บทที่ 439 ผู้กอบกู้โลกา คำสาบานของหานเจวี๋ย
สิบปีผ่านไป
ณ ถ้ำเทวาฟ้าประทาน
หานเจวี๋ยยังคงฝึกบำเพ็ญต่อไป เขาไม่รู้เลยว่าบรรดาอริยะต่างกำลังหวาดระแวงกันเอง สาเหตุมาจากการที่เขาหยั่งรู้ในพลังวิเศษทลายมรรคา
ในสายตาของเขามีเพียงการฝึกบำเพ็ญเท่านั้น
เขาลืมแม้กระทั่งสรรพชีวันเท่าเทียม พลังวิเศษนี้ไม่เหมาะกับมรรคจิตของเขา และดูเหมือนว่าจะไม่โอกาสให้ใช้ด้วย เรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมากนัก
อยู่มาวันหนึ่ง
หานเจวี๋ยไม่มีอะไรทำจึงเริ่มอ่านจดหมาย
[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านดูดซับแรงกรรม พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]
[ซูฉีลูกศิษย์ของท่านทลายโซ่ตรวนมรรคาสวรรค์ ได้เข้าสู่แดนเซียน]
[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญเผ่าพันธุ์มนุษย์] x450021
[หลงเฮ่าลูกศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากโจวฝานสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากหลงเฮ่าลูกศิษย์ของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากอริยะมรรคาสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
[ต้วนหงเฉินสหายของท่านฝันถึงอริยะ พลังมรรคเพิ่มขึ้นฉับพลัน]
…
อริยะมรรคาสวรรค์!
นอกจากหลี่เต้าคงแล้ว สหายคนอื่นในวังสวรรค์ล้วนแต่เผชิญกับการโจมตีจากอริยะทั้งสิ้น ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่มีใครถึงขั้นล้มตาย
หานเจวี๋ยรู้สึกเป็นห่วงจักรพรรดิสวรรค์ขึ้นมาเล็กน้อย
จักรพรรดิสวรรค์แรงกรรมพันพัวกาย หากถูกอริยะโจมตีจะต้องสิ้นลมอย่างไม่ต้องสงสัย
ยังมีซูฉีอีก เหตใดเจ้าเด็กคนนี้ถึงกลับไปที่แดนเซียนอีกแล้วเล่า ตอนสงบเจ้าก็อยากออกมา พอถึงเวลาวุ่นวายเจ้าก็ดันอยากจะกลับไปอีก
สรุปได้เพียงสองคำ รนหาที่ตาย!
อริยะออกโรงเอง มหาเคราะห์คงจะดำเนินต่อไปอีกไม่นานแล้ว
[ฉิวซีไหลต้องการเข้าฝันท่าน ยอมรับหรือไม่]
การแจ้งเตือนปรากฏขึ้นตรงหน้าของหานเจวี๋ยอย่างกะทันหัน จากนั้นแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาติดต่อกันและเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ
‘ไอ้หนังหมา! เอาอีกแล้ว! อยากกินขี้วัวอย่างนั้นหรือ?’ หานเจวี๋ยในใจเดือดเป็นไฟ แต่ก็ทำได้เพียงแค่เมินคำขอเข้าฝันของฉิวซีไหลไป
ทว่าไอ้ชาติสุนัขนี่ก็ยังขอเข้าฝันเขาอยู่เรื่อยๆ
ไม่นานก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี ฉิวซีไหลยังขอเข้าฝันเขาอยู่!
คนผู้นี้ขอเข้าฝันมาเป็นร้อยครั้งพันครั้งแล้ว!
‘บ้าไปแล้วสินะ!’
‘ปิดกั้นเขาได้หรือไม่’ หานเจวี๋ยรู้สึกเหลืออด จึงถามในใจ
[ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ ต้องปรากฏผลกรรมก่อน]
หานเจวี๋ยอยากจะกระอักเลือดออกมานัก
ระบบก็ออกจะพัฒนาไปเสียขนาดนั้น แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้กลับทำไม่ได้
‘ข้าละอ่อนใจจริงๆ! มารดามันเถอะ! เจ้าชนะแล้ว! ข้ายอมรับก็ได้! ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้ชาติสุนัขอย่างเจ้าจะพูดว่าอะไร!’ หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบงัน เขาสงสัยเป็นอย่างมากว่าฉิวซีไหลจะขอเข้าฝันตนไปเรื่อยๆ หรือไม่
‘ข้าอยากรู้ว่าหากยอมรับให้เข้าฝันแล้ว จะมีอันตรายหรือไม่’ หานเจวี๋ยเอ่ยถามในใจ
[จำเป็นต้องหักอายุขัยหนึ่งพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการ!
[ไม่มีอันตรายในขณะนี้ เนื่องจากมีอาณาเขตเต๋าและแดนต้องห้ามอันธการปิดกั้นเอาไว้ อีกฝ่ายทำได้เพียงติดต่อสื่อสารเท่านั้น ระบบสามารถช่วยเหลือให้ท่านออกจากแดนความฝันได้ตลอดเวลา]
หานเจวี๋ยเลิกคิ้วขึ้น และยอมรับการเข้าฝันของฉิวซีไหลทันที
ไม่นาน เขาก็เข้าสู่แดนความฝัน
ที่นี่คือห้องโถงขนาดใหญ่สีทองซึ่งอยู่ภายในอารามอันโอ่อ่าวิจิตรตระการตา เบื้องหน้ามีพระพุทธรูปขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่ ลักษณะน่าเกรงขาม
ฉิวซีไหล!
เขาดูเหมือนพระพุทธรูปทองคำมากกว่าสิ่งมีชีวิต
หานเจวี๋ยสะกดกลั้นโทสะและมองไปที่เขา และแสร้งทำเป็นหันมองไปรอบด้านอย่างสับสน
[ฉิวซีไหลเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 1 ดาว]
‘หา? ไม่เลวเลยนี่!’ เมื่อเห็นระดับความประทับใจ หานเจวี๋ยก็คลายความโกรธลงมากกว่าครึ่ง
เหตุผลที่โทสะของเขายังไม่หายไปก็เป็นเพราะให้ระดับความประทับใจแค่ 1 ดาวนี่แหละ
หานเจวี๋ยไม่ได้เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน แต่รอคอยให้ฉิวซีไหลเป็นฝ่ายเริ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...