ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 46

บทที่ 46 กลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียร พลังวิเศษเมฆตีลังกา
เพราะความกดดันจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ หานเจวี๋ยจำต้องมุมานะฝึกบำเพ็ญมากกว่าเดิม

ไก่คุกรัตติกาลรู้สึกทุกข์ระทมอย่างไม่อาจเอ่ย

ด้วยหานเจวี๋ยเริ่มดูดซับปราณอย่างสุดกำลัง ทำให้พลังวิญญาณภายในถ้ำเทวาพุ่งเข้าร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วในการดูดซับปราณของไก่คุกรัตติกาลถูกยับยั้ง

เจ็ดปีต่อมา

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็บรรลุระดับปราณก่อกำเนิดขั้นแปด!

เขายังคงรู้สึกว่าเวลาเริ่มกระชันเข้ามาแล้ว

หากสามารถทะลวงถึงระดับเปลี่ยนวิญญาณก่อนลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณมาโจมตี เช่นนั้นเขาก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

หานเจวี๋ยดูดซับปราณไปพลางเปิดดูความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

[โจวฝานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ] x87

[หยางเทียนตงศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ] x87

[โม่จู๋สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากศิษย์ร่วมสำนัก]

[หลี่ชิงจื่อสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสหายร่วมสำนัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

……

หืม? หลี่ชิงจื่อเผชิญกับการโจมตีของคนสำนักได้อย่างไร

หานเจวี๋ยนิ่งอึ้ง

หรือว่าจะมีจารชนอีก?

เขารีบตรวจสอบสำนักหยกพิสุทธิ์ทันที

ผู้บำเพ็ญระดับปราณก่อกำเนิดต่างก็ไม่ใช่จารชน

ช้าก่อน หรือว่าจะเป็นกวนโยวกัง?

หานเจวี๋ยคิดไว้ไม่มีผิด เป็นกวนโยวกังจริงๆ

กวนโยวกังไม่กล้าท้าประลองกับผู้อาวุโสสังหารเทพ จึงละทิ้งความคิดที่จะเป็นเจ้าสำนัก แต่เขายังไม่ละทิ้งความโกรธ จึงขอเรียนรู้กับหลี่ชิงจื่อ ก่อนจะถือโอกาสชำระแค้น

เพราะเรื่องนี้ ผู้อาวุโสในสำนักหยกพิสุทธิ์จึงไม่พอใจเขาเป็นอย่างมาก

สำนักหยกพิสุทธิ์กำลังตกอยู่ในวิกฤต แต่เจ้ากลับสร้างเรื่อง แล้วยังคิดจะเป็นเจ้าสำนักอีกหรือ

หลังจากกวนโยวกังถูกด่าท่อ เขาก็โมโหจนต้องปิดด่าน ไม่โผล่หน้าออกมาอีก

ทว่าเขาไม่ได้ไปจากสำนักหยกพิสุทธิ์ เห็นได้ชัดว่าในใจเขายังมีสำนักหยกพิสุทธิ์อยู่

ทั้งหมดนี้ หานเจวี๋ยไม่กระจ่าง เขาเปิดอ่านจดหมายต่อไป

เซียนซีเสวียน ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ สิงหงเสวียนไม่มีเรื่องอันตรายอะไร ส่วนสหายคนอื่นๆ นั้นต่างมีการต่อสู้กับคนอื่นประราย

รวมถึงเซวียนฉิงจวินด้วย

ตบะของเซวียนฉิงจวินยังคงอยู่ที่ระดับสร้างฐานขั้นสาม หานเจวี๋ยสงสัยว่านางไม่ฝึกบำเพ็ญเลยแม้แต่น้อย เอาแต่สังเกตการณ์ผู้อื่น

ยามที่หานเจวี๋ยแอบค่อนแคะอยู่นั้น

เขาพลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่าง

เซวียนฉิงจวิน!

นางผู้นี้มาอีกแล้ว!

