ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 433

บทที่ 433 หานเจวี๋ยปะทะคนคู่

ได้ฟังคำพูดของฟางเหลียง หานเจวี๋ยกลับไม่ได้ตอบรับในทันที

เขาถามในใจอย่างระมัดระวัง ‘หากข้าไปหาฟางเหลียงตอนนี้ จะมีอันตรายถึงชีวิตหรือไม่’

อันตรายน่ะคงจะมีอยู่แล้ว แต่ขอเพียงอย่าถึงแก่ชีวิตก็เป็นพอ

[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]

ดำเนินการ!

[เบื้องต้นยังไม่มี]

หานเจวี๋ยตอบกลับทันที “ได้”

ฟางเหลียงเริ่มสำแดงพลังวิเศษ

ไม่นาน คลื่นวนสีดำก็ปรากฏเบื้องหน้าของหานเจวี๋ย เขาก้าวเข้าไปด้านใน

ณ แดนเซียน พระราชวังเทียมเมฆา

ฟางเหลียงลุกขึ้นยืน เขามองไปยังคลื่นวนสีดำที่ลอยคว้างอยู่กลางท้องพระโรง อดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้

ไม่ได้พบหานเจวี๋ยมานานมากแล้ว ภาพของหานเจวี๋ยในหัวของเขายิ่งดูลึกลับขึ้นเรื่อยๆ

ร่างร่างหนึ่งก้าวออกมาจากคลื่นวนสีดำ เขาสวมใส่อาภรณ์มหามรรคบัญชาสวรรค์ ช่วงเอวคาดเข็มขัดโลหิตลัญจกรทอง ที่เท้าสวมรองเท้าอักขระลับบัญญัติมรรคา กายห่มไหมเมฆฟ้าปรารถนา ท่าทางดูน่าเกรงขาม

นั้นไม่ใช่หานเจวี๋ยแล้วจะเป็นใครได้?

แม้แต่ฟางเหลียงซึ่งเป็นจักรพรรดิสวรรค์ก็ยังอดรู้สึกทึ่งไม่ได้เมื่อเห็นหานเจวี๋ยปรากฏตัว

สมแล้วที่เป็นอาจารย์ปู่

แม้ว่าดวงวิญญาณเขาจะเคยข้ามสู่บรรพกาล หากแต่ฟางเหลียงก็ยังไม่เคยเห็นชายใดรูปงามเท่าหานเจวี๋ย แม้แต่หญิงงามที่ว่าสวยที่สุดใต้มรรคาสวรรค์แห่งนี้ก็ยังเทียบไม่ได้กับหานเจวี๋ย นี่ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงเลย

เมื่อหานเจวี๋ยก้าวสู่พื้นเบื้องล่าง ฟางเหลียงก็รีบแสดงการคารวะ

“ของเล่า?” หานเจวี๋ยถามเข้าประเด็นทันที

แม้ใบหน้าของเขาจะสงบราบเรียบ แต่ในใจนั้นกลับลอบตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย

เขาตรวจสอบพบผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่ใกล้ๆ นี้

[หลี่เต้าคง: ระดับเซียนทองต้าหลัวระยะปลาย ศิษย์คนโตแห่งนิกายเหริน]

ซ่า…

‘เจ้าหมอนี่ไปถึงระดับเซียนทองต้าหลัวระยะปลายแล้วหรือ? เร็วเกินไปแล้ว!’

หานเจวี๋ยลอบตกใจอยู่เล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็ทำการคัดลอกตบะของหลี่เต้าคงไปด้วย เพื่อที่จะได้ใช้เป็นคู่ต่อสู้ในแบบจำลองการทดสอบในภายหลัง

ฟางเหลียงยกมือขึ้น ชิ้นส่วนแผ่นหยกสีขาวก็ปรากฏอยู่บนมือของเขา

หานเจวี๋ยรับเอาสมบัติมาใส่เข้าไปในแขนเสื้อ และหมุนกายเดินกลับเข้าไปในคลื่นวนสีดำทันที

“อาจารย์ปู่ ท่านจะไม่นั่งพักสักหน่อยหรือ” ฟางเหลียงรีบตะโกนเรียก

นี่จะเร็วเกินไปแล้ว!

หานเจวี๋ยกล่าว “มีอะไร”

ฟางเหลียงเอ่ยอย่างจนใจ “ที่นี่คือวังสวรรค์และเราก็เป็นถึงจักรพรรดิสวรรค์ จะมีอันตรายใดได้อย่างไรกัน หากที่นี่มีอันตรายจริง ป่านนี้วังสวรรค์ไม่พินาศไปหมดแล้วหรือ เราเพียงอยากพูดคุยกับอาจารย์ปู่เท่านั้น”

หานเจวี๋ยเห็นสีหน้าของเขาดูอิดโรย จึงตอบตกลง

“ให้เวลามากสุดครึ่งชั่วยาม”

“ไม่มีปัญหาขอรับ!”

ฟางเหลียงรู้สึกยินดีระคนประหลาดใจ

เขาหยิบเบาะรองนั่งออกมาทันที วางไว้ตรงข้ามกับพระที่นั่งของจักรพรรดิสวรรค์

ทั้งสองนั่งลง ฟางเหลียงเริ่มพูดถึงความก้าวหน้าของวังสวรรค์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้

วังสวรรค์ต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ตลอด ในขณะเดียวกันก็เชิญเทพเซียนจากต่างแดนมาร่วมด้วย หลายปีผ่านไป ทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์ไม่ได้ลดน้อยลงเลย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

เมื่อมหาเคราะห์ทวีความรุนแรงขึ้น สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในแดนเซียนก็ไม่สามารถอยู่รอดได้โดยลำพังและต้องเข้าสู่เคราะห์ในที่สุด

ฟางเหลียงกล่าว “ทุกวันนี้ทั่วทั้งแดนเซียนอัดแน่นไปด้วยแรงกรรม ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปได้อีกนานเท่าไร หายนะที่แท้จริงก็ใกล้จะมาถึงแล้ว”

หานเจวี๋ยเอ่ยถาม “หากว่าวังสวรรค์พ่ายแพ้ เจ้าจะ…”

ฟางเหลียงส่ายหน้า “ก็เป็นได้ ทว่าวังสวรรค์ไม่พ่ายแพ้หรอกขอรับ เพราะผู้ทรงพลังที่สนับสนุนวังสวรรค์นับวันยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ความพ่ายแพ้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างหากที่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“แม้ว่าวังสวรรค์จะได้รับชัยชนะ ทว่าตำแหน่งของเราในฐานะจักรพรรดิสวรรค์ก็ไม่มั่นคงเสมอไป”

ฟางเหลียงรู้ดีว่าตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์ของตนนั้นเป็นเพียงตำแหน่งชั่วคราว เป็นเพียงเกราะกำบังเท่านั้น

หานเจวี๋ยนิ่งเงียบไป

เขาไม่สามารถออกความคิดเห็นเกี่ยวกับทางเลือกของฟางเหลียงได้ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าสู่มหาเคราะห์เพื่อฟางเหลียง

ในตอนนี้เอง

หานเจวี๋ยพลันรู้สึกถึงสองกลิ่นอายอันทรงพลังที่กำลังเข้ามาใกล้ เขาลุกพรวดขึ้นทันที หมุนกายพลางกล่าวว่า “มีคนมา ข้าไปก่อนล่ะ”

หานเจวี๋ยปรี่เข้าไปยังคลื่นวนสีดำที่ลอยคว้างกลางอากาศทันที

ทันใดนั้นสายลมคลั่งก็พัดมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