บทที่ 495 บรรพจารย์ซานชิง ฟ้าร้าว
หานเจวี๋ยนับนิ้วทำนาย แต่ก็ไม่อาจทำนายถึงที่มาของความกระสับกระส่ายได้
เขาจำเป็นต้องใช้ระบบวิวัฒนาการเพื่อสอบถาม
‘เหตุใดข้าจึงรู้สึกกระสับกระส่าย’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
นี่เป็นราคาของอริยะมรรคาสวรรค์!
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เลือกดำเนินการต่อ
เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาในหัวเขา ข้อความแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้า
[บรรพจารย์ซานชิง: ระดับครึ่งอริยะขั้นสมบูรณ์ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ผสานรวมกับปราชญ์วิถี ศิษย์บรรพชนเต๋า แข็งแกร่งที่สุดในแดนเซียน เนื่องจากท่านรับตัวหลี่เต้าคงและหลี่เสวียนเอ้าไว้ หลี่มู่อีถูกอริยะที่เหลือเยาะเย้ยถากถาง พลันบันดาลโทสะปลดปล่อยบรรพจารย์ซานชิงออกมา เตรียมประกาศต่อแดนเซียนว่าจะปราบปรามสำนักซ่อนเร้นรวมถึงสำนักนิกายแห่งโชคชะตาอื่นๆ]
บรรพจารย์ซานชิงผมสีขาวโพลน ท่าทางสูงส่งมีคุณธรรม บนรูปประจำตัวไม่มีจุดพิเศษใดๆ
ผสานรวมกับปราชญ์วิถี หรือจะถือกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวของเหล่าจื่อ เจ้านิกายทงเทียน และเทพสูงสุดหยวนสื่อ?
หากเป็นตามนี้จริง เช่นนั้นก็แข็งแกร่งมาก
แข็งแกร่งที่สุดในแดนเซียน นี่เป็นตำแหน่งตามโชคชะตา!
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว ถามในใจ ‘ข้าสู้บรรพจารย์ซานชิงได้หรือไม่’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสามพันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[เมื่ออยู่ภายใต้มรรคาสวรรค์ ท่านไม่อาจสังหารบรรพจารย์ซานชิงได้ หากอยู่นอกเขตมรรคาสวรรค์ ท่านสังหารบรรพจารย์ซานชิงได้]
หานเจวี๋ยเลิกคิ้ว ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ทั่วทั้งแดนเซียนเปรียบเสมือนอาณาเขตเต๋าของบรรพจารย์ซานชิง จึงไร้พ่ายในอาณาเขตเต๋านี้
แต่หานเจวี๋ยไม่เกรงกลัวเลย บรรพจารย์ซานชิงมิใช่อริยะ ไม่สามารถฝ่าเข้ามาในอาณาเขตเต๋าของเขาได้
อีกอย่างจากผลลัพธ์ที่เห็นในระบบวิวัฒนาการก่อนหน้านี้ การปรากฏตัวขึ้นของบรรพชนเต๋ามิได้พุ่งเป้ามาที่หานเจวี๋ยเพียงคนเดียว แต่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มอิทธิพลทั่วแดนเซียน
‘มหาเคราะห์สิ้นสุดลงยังไม่ถึงสองพันปี หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ก่อเรื่อง ตั้งใจพากเพียรฝึกบำเพ็ญ’
หานเจวี๋ยคิดเงียบๆ
ภายในสถานการณ์ปกติ ยังมีเวลาอีกหลายหมื่นล้านปีกว่าจะถึงมหาเคราะห์ครั้งต่อไป กลัวก็แต่จะมีอริยะเข้ามาแทรกแซง
อย่างไรเสียต่อให้อริยะลงมือจริง ปัจจัยที่จะกระตุ้นให้เกิดมหาเคราะห์ได้คือสิ่งมีชีวิตในแดนเซียนต้องมีมากพอ
หากไม่มีตัวหมาก จะเดินหมากได้อย่างไร
หากมรรคาสวรรค์รับรู้ถึงเป้าหมายไม่ได้ ย่อมไม่ปลดปล่อยแรงกรรมไร้ขอบเขตออกมา
หานเจวี๋ยลุกขึ้นพลางเดินออกมาจากอารามเต๋า สภาพอารมณ์ถูกบรรพจารย์ซานชิงทำให้ปั่นป่วนว้าวุ่น ออกไปเล่นสักหน่อยคงดี
เหล่าศิษย์สำนักซ่อนเร้นล้วนออกมาจากที่พำนักของตนกันแล้ว กำลังพูดคุยถึงนิมิตหมายประหลาดบนฟากฟ้า
เมื่อหานเจวี๋ยก้าวมาหยุดใต้ต้นฝูซัง เหล่าศิษย์ก็ล้อมวงเข้ามาหาทันที
“นายท่าน นิมิตหมายนี้หมายความว่าอย่างไรกัน” ไก่คุกรัตติกาลเปิดฉากถามก่อน
หานเจวี๋ยตอบด้วยรอยยิ้ม “อาจมีผู้ทรงพลังบางท่านเผยตัวสู่โลกกระมัง หรืออาจเป็นนิกายเหรินมาโจมตีพวกเรา หากพวกเจ้าออกไป ต้องตายแน่นอน”
ไก่คุกรัตติกาลรีบพยักหน้ารับด้วยความตื่นตระหนก ตอบว่า “ข้าไม่มีทางออกไปหรอก ผู้ใดออกไป ผู้นั้นคือไอ้โง่”
ถูหลิงเอ๋อร์ขยับเข้ามาถาม “อาจารย์ เมื่อไรถึงจะเรียกข้าไปหาที่อารามเต๋าของท่านล่ะเจ้าคะ”
วาจาเช่นนี้ก็กล่าวออกมาได้!
หานเจวี๋ยทราบดีว่าถูหลิงเอ๋อร์หมายถึงอะไร เขาตอบกลับอย่างสงบว่า “รอให้เจ้าก้าวหน้าแล้วค่อยว่ากัน”
เขาหายตัวขึ้นไปบนต้นฝูซัง ถามมันว่า “สถานการณ์ในช่วงนี้เป็นอย่างไร”
ต้นฝูซังตอบ “ข้าสร้างวังวนมิติได้อีกสองแห่ง แต่ยังไม่ได้รับคำอนุญาตจากท่าน ข้าจึงไม่ได้เปิดใช้”
หานเจวี๋ยเอ่ยยิ้มๆ “ไม่เลว เชื่อฟังคำสั่งเป็นแล้ว ลองเปิดดูเถิด”
พอกล่าวจบ วังวนมิติสองแห่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหานเจวี๋ย
หานเจวี๋ยใช้พลังจิตกวาดผ่านแวบหนึ่ง ภาพรวมของโลกจากทั้งสองวังวนปรากฏสู่ครรลองสายตาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียบกับโลกพันอนันต์ อีกสองโลกอ่อนแอกว่ามากนัก ผู้แข็งแกร่งที่สุดเป็นเพียงต้าหลัว
‘ดูเหมือนพวกเขาจะมีวิถีมรรคาสวรรค์เป็นของตัวเอง’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...