ภายในตำหนักของเจ้าลัทธิ
ผู้อาวุโสหลายท่านยืนเรียงราย แต่ละคนมีท่วงท่าไม่ธรรมดา สวมอาภรณ์สีดำทั้งชุด ดูราวกับปีศาจร้าย
ด้านหน้าของพวกเขา คือชายผู้หนึ่งที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทองคำ
ชายผู้นี้สวมอาภรณ์สีขาว ผมยาวสยาย ผิวขาวเกลี้ยงเกลา ทว่าใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลา เฒ่าชราอย่างเห็นได้ชัด
เขาคือหวงจุนเทียน เจ้าลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณ!
หวงจุนเทียนขมวดคิ้ว เอ่ยปากขึ้น “สำนักกระบี่วิหคชาดต้องการปะทะกับพวกเราจริงหรือ”
เหล่าผู้อาวุโสรีบเอ่ยตอบ
“ไม่ผิด! รนหาที่ตายยิ่งนัก!”
“เสนอให้ฆ่าหวงจี๋เฮ่าเสีย ทำให้พวกมันรู้สึกกลัวเสียบ้าง!”
“หวงจี๋เฮ่าปากเหม็นนั่น ข้าเองก็คิดว่าฆ่าเขาเสียก็ดี สำนักกระบี่วิหคชาดเพียงแค่ต้องการช่วยเขาเท่านั้น”
“สำนักกระบี่วิหคชาดก็มีระดับเปลี่ยนวิญญาณเพียงสองคน สำนักหยกพิสุทธิ์ก็มีเพียงสอง หนึ่งในนั้นมีผู้หนึ่งไม่กล้ามา กำลังเพียงเท่านี้ให้พวกเขาโจมตีสักร้อยปี ก็ไม่อาจโจมตีเข้ามาในพื้นที่ของเราได้!”
“ใช่ๆ!”
……
ฟังวาจาของผู้อาวุโสเหล่านี้ หัวคิ้วของหวงจุนเทียนกลับไม่ได้ผ่อนคลายลง
เขาเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ “พวกเขาไม่กลัวเกรงเช่นนี้ หรือจะมีอิทธิพลใดหนุนอยู่เบื้องหลัง?”
ผู้อาวุโสรูปร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้ “ท่านเจ้าลัทธิ! ท่านคิดมากเกินไปแล้ว พวกเราคือลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยน! อย่าได้เป็นกังวลจนเกินไป มีความเชื่อมั่นหน่อยได้หรือไม่?”
หลังจากศึกใหญ่เมื่อพันปีก่อน หวงจุนเทียนก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ว่าเรื่องใดเขาก็มักจะคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดเสมอ
เนื่องจากนิสัยของเขาแปรเปลี่ยน ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณถึงต้องซ่อนตัวถึงพันปี
ยามนี้ลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง เหล่าผู้อาวุโสจึงบีบให้หวงจุนเทียนมีคำสั่ง รวบรวมแดนบำเพ็ญพรตต้าเยี่ยนเป็นหนึ่ง
ทว่าหวงจุนเทียนระแวดระวังเกินไป พูดได้แม้กระทั่งว่าขลาดกลัว ทำให้แผนเอกภาพต้องยืดเยื้อออกไป
หากหวงจุนเทียนมีคำสั่ง ศิษย์สำนักฝ่ายต่างๆ ที่ถูกจับมาเป็นเชลยเหล่านั้นคงตายไปเสียนานแล้ว
“ข้าขอเสนอ ให้ผู้อาวุโสสองท่านจากแต่ละพรรคไปโจมตีสำนักกระบี่วิหคชาดและสำนักหยกพิสุทธิ์ สำนักของพวกเขาจะต้องขาดกำลังต่อสู้อย่างแน่แท้ นี่เป็นโอกาสที่ดี” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเสนอขึ้น
วาจาของเขาได้รับความเห็นพ้องต้องกันจากผู้อาวุโสท่านอื่นๆ
นี่เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ!
