ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ นิยาย บท 469

สรุปบท บทที่ 469 ทะลวงระดับครึ่งอริยะ อริยะบังเกิดจิตมาร: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 469 ทะลวงระดับครึ่งอริยะ อริยะบังเกิดจิตมาร – ตอนที่ต้องอ่านของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

ตอนนี้ของ ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 469 ทะลวงระดับครึ่งอริยะ อริยะบังเกิดจิตมาร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 469 ทะลวงระดับครึ่งอริยะ อริยะบังเกิดจิตมาร

[ระดับความเกลียดชังที่อริยะมิ่งจีมีต่อท่านเพิ่มขึ้น ระดับความเกลียดชังในขณะนี้คือ 5 ดาว]

เมื่อหานเจวี๋ยเห็นจดหมายฉบับนี้ ก็อดที่จะรู้สึกโล่งใจขึ้นมาไม่ได้

นี่หมายความว่าพลังคำสาปแช่งของเขาสัมฤทธิ์ผลแล้ว

ผู้ที่อริยะมิ่งจีเกลียดชังคือตัวเขาในฐานะเจ้าแดนต้องห้ามอันธการ ไม่ใช่หานเจวี๋ย ดังนั้นเขาย่อมไม่รู้สึกกังวล

อีกอย่าง ณ ปัจจุบันขอเพียงอยู่ในอาณาเขตเต๋า แม้จะเป็นอริยะมรรคาสวรรค์ก็บุกเข้ามาไม่ได้

หานเจวี๋ยไม่คิดมากอีก ฝึกบำเพ็ญต่อ

….

หลังจากมรรคาสวรรค์เริ่มต้นใหม่ วันเวลาก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วยิ่ง

เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกแปดร้อยปีแล้ว

ในแดนมนุษย์ แปดร้อยปีเพียงพอจะทำให้เกิดการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์แล้ว

ในที่สุดหานเจวี๋ยก็ใกล้จะฝ่าทะลวงระดับครึ่งอริยะ แรงกรรมที่สั่งสมจากมหาเคราะห์หลายต่อหลายครั้งช่างมหาศาลไร้สิ้นสุด เพียงพอให้หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญต่อ

การทะลวงระดับครึ่งอริยะ ใช้เวลายาวนานกว่าการทะลวงระดับครั้งไหนๆ

เวลาผ่านไปยี่สิบปีเต็ม หานเจวี๋ยถึงได้เข้าสู่ระดับครึ่งอริยะ

เนื่องจากมีอาณาเขตเต๋าบดบังกลไกสวรรค์ หานเจวี๋ยจึงไม่ต้องเผชิญด่านเคราะห์ แต่อำนาจอันกล้าแกร่งที่เขาแผ่ออกมาแม้แต่เขตอาคมของระบบก็ไม่สามารถสะกดไว้ได้ ทุกคนในอาณาเขตเต๋าต่างสัมผัสรับรู้ได้

เขตอาคมระบบทำได้เพียงปกปิดสถานการณ์ภายในเท่านั้น ไม่สามารถปิดกั้นการรั่วไหลของกลิ่นอายภายในได้ ถึงอย่างไรหานเจวี๋ยก็มิใช่คนธรรมดา

แม้พลังอำนาจของหานเจวี๋ยจะกล้าแกร่ง ทว่าคนภายนอกก็ไม่สามารถมองทะลุค่ายกลป้องกันของอาณาเขตเต๋าได้

“อาจารย์ทะลวงระดับอีกแล้วหรือ”

“อำนาจกล้าแกร่งยิ่ง นี่มิใช่สิ่งที่ต้าหลัวจะบรรลุถึง”

“หรือจะเป็นอริยะ”

“ข้าว่าคงมิใช่การทะลวงระดับ แต่เป็นการสรรค์สร้างพลังวิเศษ”

“แน่นอน พลังวิเศษพวกนั้นของเจ้าสำนักล้วนเลิศล้ำอย่างยิ่ง มิเคยยลยินมาก่อน แสดงว่าระหว่างที่เขาฝึกบำเพ็ญได้ตระหนักรู้พลังวิเศษอยู่ตลอด”

สำหรับการทะลวงขั้นของหานเจวี๋ย ชาวสำนักซ่อนเร้นต่างรู้สึกปลดปลงยิ่งนัก

นี่ถือเป็นเรื่องดี ยิ่งหานเจวี๋ยแข็งแกร่งเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งปลอดภัยเท่านั้น และในขณะเดียวกันพวกเขาก็จะถูกกระตุ้นให้ยกระดับพลังมรรคไปด้วย

ภายในอารามเต๋า

หานเจวี๋ยทำให้ตบะเสถียรพลางตรวจดูหน้าจอสถานะไปด้วย

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 9820/1, 290, 009, 999, 999, 999, 999, 999]

[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ (มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต)]

[ตบะ: ระดับเซียนทองต้าหลัวเตรียมบุพกาลระยะต้น]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิน มหามรรคแห่งกรรม มหามรรคเอกอุบัติ]

….

เซียนทองต้าหลัวเตรียมบุพกาลระยะต้น!

เซียนทองต้าหลัวบุพกาลน่าจะหมายถึงระดับอริยะ

เป็นคำที่ชวนให้ลิ้นพันกันเสียจริง

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าอายุขัยของตนเพิ่มขึ้นสิบเท่าแล้ว!