“สหายเต๋าอยู่หรือไม่ ข้าขอมาเยี่ยมเยียนท่านสักหน่อยได้หรือไม่”

ได้ฟังน้ำเสียงของเซวียนฉิงจวิน หานเจวี๋ยก็รู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมา

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายต้องรู้แน่ว่าเขาอยู่ที่นี่ หากแกล้งตาย ไม่แน่ว่าระดับความประทับใจคงหายไป

แต่อีกฝ่ายเป็นถึงจอมมาร ความประทับใจย่อมดีกว่าความอาฆาตแค้นอย่างแน่นอน!

เมื่อคิดแล้วหานเจวี๋ยจึงเปิดประตูถ้ำเทวา

เซวียนฉิงจวินเดินเข้ามาอย่าวสบายอารมณ์

เมื่อเห็นหานเจวี๋ย นางก็เผยยิ้มออกมาน้อยๆ อย่างอดไม่ได้

หานเจวี๋ยจนใจ

ไก่คุกรัตติกาลจำกลิ่นอายของเซวียนฉิงจวินได้

มันตะโกนร้องขึ้นอย่างหวาดผวา “ขอร้องเจ้าล่ะ! อย่ากินนายท่านของข้าเลย!”

เซวียนฉิงจวินสีหน้างุนงง

หานเจวี๋ยรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง

เขาถลึงตามองไก่คุกรัตติกาลเพียงครั้งจนมันตกใจจนไม่กล้าเอ่ยวาจาอะไรออกมาอีก

เซวียนฉิงจวินเดินมาตรงหน้าหานเจวี๋ย ยิ้มกล่าว “ข้าคือเซวียนฉิงจวิน ศิษย์ของยอดเขาไผ่หยก เมื่อหลายปีก่อนได้พบเจอกับศิษย์พี่ในสำนักฝ่ายใน รู้สึกตกตะลึงในตัวท่านเป็นอย่างมาก นับแต่นั้นในใจของข้าก็แอบมีท่านมาโดยตลอด ครั้งนี้มาเยี่ยมเยียนท่านโดยไม่ได้ตั้งตัว หวังว่าศิษย์พี่จะไม่ถือโทษ”

ตรงยิ่งนัก!

หานเจวี๋ยไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี

“ความงามของศิษย์พี่พบเจอได้น้อยนักในใต้หล้า โดดเด่นไร้ผู้ใดเปรียบ ศิษย์น้องยินดีมอบสมบัติให้หนึ่งชิ้น หวังว่าท่านจะไม่ปฏิเสธ”

เซวียนฉิงจวินกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม เมื่อพลิกฝ่ามือ แผ่นหยกชิ้นหนึ่งก็ปรากฏบนฝ่ามือ

หานเจวี๋ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นี่คือสิ่งใดกัน”

“สิ่งนี้คือป้ายจวนเซียนสวรรค์ จวนเซียนสวรรค์เป็นแดนฝึกบำเพ็ญศักดิ์สิทธิ์ของแดนบำเพ็ญพรต ต้องมีป้ายจวนเซียนสวรรค์ถึงจะสามารถเข้าไปได้ หากออกมาจากที่นั่น ต่อให้จะมีคุณสมบัติแย่เพียงใดก็สำเร็จระดับปราณก่อกำเนิดได้”

เซวียนฉิงจวินอธิบายด้วยรอยยิ้ม

นางค่อนแคะอยู่ในใจ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะไม่หวั่นไหว

เจ้าเด็กน้อย ร่างกายอันงดงามของเจ้า ข้าจะเอามาให้ได้!

หานเจวี๋ยส่ายหน้ากล่าว “ขอบใจในความปรารถนาดีของศิษย์น้อง แต่ข้าไม่อยากไปจากสำนักหยกพิสุทธิ์ ตั้งใจจะฝึกบำเพ็ญอยู่ในสำนักหยกพิสุทธิ์ตลอดชีวิต”

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเซวียนฉิงจวินก็แข็งค้างทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