เขาใช้พลังวิญญาณหกสายตรวจสอบอยู่พักหนึ่ง หลังจากแน่ใจว่าไม่ใช่โอสถพิษ ถึงเริ่มกินเข้าไป
เพียงไม่นานเขาก็ประหลาดใจที่พบว่า ผลลัพธ์ของโอสถนี้แข็งแกร่งมาก!
แข็งแกร่งกว่าโอสถของเย่ซานหลางมากกว่าเท่าตัว
สมกับเป็นจอมมารจริงๆ ลงมือทียิ่งใหญ่มาก!
หานเจวี๋ยพยายามระงับความตื่นเต้นดีใจ และเริ่มทำการฝึกบำเพ็ญ
……
ภายในวังใต้ดินอันมืดสลัวแห่งหนึ่ง
เพียะ! เพียะ! เพียะ…
เสียงแส้กระทบร่างดังเข้ามาไม่ขาดหู
พบเพียงหยางเทียนตงและโจวฝานถูกมัดขึงอยู่บนเสาไม้ คนในชุดคลุมกันฝนสองคนกำลังโบกสะบัดแส้ยาวหวดพวกเขา โลหิตสดๆ สาดกระจายเต็มพื้น
ห่างออกไปนั้นผู้บำเพ็ญจำนวนมากที่กำลังนั่งขัดสมาธิฝึกบำเพ็ญอยู่มองดูจนไม่กล้ามองตรงๆ
“เฮ้อ คนสำนักหยกพิสุทธิ์สองคนนี่ช่างดื้อด้านจริงๆ!”
“นั่นน่ะสิ คิดจะหนีทุกปี สุดท้ายโดนตีกลับมาก็ยังไม่ยอมแพ้”
“น่าสงสารจริงๆ!”
“เหตุใดลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณถึงไม่ฆ่าพวกเขาเล่า”
“หากฆ่าพวกเขาแล้ว ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณจะดึงเสียงสนับสนุนจากผู้คนมาได้อย่างไร”
“ความจริงติดตามลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณก็ไม่เลว”
บรรดาผู้บำเพ็ญต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อโบยไปสักพัก หยางเทียนตงและโจวฝานถึงได้ถูกปล่อยตัวลงมา
ผู้หนึ่งแฝงไปด้วยสายเลือดเทพปีศาจ!
ผู้หนึ่งเป็นผู้บำเพ็ญระดับมหายานกลับชาติมาเกิด!
ยามนี้ ทั้งสองถูกโบยจนลมหายใจรวยริน
แส้ของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณไม่ใช่แส้ทั่วไป แต่ทำมาจากเอ็นของสัตว์ปีศาจชนิดหนึ่ง ยามที่ฟาดลงบนร่าง จะรู้สึกราวกับเนื้อถูกฉีกทิ้ง เจ็บปวดทรมานเป็นอย่างยิ่ง
หยางเทียนตงหมอบอยู่บนพื้น กัดฟันเอ่ยว่า “นี่ก็คือแผนของเจ้าหรือ ยังไม่ทันได้ออกไปก็ถูกจับเสียแล้ว!”
โจวฝานรู้สึกอัดอั้นเป็นอย่างมาก น้ำตาคลอเบ้า
กี่ปีแล้ว!
ทุกครั้งที่หนีล้วนล้มเหลว!
บัดซบ!
หากวันหน้าข้าสำเร็จมรรค จะต้องสังหารลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณของพวกเจ้า แม้แต่ไก่และหมาก็ไม่เว้น!
“พวกเราอย่าได้ดิ้นรนเลย รออาจารย์ข้ามาเถอะ” หยางเทียนตงถอดทอนใจกล่าว
อาจารย์นะอาจารย์!
เหตุใดท่านถึงยังไม่มา
สิบปีก่อน หลี่ชิงจื่อเคยมาที่นี่ คิดจะช่วยพวกเขาแต่ก็ล้มเหลว ทว่าก่อนไปหลี่ชิงจื่อแอบถ่ายทอดเสียงบอกเขาว่า ช้าเร็วหานเจวี๋ยจะต้องมาแน่ ให้พวกเขาช่วยทำให้จิตใจของศิษย์คนอื่นมั่นคงด้วย
และเป็นเพราะคำพูดนี้ ทำให้หยางเทียนตงถึงยืนหยัดมาโดยตลอด
โจวฝานกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “อาจารย์เจ้าใจเสาะขนาดนั้น ไม่มีทางมาหรอก!”