หนึ่งแสนสองหมื่นล้านล้านล้านปี!

นอกจากข้าแล้วจะยังมีผู้ใดอีก!

รอจนตบะเสถียร หานเจวี๋ยจะสาปแช่งอริยะมิ่งจีเป็นอย่างดี

สิ่งที่ควรค่าให้กล่าวถึงคือ การทะลวงระดับครึ่งอริยะของหานเจวี๋ยไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบเลย

หรือว่าระบบไม่ยอมรับระดับขั้นนี้

หานเจวี๋ยรู้สึกหดหู่อยู่บ้าง จากนั้นก็ตั้งใจฝึกบำเพ็ญต่อ

เขาใช้เวลาสิบปีถึงทำให้ตบะเสถียรได้ จากนั้นจึงหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งอริยะมิ่งจี

ครั้งนี้เขาอยากเห็นว่าขีดจำกัดของตนอยู่ที่กี่ปี

ห้าวันผ่านไป

อายุขัยหานเจวี๋ยเริ่มลดลง เขาจ้องมองหน้าต่างค่าสถานะของตน

ร้อยล้านปี!

พันล้านปี!

หมื่นล้านปี!

แสนล้านปี!

อายุขัยลดลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ!

….

นอกชั้นฟ้าที่สามสิบสาม อริยะมิ่งจี เทพสูงสุดหนานจี๋ เจ้านิกายเทียนเจวี๋ย และอริยะจินอันรวมตัวกันอยู่ในศาลาหินหลังหนึ่ง เมฆหมอกโอบล้อมรอบๆ ดูสลัวและเลือนราง

หานเจวี๋ยอยากวัดขีดจำกัดของตัวเองว่าสรุปแล้วจะผลาญอายุขัยไปมากน้อยเพียงใด ถึงจะปรากฏค่าสถานะติดลบ

อายุขัยถูกหักลบไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งเสียไปสิบล้านล้านปี หานเจวี๋ยก็เริ่มใจสั่นแล้ว

บัดซบ เขาเป็นถึงครึ่งอริยะแล้ว จะสามารถสาปแช่งไปจนถึงท้ายที่สุดได้หรือไม่

ยืนหยัดต่อไปอีกหน่อยดีหรือไม่นะ

หานเจวี๋ยกัดฟันแน่น

ยามที่อายุขัยถูกหักไปสิบห้าล้านล้านปี ในที่สุดหานเจวี๋ยก็มองเห็นจดหมายฉบับหนึ่ง

[อริยะมิ่งจีศัตรูคู่อาฆาตของท่าน อริยะจิตปั่นป่วน บังเกิดจิตมารเนื่องจากคำสาปแช่งของท่าน]

หานเจวี๋ยหยุดมือทันที

หัวใจเขายังคงหลั่งโลหิตอยู่ดี

เสียอายุขัยไปสิบห้าล้านล้านปีถึงพอฝืนสาปแช่งให้บังเกิดจิตมารได้

นี่น่ะหรืออริยะมรรคาสวรรค์

หานเจวี๋ยเก็บหนังสือแห่งความโชคร้าย ตัดสินใจว่าต่อไปจะไม่วุ่นวายแล้ว

สิ้นเปลืองเกินไป

อริยะมิ่งจีไม่มีทางเป็นศัตรูรายสุดท้าย วันหน้าย่อมมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า อยู่ที่ว่าจะปรากฏตัวขึ้นช้าหรือเร็วเท่านั้น หากต้องผลาญอายุขัยไปเรื่อยๆ เช่นนั้นจะคุ้มกันหรือ

ความเร็วในการฝ่าทะลวงของหานเจวี๋ยเชื่องช้าลง เช่นนี้หมายความว่าอายุขัยของเขาไม่อาจฟื้นฟูอย่างรวดเร็วได้อีก

ต่อไปต้องหนักแน่นกว่านี้

ขณะที่หานเจวี๋ยใคร่ครวญกับตัวเองอยู่ อริยะมิ่งจีก็รู้สึกตื่นตระหนกแล้ว

อริยะมิ่งจีไปหาฉิวซีไหล ทั้งสองพบปะกันในตำหนักทองวิจิตรหรูหราหลังหนึ่ง

“อะไรนะ เจ้าแดนต้องห้ามอันธการสาปแช่งเจ้าจนเกิดจิตมารได้อย่างนั้นหรือ” ฉิวซีไหลได้ฟังก็ตกใจหน้าถอดสี

หากนำอริยะมิ่งจีมาเทียบกับเขา ย่อมมีเพียงความแข็งแกร่งมิมีอ่อนด้อย

หากสิ่งที่อริยะมิ่งจีบอกเป็นความจริง เจ้าแดนต้องห้ามอันธการผู้นั้นก็สามารถคุกคามเขาได้เช่นกัน

สีหน้าของอริยะมิ่งจีย่ำแย่อย่างยิ่ง เขากล่าวว่า “หากข้าพูดปด ดวงชะตามรรคาสวรรค์จะลดทอนลง!”

สีหน้าท่าทางของฉิวซีไหลดูตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม

เจ้าแดนต้องห้ามอันธการเป็นอริยะแน่นอน ถึงขั้นที่อาจจะแข็งแกร่งว่าอิรยะมิ่งจีเลยด้วยซ้ำ!

เป็นผู้ใดกันแน่

………………………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