หวงจุนเทียนขมวดคิ้ว ไม่ได้เอ่ยวาจาใด
สุดท้าย บรรดาผู้อาวุโสต่างก็มองไปที่เขา รอเขาตัดสินใจ
หวงจุนเทียนเอ่ยถามอย่างลังเล “จำเป็นต้องรบหรือ”
“จำเป็นต้องรบ!”
“เอาเถิด ถ้าอเช่นนั้นข้าจะลงมือเอง ข้าไม่วางใจพวกเจ้า ข้าจะไปที่สำนักกระบี่วิหคชาดและสำนักหยกพิสุทธิ์เอง เช่นนี้เป็นอย่างไร”
“เจ้าลัทธิปรีชา!”
เหล่าผู้อาวุโสกล่าวด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มของพวกเขาล้วนดูฝืดฝืน
หากเจ้าลัทธิไป คาดว่าคงต้องยืดเวลาออกไปอีก
……
หลายเดือนผ่านไป
หานเจวี๋ยฝึกบำเพ็ญวิชาวัฏจักรหกวิถีขั้นห้าสำเร็จ เขาเข้าใจถึงพลังวิเศษอันใหม่แล้ว
หรือกล่าวให้ถูกต้องก็คือความก้าวหน้าของพลังดูดวิญญาณหกสาย
เขาสามารถดูดวิญญาณไว้ในส่วนลึกของจิตดั้งเดิม วิธีนี้ทั้งสามารถปกป้องวิญญาณ และยังสามารถกักขังวิญญาณได้
นอกจากนี้ เขายังสามารถสร้างตราประทับหกวิถีไว้บนวิญญาณได้
ตราประทับหกวิถีจะคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าฝ่ายอีกฝ่ายจะกลับชาติมาเกิดอีกกี่ครั้ง ตราประทับหกวิถีก็จะยังคงอยู่ เท่ากับว่าสามารถข้ามวัฏจักรไปหาอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ
สิ่งนี้นับว่าไม่เลว
หากภายภาคหน้าคนที่เขาใส่ใจสิ้นชีวา เขาก็สามารถสร้างตราประทับหกวิถี พบพานกันใหม่ในภพหน้าได้
ระดับขั้นยิ่งสูง หานเจวี๋ยยิ่งค้นพบว่าพลังวิญญาณหกสายยิ่งร้ายกาจขึ้นเรื่อยๆ
เขาหยิบโอสถออกมาแล้วทำการฝึกบำเพ็ญต่อ
ระดับเปลี่ยนวิญญาณขั้นหนึ่งยังไม่พอ!
เขาต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้!
เป้าหมายต่อไป ระดับสุญตา
หานเจวี๋ยไม่เห็นเรื่องของลัทธิศักดิ์สิทธิ์อาภรณ์ป้องพิรุณอยู่ในสายตาอีกแล้ว ที่เขากังวลคือสำนักมารปีศาจ
เขายังไม่ลืมเซียวเอ้อร์ รูปของเจ้าหมอนี่ยังแปะในค่าความสัมพันธ์ไม่ได้หายไปไหน ยังคงอัปลักษณ์เช่นเดิม ระดับความอาฆาตแค้นยังคงสูง ไม่ตายไม่เลิกรา
ที่สำคัญคือเซียวเอ้อร์ผู้นี้ยังไม่ใช่เจ้าสำนัก นี่ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
กำลังที่แท้จริงของสำนักมารปีศาจแข็งแกร่งเพียงใดกัน?
ขณะที่หานเจวี๋ยกำลังกลัดกลุ้มอยู่นั้น ฉางเยวี่ยเอ๋อร์ก็มาเยี่ยมเยียน
กล่าวให้ถูกต้องก็คือเซียนซีเสวียนให้มาเชิญเขา
เป็นการยากนักที่เซียนซีเสวียนจะเชื้อเชิญ เขาย่อมต้องไว้หน้าเป็นธรรมดา
เขารีบไปทันที
พอมาถึงตำหนักหยกวิเวก ศิษย์ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่นั่น ศิษย์เอกหลิ่วซานซินได้สำเร็จการฝึกบำเพ็ญไปเป็นศิษย์แกนหลักแล้ว ศิษย์เอกในตอนนี้คือเมิ่งเหอที่เป็นศิษย์พี่เจ็ดในตอนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...