บทที่ 499 ความเป็นอมตะ โหมสู้กับอริยะ
หานเจวี๋ยคิดไปคิดมา ตัดสินใจจะทำนายดูล่วงหน้าว่าผู้ใดวางแผนร้ายอยู่
[จำเป็นต้องหักอายุขัยสี่พันล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[เทพสูงสุดหนานจี๋]
หานเจวี๋ยไม่รู้สึกแปลกใจเลย ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ไม่ตกใจทั้งนั้น
เทพสูงสุดหนานจี๋เป็นเจ้านิกายฉ่าน ถ้าหานเจวี๋ยจะเอาคืนเขา สามารถพุ่งเป้าไปที่นิกายฉ่านได้ เช่นนั้นตัวตนจะได้ไม่ถูกเปิดโปงง่ายๆ
เรื่องสำคัญอย่างปราณม่วงอนธการ ลำพังนิกายฉ่านไม่มีทางวางแผนได้ คาดว่าคงเป็นอริยะลงมือจัดแจงเองเป็นแน่
หานเจวี๋ยวางเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว เอาไว้จัดการทีหลัง
ต่อให้สิ่งมีชีวิตทั่วแดนเซียนมาโจมตีเขตเซียนร้อยคีรี ก็ไม่มีทางทำลายค่ายกลอาคมได้
ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าระดับอริยะล้วนเป็นมดปลวก!
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ตัวอริยะเองก็เข้ามาไม่ได้เช่นกัน!
หานเจวี๋ยเริ่มฝึกฝนร่างจำลองเสรีสุญญตา ทะลวงขั้นได้อีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะฝึกฝนร่างจำลองเทพมารได้กี่ตน
สามสิบปีผ่านไป
หานเจวี๋ยได้ฝึกฝนร่างจำลองเทพมารไร้ครรลอง เทพมารรุ้งพราย เทพมารเวิ้งว้าง เทพมารแสงคำสาป เทพมารศิลา เทพมารแยกฟ้า เทพมารกาลเวลา เทพมารข้ามภพ เทพมารปรารถนาลวง เทพมารเขย่าขวัญ เทพมารหลงระเริง เทพมารร่างดาบ เทพมารอำพราง เทพมารลมปราณ เทพมารหฤทัย
ร่างจำลองเทพมารสิบห้าตน!
มีร่างจำลองเทพมารทั้งหมดสี่สิบเก้าตนแล้ว!
พลังของหานเจวี๋ยเพิ่มพูนมหาศาล เขาเริ่มใช้แบบจำลองการทดสอบทันที
เป็นเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ต่ำกว่าอริยะลงไปสามารถสังหารได้ในชั่วพริบตา!
มีความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งคือหานเจวี๋ยสามารถต่อกรกับอริยะได้แล้ว!
เขาท้าสู้กับฝูซีเทียน สำแดงร่างจำลองเทพมารสี่สิบเก้าตนออกมาพร้อมกัน ผลการต่อสู้คือเสมอกับฝูซีเทียน
ร่างจำลองเทพมารทั้งสี่สิบเก้าตนต่างเป็นตัวแทนของกฎเกณฑ์แขนงหนึ่ง กล่าวให้ชัดขึ้นคือเป็นมหามรรคฉบับย่อ เมื่อสำแดงออกมาพร้อมกัน สามารถทำลายฟ้าถล่มพสุธาได้
แต่ก็ทำได้แค่เสมอกันเท่านั้น!
หานเจวี๋ยรู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก
ทั้งหมดนี้สังหารอริยะมรรคาสวรรค์ไม่ได้หรือ
เช่นนั้นภายหน้าเขาจะข้ามขั้นไปสังหารศัตรูได้อย่างไรกัน
เขาเริ่มโจมตีฝูซีเทียนอย่างบ้าคลั่ง ท้าสู้อยู่เรื่อยๆ
เวลาผ่านไปสิบปีเต็ม หานเจวี๋ยสังหารฝูซีเทียนไม่สำเร็จ จำเป็นต้องกล่าวเลยว่า อริยะมรรคสวรรค์เลิศล้ำโดยแท้
“ถ้าอยากสังหารอริยะ อาจต้องตัดให้ขาดจากดวงชะตามรรคาสวรรค์เสียก่อน”
หานเจวี๋ยพึมพำกับตัวเอง แววตาวูบไหว
ภายในการต่อสู้ เขาสังหารฝูซีเทียนไปหลายต่อหลายครั้ง แต่คนผู้นี้ฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็ว ราวกับเป็นอมตะฆ่าไม่ตาย
ต้องเผชิญหน้ากับตัวตนที่เป็นอมตะฆ่าไม่ตาย แม้จะเป็นหานเจวี๋ย สภาพจิตใจก็แทบพังทลายเช่นกัน
‘ต่อไปหากปะทะกับอริยะเข้าจริงๆ มีความเป็นไปได้ที่เขาจะแกล้งตาย แล้วย้อนมาตลบหลังข้า’
เมื่อนึกถึงสถานการณ์นี้ หานเจวี๋ยก็ขนลุกขึ้นมาทันที
โชคดีที่มีแบบจำลองการทดสอบ มิเช่นนั้นเขาคงพลาดท่าในตอนท้าย
หานเจวี๋ยตัดสินใจแล้วว่าหลังจากพิสูจน์มรรคได้ จะท้าสู้กับอริยะแต่ละรายเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี หาวิธีที่สังหารศัตรูได้ง่ายที่สุด ปลิดชีพด้วยการโจมตีครั้งเดียว!
หานเจวี๋ยลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสายพลางก้าวออกจากอารามเต๋า
“ศิษย์ทั้งหลายจงเตรียมสดับธรรม!”
เสียงหานเจวี๋ยแว่วดังไปทั่วเขตเซียนร้อยคีรี
ศิษย์ทุกคนตื่นเต้นคึกคัก กรูกันไปยังจุดสดับฟังธรรมทันที
แม้แต่หลี่เต้าคงและหลี่เสวียนเอ้าก็รีบไปในทันใด เห็นได้ชัดว่าตั้งตารอคอยมานานแล้ว
….
นอกเขตเซียนร้อยคีรี สิ่งมีชีวิตมารวมตัวกันมากมาย กวาดสายตามองออกไป มากมายจนไม่อาจนับให้ถ้วนได้
วิหคยักษ์ตัวหนึ่งบินวนเวียนอยู่บนฟ้า ขนปีกบนร่างสีดำขลับดั่งเหล็กไหล หนาแน่นมันวาว มันสยายปีกกว้างร้อยลี้ รูปลักษณ์คล้ายเหยี่ยวภูเขา มีสามหางที่ดูคล้ายกับหางแมว
“ด้านในมีเทพเซียนมากมายนัก!”
เหยี่ยวสามหางกล่าวด้วยความตื่นเต้น เสียงแว่วดังไปทั่วทิศ
ในเขตเซียนร้อยคีรีมีเทพเซียนอยู่มากมายปานนี้ เช่นนั้นข่าวลือเรื่องปราณม่วงอนธการมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นความจริง
“เทพเซียนหรือ”
“เห…ไยจึงมีมากมายปานนี้”
“ที่แท้สำนักซ่อนเร้นก็มีตัวตนอยู่จริง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ
รอดสักทีนะหวงจุนเทียน...
สงสารหวงจุนเทียน.......
จะได้เห็นพิสูจน์เทพผู้สร้างไหมหนอ...
จะไม่กลับมาจริง ๆ เหรอ...