เขารู้แล้วว่าหานเจวี๋ยก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพ แม้จะรู้สึกตกตะลึง แต่เขาก็เข้าใจนิสัยของหานเจวี๋ย
พรสวรรค์ของคนผู้นี้น่าตกใจจริงๆ แต่เขากลัวตายนี่!
คนที่กลัวตาย ไม่มีทางที่จะมาช่วยพวกเขา!
หากจะมาก็มาเสียนานแล้ว!
หยางเทียนตงกัดฟันเอ่ย “วางใจเถอะ อาจารย์ข้าต้องมาแน่ ไม่แน่เขาอาจจะลอบสังเกตพวกเราอยู่ก็ได้ เพื่ออยากจะเห็นว่าข้าสามารถทนความลำบากและจิตใจมั่นคงพอหรือไม่!”
โจวฝานกรอกตา เขารู้สึกว่าเจ้าหนูนี่ถูกธาตุไฟและจิตมารเข้าแทรกแล้ว
เฮ้อ อย่าว่าแต่เขาเลย โจวฝานเองก็ใกล้จะทนไม่ไหวเต็มที
……
สองปีต่อมา
หานเจวี๋ยบุกทะลวงถึงระดับปราณก่อกำเนิดขั้นเก้า
จำต้องเอ่ยว่าโอสถของจอมมารนั้นมีผลเป็นอย่างมาก
หลังจากนี้จะต้องหาวิธีเอามาให้มากหน่อย
เดิมทีหานเจวี๋ยยังกังวลว่าเซวียนฉิงจวินจะมาหาเขาอยู่บ่อยๆ แต่ผลกลับเป็นเขาเองที่คิดมากไป
ดูท่าเซวียนฉิงจวินจะไม่ได้หลงใหลในกายเนื้อของเขา เหตุที่ผูกสัมพันธ์เป็นคู่บำเพ็ญเพียร คาดว่าก็เพื่อจะใช้ในขณะถือกำเนิดฐานะเดิมในภายหลัง
หานเจวี๋ยไม่กล้าเชื่อใจนางเด็ดขาด ก่อนที่จะถึงเวลานั้นเขาต้องพยายามแข็งแกร่งให้มากที่สุด หากถึงเวลานั้นเซวียนฉิงจวินอยากจะเค้นเขาจนแห้งเล่าจะทำอย่างไร
ระดับความประทับใจ 4.5 ดาวไม่ได้หมายความว่าเซวียนฉิงจวินจะไม่ทำร้ายเขา
มีกี่การสังหารแล้วที่เกิดขึ้นเพราะความรัก?
ภาพยนตร์ต่างประเทศในชาติก่อนมักจะถ่ายทอดอารมณ์เช่นนี้ โดยเฉพาะภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เหล่านั้น
หานเจวี๋ยเริ่มสืบทอดพลังวิเศษเมฆตีลังกา
เมฆตีลังกา ระยะที่เคลื่อนย้ายนั้นสัมพันธ์กับพลังวิญญาณที่ถ่ายเทเข้าไปในร่าง ไม่ใช่สามารถกระโดดได้แค่หนึ่งแสนแปดพันลี้
หลังจากสืบทอดสำเร็จ เขาก็ตรวจสอบดูผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักหยกพิสุทธิ์อีกครั้ง
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือกวนโยวกัง ระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นสอง
หานเจวี๋ยค้นหาผู้บำเพ็ญระดับปราณก่อกำเนิดต่อ เมื่อไม่เจอคนของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ เขาก็รู้สึกโล่งใจทันที
ยังมีเวลา!
ทำการฝึกบำเพ็ญต่อ ทะลวงระดับเปลี่ยนวิญญาณให้เร็วที่สุด
หานเจวี๋ยตั้งสติรวมจิตใจ ใช้พลังทั้งหมดดูดซับปราณ
หนึ่งเดือนต่อมา
หลี่ชิงจื่อมาหาหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยเลิกคิ้วถาม “ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณมาแล้วหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...