บทที่ 475 ความแข็งแกร่งของสำนักซ่อนเร้น นิกายเหรินหวังผงาด
ห้าสิบปีต่อมา
แดนเซียน ณ ชั้นฟ้าที่สิบสาม
ตำหนักอาคารแต่ละหลังตั้งเรียงรายอยู่เหนือหมู่เมฆ วิหคสวรรค์เรียงแถวโผบิน งดงามดั่งภาพวาด
มู่หรงฉี่ เต้าจื้อจุน และเจียงอี้นำเผ่าเอกาสองร้อยคนเหาะเหินเข้ามา พวกเขก้าวเดินไปด้านหน้าพลางเหลือบซ้ายแลขวา
“ที่นี่น่ะหรือเผ่าสวรรค์”
“ให้ความรู้สึกงามสง่าโอ่อ่ากว่าวังสวรรค์ในอดีตเสียอีก”
“ได้ยินว่าหัวหน้าเผ่าสวรรค์มีไมตรีใกล้ชิดกับเจ้าสำนักของพวกเราอย่างนั้นหรือ”
“จี้เซียนเสินเคยร่วมมือกับอาจารย์ปู่ต่อสู้กับเทพเซียน”
“ร่วมมือกันจริงๆ เลยหรือ”
พวกมู่หรงฉี่ทั้งสามคนกระซิบพูดคุย สายตาของพวกเขาสอดส่ายไปทั่วไม่หยุด
อำนาจกดดันของจักรพรรดิเซียนสองร้อยคนเมื่อรวมกันแล้วกล้าแกร่งยิ่งนัก ดึงดูดสายตาของสิ่งมีชีวิตต่างๆ หน้าตำหนักที่อยู่สองข้างทาง
ฟางฮวงจุนเหาะเข้ามา หยุดลงเบื้องหน้ามู่หรงฉี่พลางถาม “พวกเจ้าคือ…”
มู่หรงฉี่ตอบ “ศิษย์จากสำนักซ่อนเร้น มู่หรงฉี่”
ฟางฮวงจุนเลิกคิ้ว เขามองไปที่เต้าจื้อจุนและเจียงอี้
เขามีสีหน้าประทับใจอยู่บ้าง
เต้าจื้อจุนถาม “ฟางเหลียงล่ะ ยังไม่มาพบพวกเราอีกหรือ”
ฟางฮวงจุนกล่าวว่า “พวกเจ้าตามข้ามา จักรพรรดิสวรรค์ฟางกำลังหารือกับปรมาจารย์สวรรค์อยู่”
มู่หรงฉี่พยักหน้ารับ
ผู้คนจากสำนักซ่อนเร้นเดินหน้าต่อ การปรากฏตัวของพวกเขาก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำขึ้นในชั้นฟ้าที่สิบสาม
หลังจากซูฉีสำแดงพลังวิเศษทำลายมรรคา อย่าว่าแต่จักพรรดิเซียนเลย แม้กระทั่งตัวตนระดับเทพก็เหลืออยู่ไม่เท่าไร แม้แต่จักรพรรดิเซียนแห่งสามนิกายสำนักเต๋าก็เหลืออยู่น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
จักรพรรดิเซียนของเผ่าสวรรค์มีอยู่มากที่สุด เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากพลังวิเศษทำลายมรรคา
ตำหนักหลังหนึ่งในบรรดานั้นเป็นที่พำนักชั่วคราวของนิกายเจี๋ย
ภายในตำหนัก จิ่งเทียนกงและหวงจุนเทียนกำลังหารือเรื่องพื้นที่ที่ต้องการช่วงชิงมาให้ได้
ถึงแม้แดนเซียนจะใหญ่โต แต่นิกายเจี๋ยมีฐานะเป็นนิกายหลักของสำนักเต๋า พื้นที่ที่ต้องได้รับไม่อาจน้อยไปกว่ากลุ่มอิทธิพลอื่นได้ นี่เป็นปัญหาเรื่องหน้าตา หากเป็นเช่นนี้นานไปจะถูกกลืนกินอย่างเงียบงัน ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของนิกายเจี๋ยในใจของสรรพสิ่ง
ทันใดนั้นศิษย์คนหนึ่งวิ่งถลาเข้ามา
“เจ้านิกาย รองเจ้านิกาย กลุ่มอิทธิพลลึกลับกลุ่มหนึ่งมาเยือนชั้นฟ้าที่สิบสาม ไม่น่าเชื่อว่ามีจักรพรรดิเซียนถึงสองร้อยคน!”
