่ได้ยี่หระแต่อย่างใด
[ต้าจิ่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่านมารในใจอาละวาด พลังเวทปะทุ มรรคผลต้าหลัวแตกสลาย เนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]
แปดแสนล้านปี!
‘จะตายได้หรือยัง หา!’ หานเจวี๋ยแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว คนผู้นี้มันแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
ก่อนหน้านี้ที่เขาสาปแช่งต้าหลัว ยังใช้อายุขัยแค่เท่าไรเอง หรือว่าคนผู้นี้จะเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ครึ่งอริยะ?
เก้าแสนล้านปี!
[ต้าจิ่วเทียนศัตรูคู่อาฆาตของท่าน มารในใจกัดกินดวงวิญญาณ มรรคจิตแตกสลาย ชีวิตดับสูญด้วยตนเอง ตัวตายมรรคผลสลาย]
หานเจวี๋ยหยุดมือทันที
เหงื่อเย็นผุดเต็มหน้าผากของเขา
‘เซียนทองต้าหลัวก็เหงื่อออกได้เหมือนกันรึนี่ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปคงได้ถูกหัวเราะเยาะเป็นแน่’
หานเจวี๋ยตรวจสอบค่าความสัมพันธ์ ภาพประจำตัวของต้าจิ่วเทียนหายไปแล้ว
‘ตายแล้วจริงๆ’
เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง และถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เก้าแสนล้านปี
แม้ว่าหานเจวี๋ยจะรู้สึกปวดใจมาก แต่ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าอยู่ดี
หากไม่ปลิดชีพศัตรูตัวฉกาจเช่นนี้ ในอนาคตจะต้องเกิดปัญหาตามมามากมายอย่างแน่นอน
หานเจวี๋ยไม่หวังให้ศัตรูที่เก่งกาจกว่านี้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา กลับกันเขาอยากจะไปปรากฏตัวต่อหน้าและสังหารฝ่ายนั้นเองเสียมากกว่า
ศัตรูที่จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขานั้น ต้องเป็นศัตรูที่เขาสามารถสังหารได้ในชั่วพริบตา!
ไม่เช่นนั้นก็นับว่าน่าหวั่นใจ!
‘ต้าจิ่วเทียนตายแล้ว อนาคตของมหาเคราะห์ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน แต่ข้าไม่จำเป็นต้องคำนวณดู ตอนนี้ข้าหลีกหนีจากมหาเคราะห์ รอให้โลกาสวรรค์เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก่อนแล้วค่อยคำนวณก็ไม่สาย’
หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ
เขาเปลี่ยนแปลงชะตากรรมไม่หยุดหย่อน ดังนั้นจุดจบของมหาเคราะห์จึงเปลี่ยนไปตลอดเวลาเช่นกัน
อนาคตจะเปลี่ยนแปลงต่อไปเรื่อยๆ เว้นแต่เขาจะหยุดเปลี่ยนแปลงมัน
สิ่งที่หานเจวี๋ยต้องทำคือเฝ้าคอยให้อนาคตที่เขาพอใจปรากฏขึ้น ทว่ายังมีอริยะที่คอยผลักดันชะตากรรมอยู่ในเงามืด ก่อนหน้านี้เคยมีอนาคตในแบบที่เขาพอใจปรากฏขึ้นเช่นกัน แต่ก็เกิดถูกทำให้เปลี่ยนแปลงไปอยู่ดี
ทุกวันนี้หานเจวี๋ยไม่เคยหวังจะทำนายอนาคตอีก แต่อยากจะสังหารศัตรูตัวฉกาจที่โผล่มาในอนาคตที่เคยทำนายเอาไว้แทน
ทันทีที่ต้าจิ่วเทียนตาย หานเจวี๋ยก็ไม่รู้ว่าต้องสาปแช่งใครไปอีกระยะหนึ่ง
เดิมทีเฮ่าเทียนก็อยู่ในรายชื่อของคนที่เขาต้องสาปแช่งด้วย ทว่าตั้งแต่เฮ่าเทียนหลอมรวมร่างกับหลงเฮ่า เขาก็สาปแช่งอีกฝ่ายได้ยากลำบากขึ้น เพราะอย่างไรเสียเฮ่าเทียนก็ไม่ได้มีความเกลียดชังในตัวเขา อีกทั้งจนถึงทุกวันนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้ทำอันตรายต่อจักรพรรดิสวรรค์แต่อย่างใด
‘ช่างเถอะ ไม่ต้องสาปแช่งก็ดี จะได้ฝึกบำเพ็ญอย่างสงบสุข’ หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบเชียบ
…
การสิ้นชีพของต้าจิ่วเทียนไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายใดๆ ขึ้น เพราะในแดนเซียนนั้น เขาเป็นเพียงบุคคลนิรนาม
ครึ่งอริยะสิ้นชีพไปอย่างเงียบๆ ไม่มีใครรู้ ช่างน่าเศร้าและหดหู่ใจเหลือเกิน
เมื่อไม่มีศัตรูให้สาปแช่ง หานเจวี๋ยก็มุ่งความสนใจไปกับการฝึกบำเพ็ญ
ยี่สิบสามปีต่อมา
มีกระแสจิตส่งมาจากภายในอาณาเขตฟ้าบุพกาล ใครบางคนกำลังเรียกหานเจวี๋ยอยู่
หานเจวี๋ยส่งจิตรับรู้มุ่งหน้าไปยังอาณาเขตฟ้าบุพกาลทันที ดวงจิตประหลาดก็ตามเขาไปด้วย
หานเจวี๋ยพบว่าภายในอาณาเขตฟ้าบุพกาลนอกจากเต้าจื้อจุน และจ้าวเซวียนหยวนแล้วยังมีผู้อื่นอยู่อีกหนึ่งคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...