ศิษย์นิกายเจี๋ยคุกเข่าอยู่บนพื้น เอ่ยเสียงขรึม
จักรพรรดิเซียนสองร้อยคน!
จิ่งเทียนกงและหวงจุนเทียนล้วนแสดงสีหน้าประหลาดใจ
จิ่งเทียนกงเอ่ยถาม “กลุ่มอิทธิพลใดกัน”
ศิษย์นิกายเจี๋ยเอ่ย “ดูเหมือนจะเรียกว่าสำนักซ่อนเร้นขอรับ”
สำนักซ่อนเร้น!
หนังตาหวงจุนเทียนพลันกระตุก
จิ่งเทียนกงหรี่ตาพลางกล่าวว่า “สำนักซ่อนเร้น…เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ช้าก่อน ดูเหมือนจักรพรรดิสวรรค์ฟางก็มาจากสำนักซ่อนเร้น สำนักซ่อนเร้นเป็นกลุ่มอิทธิพลจากโลกมนุษย์หรือ”
ศิษย์นิกายเจี๋ยเอ่ยว่า “ผู้นำคณะสำนักซ่อนเร้นคืออดีตจักรพรรดิเมี่ยวเจินบุตรแห่งสวรรค์จากวังเทพ ซ้ำยังมีเต้าจื้อจุนบุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่งของวังเทพและเจียงอี้บุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่งจากเผ่าเทพอีกาทองด้วยขอรับ”
ตอนนี้ จิ่งเทียนกงสงบใจไม่อยู่แล้ว
กลุ่มอิทธิพลที่เก่งกาจเช่นนี้จำเป็นต้องให้ความสนใจ!
เช่นเดียวกับวังเทพในครั้งอดีต จู่ถูรับตัวผู้ปราชัยจากกลุ่มอิทธิพลต่างๆ รวมตัวก่อตั้งเป็นกลุ่มวังเทพ เคยเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มอิทธิพลมรรคาสวรรค์
“เห็นทีว่าข้าจะต้องไปจัดการด้วยตัวเองแล้ว” จิ่งเทียนกงพึมพำกับตัวเอง
สถานการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นในตำหนักที่พักของกลุ่มอิทธิพลต่างๆ เช่นกัน
หลังจากมหาเคราะห์สิ้นสุดลง กลุ่มอิทธิพลที่ยังสามารถนำจักรพรรดิเซียนสองร้อยคนออกมาได้เช่นนี้น่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง จะต้องพยายามดึงมาเป็นพวกให้ได้ หรืออย่างน้องก็ต้องเชื่อมสัมพันธ์ไว้ หลีกเลี่ยงการกลายเป็นศัตรูกันในวันข้างหน้า
….
เขตเซียนร้อยคีรี
หานเจวี๋ยคำนวณเวลา งานเลี้ยงเผ่าสวรรค์น่าจะเริ่มขึ้นแล้ว
เขาหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมา ติดต่อหาฟางเหลียง หวังว่าฟางเหลียงจะช่วยดูแลชาวสำนักซ่อนเร้นสักหน่อย
ฟางเหลียงรับประกันว่าจะไม่เกิดเรื่องกับสำนักซ่อนเร้นแน่นอน กล่าวว่าเขาหารือกับจี้เซียนเสินไว้เรียบร้อยแล้ว จะต้องปฏิบัติต่อสำนักซ่อนเร้นอย่างดีแน่นอน
หานเจวี๋ยยังคงไว้ใจพวกเขาทั้งสองยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...